เจาะเทรนด์คอนโด"โตเกียว"เกาะรถไฟฟ้าสร้างชุมชน
ไลฟ์สไตล์ของคนโตเกียว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน จะให้ความสำคัญเรื่องการเดินทาง ความคล่องตัว
โดย...กนกวรรณ บุญประเสริฐ
หากเกาะกระแสการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกรุงโตเกียวเป็นเมืองหลวงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งดีไซน์การใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างอัศจรรย์ เพราะโตเกียวที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน การค้า การคมนาคม และแหล่งท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น แม้จะมีประชากรแออัดมากถึง 15 ล้านคน แต่โตเกียวยังถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ติด 1 ใน 5 ของโลก
ด้านที่อยู่อาศัยในโตเกียวจะพบว่าคนส่วนใหญ่เลือกซื้อบ้านเป็นคอนโดมิเนียมอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า เพราะที่โตเกียวและปริมณฑลมีทั้งรถไฟใต้ดินและ|บนดินมีสถานีรวมกันมากถึง 1,266 สถานี ซึ่งบริษัท มิตซุย ฟูโดซัน กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ร่วมกับ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ได้พาคณะสื่อมวลชนไทยเข้าชมคอนโดมิเนียมตัวอย่างของบริษัท มิตซุย ฟูโดซัน กรุ๊ป
ไลฟ์สไตล์ของคนโตเกียว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน จะให้ความสำคัญเรื่องการเดินทาง ความคล่องตัวมาก การอยู่คอนโดในแนวรถไฟฟ้าที่เชื่อมโยงถึงกันหมดทำให้ไม่จำเป็นต้องซื้อรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งราคาคอนโดเกรดกลางๆ ในโตเกียวคิดเป็นเงินไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 10 ล้านบาท ขณะที่คอนโดในญี่ปุ่นขนาดเล็กสุดอยู่ที่ 18 ตร.ม. โดยที่คนส่วนใหญ่นิยมคอนโดขนาด 23 ตร.ม.
สำหรับผู้ประกอบการในญี่ปุ่นพยายามตอบโจทย์การสร้างที่อยู่อาศัยไม่ใช่เพียงให้ความสำคัญด้านคุณภาพการก่อสร้าง การใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยยามเกิดแผ่นดินไหวเท่านั้น รูปแบบคอนโดยุคใหม่ของญี่ปุ่นต้องตอบโจทย์เรื่องพื้นที่สีเขียว ความใกล้ชิดธรรมชาติ และการสร้างสังคมของคนที่อยู่อาศัยภายในคอนโดเดียวกันให้ใกล้ชิดกัน จะได้ช่วยเหลือกันสนิทใจยามเกิดภัยธรรมชาติ เพราะสังคมคนญี่ปุ่นในเมืองใหญ่ปัจจุบันคนอยู่บ้านติดกันแต่ไม่เคยคุยกันมีอยู่มาก ทำให้การออกแบบคอนโดในโตเกียวของบริษัท มิตซุย ฟูโดซัน กรุ๊ป พยายามใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกคนในครอบครัว
คิโยทากะ ฟูจิบายาชิ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซุย ฟูโดซัน กรุ๊ป กล่าวว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยนับจากนี้จะต้องตอบโจทย์หลักๆ 5 ข้อ คือ 1.อยู่ใกล้รถไฟฟ้าหรือไม่ 2.ใช้เวลาเดินทางจากที่ทำงานไป-กลับมากน้อยแค่ไหน 3.การเดินทางสามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งได้กี่เส้นทาง 4.ขนาดพื้นที่ใช้สอย และ 5.ความคล่องตัวในการจับจ่ายซื้อของ โจทย์เหล่านี้คือแนวทางการพัฒนาคอนโดในเมืองใหญ่ ซึ่งรวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย
การร่วมลงทุนระหว่างบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กับบริษัท มิตซุย ฟูโดซัน กรุ๊ป ภายใต้แนวคิดเดียวกันที่มองว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าของกรุงเทพฯ ยังมีโอกาสอีกมากที่เมืองจะเจริญได้คล้ายกับโตเกียว จากระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2553-2572) คาดว่ามีแผนก่อสร้างรถไฟทั้งบนดินและใต้ดินเพิ่มอีก 12 เส้นทาง ระยะทางรวม 495 กม. เป็นโครงข่ายสายหลัก 8 เส้นทาง และโครงข่ายสายรอง 4 เส้นทาง
ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์การลงทุนและแผนการดำเนินงานในระยะเวลา 16 ปีนับจากนี้ ว่า ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาโครงการคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าใน 245 สถานีดังกล่าว ในรัศมีไม่เกิน 300 ม. ภายใต้แบรนด์ “IDEO” ที่พยายามชูเรื่องการสร้างเมืองน่าอยู่ โดยเน้นเรื่องการออกแบบโครงสร้างที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ให้กับคนรุ่นหลังด้วย
สำหรับโครงการแรกของการร่วมลงทุนครั้งนี้ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กับกลุ่มมิตซุย ฟูโดซัน กรุ๊ป จะลงขันด้วยเงินทุนประเดิม 1,800 ล้านบาท ตั้งบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย พัฒนาโครงการคอนโดแนวรถไฟฟ้าในประเทศที่ตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 2 โครงการต่อปี โดยนำแนวทางการพัฒนาคอนโดติดรถไฟฟ้าในโตเกียวมาเป็นต้นแบบ
โครงการแรก คือ IDEO Q พระราม 4 คอนโดสูง 40 ชั้น จำนวน 1,602 ยูนิต ขนาด 21 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท จะเริ่มเปิดขายในไตรมาส 4 ปีนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณให้รับรู้กันล่วงหน้าว่าตลาดคอนโดแนวรถไฟฟ้านับจากนี้จะร้อนระอุแน่นอน


