ทุนต่างชาติยังขยาดลงทุนอสังหาฯในไทย
การเมืองไทยไม่นิ่ง 2 ปี ทำทุนต่างชาติ ขยาดไม่เข้ามาลงทุนอสังหาฯไทย ขณะที่ธุรกิจในประเทศโดยเฉพาะประกัน กระจายความเสี่ยงลงทุนอสังหาฯประเภทสำนักงานให้เช่า
การเมืองไทยไม่นิ่ง 2 ปี ทำทุนต่างชาติ ขยาดไม่เข้ามาลงทุนอสังหาฯไทย ขณะที่ธุรกิจในประเทศโดยเฉพาะประกัน กระจายความเสี่ยงลงทุนอสังหาฯประเภทสำนักงานให้เช่า
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าผลจากความไม่สงบทางการเมืองในประเทศที่รุนแรงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกที่มีปัญหา รวมถึงผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้กลุ่มทุนต่างชาติ ขายอสังหาฯที่เคยถือครองออกไป และปัจจุบันยังมีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาน้อยลงทุนด้านอสังหาฯน้อย ซึ่งปัจจุบันกลุ่มที่เข้ามาลงทุนหลัก คือ บริษัทประกัน กองทุนอสังหาฯที่อยู่ในเอเชีย เพราะกลุ่มธุรกิจเหล่านี้มีเม็ดเงินลงทุนมากทำให้ต้องการกระจายการลงทุนมายังอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่นอาคารสำนักงานให้เช่า
“ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจประกัน มีบทบาทต่อธุรกิจอสังหาฯมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากการการซื้อขายอาคารสำนักงานในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ล้วนมาจากนักลงทุนกลุ่มนี้ทั้งนั้น รวมถึงนักธุรกิจรายใหญ่ 5 อันดับแรกของไทยที่ยังมีการซื้อพอร์ตอสังหาฯหรือที่ดิน”นางสุพินท์กล่าว
นอกจากนี้ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯในปีนี้ มียอดการเช่าพื้นที่สูงขึ้น โดยซัพพลายที่จะสร้างเสร็จในปีนี้ อยู่ที่ 127,410 ตารางเมตร จากปีก่อนมีเพียง 5,591 ตารางเมตรเท่านั้น ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯชั้นใน ระดับไฮเอ็น ราคา 1.5 แสนบาทขึ้นไป มีจำนวนยูนิตที่สร้างเสร็จอีก 1,894 ยูนิต จากจำนวนยนิตที่มีอยู่ในตลาด 22,834 ยูนิต ส่วนคอนโดมิเนียมระดับกลาง ราคาขาย 9หมื่นบาท-1.5 แสนบาท ต่อยูนิต จะมีจำนวนยูนิตที่สร้างเสร็จเพิ่ม 3,352 ยูนิต จากจำนวนยูนิตที่มีอยู่ในตลาด 21,547 ยูนิต
สำหรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้ตลาดเช่าซื้อโรงงานและที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น จากการขายตัวของเศรษฐกิจเอเชีย อย่างไรก็ตามคู่แข่งรายสำคัญของไทยในปัจจุบันคือ อินโดนีเชีย จากอดีตที่เป็นเวียดนาม แต่มีปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมายที่ไม่ชัดเจน รวมไปถึงระบบขนส่งและแรงงานไม่ได้คุณภาพ
ทั้งนี้ อินโดนีเชีย มีข้อได้เปรียบไทยที่ค่าแรงถูกกว่าถึง 30% ภาวะการเมืองในปัจจุบันนิ่งกว่าไทย แต่มีปัญหาในเรื่องภูมิประเทศที่เป็นเกาะอยากแก่การขนส่ง อย่างไรก็ตามไทยมีข้อได้เปรียบ คือ ฝีมือแรงงานที่มีคุณภาพ อีกทั้งไทยขึ้นชื่อเรื่องศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคเอเชีย แต่ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองจะเป็นปัจจัยกระทบต่อการลงทุน