posttoday

SIRI กางแผนระดมทุนปี 66 รองรับโปรเจกต์ใหม่ 7.5 หมื่นล้านบาท

06 มีนาคม 2566

"แสนสิริ" โชว์แผนเปิดตัวโครงการใหม่ 52 โครงการ มูลค่ารวม 75,000 ล้านบาท ใช้งบลงทุน 30,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เติบโต 10% และเป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ (SIRI) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 52 โครงการ มูลค่ารวม 75,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 30 โครงการ และคอนโดมิเนียม 22 โครงการ  โดยโครงการที่จะเปิดตัวใหม่คาดว่าจะใช้งบลงทุนปีนี้ประมาณ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบก่อสร้าง 20,000 ล้านบาท และงบซื้อที่ดินอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่  55,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% และเป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท 

 

ส่วนแผนระดมทุนเพื่อรองรับการลงทุนในปี 2566 นี้ โดยมีสัดส่วนยังมาจากหุ้นกู้  60% โดยมีแผนจะออกทั้งปี  1.2 - 1.4 หมื่นล้านบาท  โดยช่วงต้นปี ( 25 - 27 ม.ค. 2566 ) ออกไปแล้วมูลค่า 6,000 ล้านบาท และปลายปีนี้คาดจะออกอีกประมาณ 6,000 - 8,000 ล้านบาท จำนวนนี้เป็นการรองรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดปีนี้ 10,000 ล้านบาท  ทั้งนี้หุ้นกู้ของบริษัท ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากบริษัททริสเรทติ้ง ที่ "BBB+" ส่วนที่เหลืออีก 30% มาจากโปรเจกต์ไฟแนนซ์  หรือสินเชื่อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จากสถาบันการเงิน และ 10% มาจากสภาพคล่องรายได้จากการขาย

 

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงรักษาระดับหนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ( D/E) ไม่ให้เกิน 2.5 เท่า ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 อยู่ที่ 1.89 เท่า ปัจจุบันต้นทุนโดยเฉลี่ย ทั้งการออกหุ้นกู้หรือสินเชื่อจากแบงก์อยู่ที่ 3% ปลาย ๆ แต่การออกหุ้นกู้มีข้อดีกว่า คือเป็นแหล่งเงินระยะยาว  3- 4 ปี  ทำให้สามารถบริหารต้นทุนการเงินได้ดีกว่า  รวมทั้งวัตถุประสงค์การใช้เงินยังหลากหลายเช่นระดมทุนเพื่อการลงทุน ชำระหนี้ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน แตกต่างกับสินเชื่อจากสถาบันการเงิน การอนุมัติวงเงินจะขึ้นกับความคืบหน้าของการก่อสร้าง การซื้อที่ดิน และหากเศรษฐกิจไม่ดี อาจมีข้อจำกัด 

 

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 50,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 50% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 34,983 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 30,716 ล้านบาท รายได้หลักมาจากที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 67% : 33% นอกจากนี้ มีกำไรสุทธิ 4,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิฯ 2,017 ล้านบาท ถึง 112% ขณะนี้ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.2% ของรายได้รวม เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6.8%