เปิดตัวหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 ชุด เตรียมเสนอขายวันที่ 18 – 19 และวันที่ 22 พ.ค. นี้
“บริทาเนีย” เปิดตัวหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00-4.70% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ย ทุก 3 เดือน คาดเสนอขาย 18-19 และ 22 พ.ค. นี้ ปักธงเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรระดับท็อป เตรียมเปิดตัวโครงการ 20 โครงการ มูลค่ารวม 22,500 ล้าน พร้อมเป้ายอดขายสูงสุด 13,000 ล้าน
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนทั่วไป โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.70% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่ทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
โดยคาดว่าหุ้นกู้ของบริษัทจะเสนอขายระหว่างวันที่ 18 – 19 และวันที่ 22 พ.ค. 2566 นี้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บริษัท และชำระเงินกู้ยืมคืนให้กับบริษัทใหญ่
ขณะเดียวกัน บริทาเนียและหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2565 ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งเป็นระดับลงทุนได้หรือ Investment Grade สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของบริทาเนียที่เป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในปี 2566 บริษัทดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “B To The Top” มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนา บ้านจัดสรรระดับท็อปใน 3 มิติ ได้แก่ 1.B The Growth ก้าวสู่ระดับท็อปของตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (All Time High) จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท
2.B The Craft มุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์บ้านจัดสรรระดับท็อปในใจผู้บริโภค ด้วยวัฒนธรรมองค์กร Craft Mindset อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าให้คุณค่า ในการสร้างสรรค์ ดูแล และบริการที่ยกระดับให้แก่ผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมการอยู่อาศัย และ 3.B The Goodnessมุ่งเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในโครงการและชุมชนรอบด้าน ตลอดจนเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050
“เราเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของ BRI ทั้ง 2 ชุด จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มองหาโอกาสลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้ที่มีความมั่นคง ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade พร้อมทั้งแผนการสร้างการเติบโตแบบ All Time High เป้าหมายยอดขายสูงสุด 13,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจตลอดการถือครอง” นายสุรินทร์ กล่าว