แสนสิริ คาดยอดโอนปีนี้ทุบสถิติใหม่ จนทำให้กำไรไตรมาส 4 และทั้งปีพุ่งสูงสุด
บมจ. แสนสิริ (SIRI) คาดทุบสถิติยอดโอนในเดือน ธ.ค. ปี 65 ทำ New Record High ซึ่งเพียงเดือนเดียวทะลุถึง 9 พันล้านบาท เชื่อดันกำไรไตรมาส 4 และ รอบปี พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ. แสนสิริ (SIRI) เปิดเผย ว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา นับว่าแสนสิริประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทยอยฟื้นตัว
โดยบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งในด้านยอดขายและโอนโครงการ มีผลงานการโอนที่โดดเด่นทั้งในแนวราบและแนวสูงสะท้อนการบริหารจัดการงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้บมจ. แสนสิริ คาดว่าบริษัทจะสามารถทำผลงานโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าเฉพาะในเดือนธันวาคมนี้ ได้สูงถึง 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะนับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ยอดโอนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของแสนสิริภายในเวลาเพียง 1 เดือน
นับว่าโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 67% แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบประมาณ 5,000 ล้านบาท จากแผนการโอนโครงการภายใต้พอร์ต Sansiri Luxury Collection ในทำเลกรุงเทพกรีฑา ไม่ว่าจะเป็น “นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา” และโครงการระดับลักซ์ชัวรี “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา”
นอกจากนี้ บมจ. แสนสิริ ยังมียอดโอนจากโครงการคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะทำได้อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท จากแผนการโอนโครงการเอ็กซ์ที พญาไท, เอ็กซ์ที ห้วยขวาง และ เดอะ มูฟ เกษตร เป็นต้น
นายอุทัยยังให้ความเห็นอีกว่า ภาพรวมความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจในตลอดทั้งปี 2565 มาจากความพร้อมด้วยแผนปรับเปลี่ยนรับมือทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ภายใต้กลยุทธ์ Speed to Market #2 ซึ่งมองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวไวรองรับทุกสถานการณ์
โดยสามารถตอบรับต่อการที่ตลาดอสังหาฯ ฟื้น และมีดีมานต์จากฝั่งลูกค้าต่างชาติ อีกทั้งด้วยสัญญาณบวกเศรษฐกิจ ในการเปิดประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินต่างประเทศ และยอดผู้โดยสารต่างชาติเดินทางเข้าประเทศพุ่ง ที่ต่างส่งผลที่ดีต่อตลาดอสังหาฯ
รวมถึงแสนสิริมีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด ยังรวมถึงการบริหารเงินสดในมือที่ดี ด้วยการกำสภาพคล่องถึง 16,000 ล้านบาท ส่งผลให้แสนสิริเป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องสูง มีกระแสเงินสดที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ มีความมั่นคงด้านการเงินจากการบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แสนสิริมีผลงานที่ดีสวนสภาวะตลาด
นอกจากนี้ นายอุทัยยังมองอีกว่า ยอดขายและยอดโอนที่ประสบความสำเร็จยังมาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งของแสนสิรินั้น ยังสะท้อนความเชื่อมั่นในการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านด้วยมาตรฐานการออกแบบและคุณภาพโครงการ
ตลอดจนบริการหลังการขายหรือ Sansiri Service ที่สามารถครองใจผู้บริโภค จากการเป็นผู้นำด้านการบริการในที่อยู่อาศัย และความมั่นใจสูงสุดด้านความปลอดภัยจาก LIV-24 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้กลุ่มลูกค้าเลือกแสนสิริ
“ผลงานยอดโอนที่ทำผลงานได้ดีในช่วงเดือนธันวาคม จะส่งผลให้ บมจ.แสนสิริ ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายยอดโอนรวมปี 65 ที่วางไว้ 3.5 หมื่นล้านบาท" จากการเปิดเผยของนายอุทัย
รวมทั้งตัวเลขดังกล่าว ยังผลักดันให้กำไรสุทธิฯ ของ บมจ.แสนสิริ ในปี 2565 เป็น New Record High ทุบทุกสติถิผลงานกำไรสูงสุดที่เคยทำได้ในรอบ 38 ปี ทั้งในรายไตรมาสและรอบปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ขณะที่ภาพรวมการเติบโตนับจากนี้ บมจ.แสนสิริ จะเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งในด้านยอดขาย รายได้และกำไร


