posttoday

จัดฮวงจุ้ยในจิตใจ รับมือกับความเครียด

08 กันยายน 2556

ความเครียดคือศัตรูตัวฉกาจที่เราสร้างขึ้นมาทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ยิ่งในสังคมปัจจุบันด้วยแล้วสารพัดปัญหาที่เข้ามารุมล้อมชีวิตก่อเกิดเป็นพลังชี่แห่งความเครียด

โดย...มิสไอรีน

ความเครียดคือศัตรูตัวฉกาจที่เราสร้างขึ้นมาทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ยิ่งในสังคมปัจจุบันด้วยแล้วสารพัดปัญหาที่เข้ามารุมล้อมชีวิตก่อเกิดเป็นพลังชี่แห่งความเครียดอยู่ภายในสิ่งแวดล้อม ลองมองไปรอบๆ ตัวแล้วเปรียบเทียบดูสิว่าในแต่ละวันเราเจอคนหน้านิ่วคิ้วขมวดกี่คน และคนยิ้มแย้มแจ่มใสสักกี่คน หรือใช้ตัวอย่างใกล้ตัว ลองส่องกระจกดูหน้าตัวเอง รูป “โบ” ที่ผูกอยู่ที่หว่างคิ้ว และความเหนื่อยล้าที่สะท้อนออกมาจากดวงตาเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเครียดที่เห็นได้ชัดที่สุด การจะเอาชนะความเครียด ใครๆ อาจว่ายาก เพราะรอบตัวเรามีแต่สิ่งเร้าที่ทำให้เครียดได้ทุกเรื่อง แต่จริงๆ แล้วมีหลักการไม่กี่ข้อที่ทุกคนเข้าใจกันดีอยู่แล้ว แต่น้อยคนนักที่จะลองนำมาปฏิบัติดู

หมั่นสำรวจตัวเอง การทำเช่นนี้จะทำให้เรารู้ถึงระดับความเครียดที่กดดันอยู่ภายในตัว ลองหาต้นตอของสิ่งที่ทำให้เครียดแล้วจดใส่กระดาษไว้ แล้วเราจะพบว่าความเครียดทั้งหลายแหล่ที่ยาวเป็นหางว่าวนั้น เกิดจากสาเหตุสำคัญๆ 3 ประการ คือ

1.ผู้คนรอบข้างที่ทำให้เกิดความเครียดทางอารมณ์

2.สถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเครียดทางร่างกาย

3.รูปแบบชีวิตที่ทำให้เกิดความเครียดทางจิตใจ

เมื่อพิจารณาสาเหตุสำคัญที่ก่อเกิดความเครียดแล้ว ก็จะเห็นว่าแท้ที่จริงแล้วจิตใจนั่นเองที่เป็นรากเหง้าของความเครียด เราไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคนอื่นได้ ไม่สามารถเปลี่ยนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ และไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนทัศนคติและวิธีการตอบสนองของตัวเองต่อสิ่งนั้นๆ ได้ หารากของความเครียดให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกผิด ความกดดัน การถือตัวเองเป็นใหญ่ ความถือทิฐิ ความทะเยอทะยาน ความน้อยเนื้อต่ำใจ และความกลัว ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากจิตใจที่ปรุงแต่งขึ้นทั้งสิ้น

ต่อไปนี้คือหลักการ 5 ในการกำจัดความเครียดออกจากจิตใจ

ข้อแรก ฝึกสร้างความสงบนิ่งขึ้นในจิตใจ ซึ่งสามารถทำได้โดยชะลอการตอบสนองของเราต่อคนรอบข้าง เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เครียด ฝึกตอบสนองต่อเรื่องต่างๆ เหล่านี้ให้ช้าลง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดความวิตกกังวลจนอยากจะตอบสนองต่อสิ่งนั้นๆ ออกไปในทันที ให้นั่งนิ่งๆ แล้วนับ 110 สงบสติอารมณ์ และให้เวลากับตัวเองที่จะคิดพิจารณาปัญหาต่างๆ อย่างรอบคอบก่อน

ข้อสอง ฝึกปรับเปลี่ยนสิ่งร้ายๆ ต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนทัศนคติของตนเองที่มีต่อคนที่มาทำให้เกิดความเครียด คิดเสียว่าคนที่สร้างปัญหาทำให้เรามีโอกาสได้ฝึกความอดทนอดกลั้น สิ่งนี้จะช่วยยกระดับการกำหนดรู้ทางจิตใจ สติปัญญา และจิตวิญญาณขึ้นมาพร้อมๆ กัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเห็นผลในทันที ทุกอย่างต้องใช้เวลา และความอดทน

ข้อสาม ฝึกวิธีผ่อนคลายทางร่างกาย เริ่มจากการฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ ฝึกกายบริหารง่ายๆ ฝึกปฏิบัติโยคะ หรือชี่กง อย่างง่ายๆ หรือฝึกกายบริหารที่ทำให้ได้ยืดเส้นยืดสายเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดเมื่อยล้าทางร่างกาย แล้วระดับความเครียดจะลดลงไปพร้อมๆ กับร่างกายที่ผ่อนคลาย หรืออาจใช้วิธีการบำบัดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อรูปแบบต่างๆ เช่น การนวดตัวด้วยน้ำมันหอม การกดจุดนวดเท้า เป็นต้น เมื่อเราดูแลร่างกายแล้ว ก็เท่ากับได้ดูแลจิตใจด้วย

ข้อสี่ สร้างทัศนคติที่ดีด้วยการคิดถ้อยคำสั้นๆ ที่ทรงพลังและเป็นไปในแง่บวก เพื่อกระตุ้นความมั่นใจและกำลังใจให้เกิดขึ้นในตัว เขียนข้อความดีๆ เหล่านั้นแล้วนำไปติดไว้ตามที่ต่างๆ ที่สามารถมองเห็นได้บ่อยๆ ที่สำคัญคือจะต้องท่องข้อความเหล่านั้นซ้ำๆ เหมือนบทสวดมนต์ให้ขึ้นใจจนกว่าจะเกิดความเชื่อในข้อความเหล่านั้น จำไว้ว่าข้อความที่ใช้จะต้องเป็นรูปปัจจุบันกาล และคำที่ใช้ก็จะต้องเป็นคำที่สร้างทัศนคติในแง่บวก

ข้อห้า ใช้จินตนาการสร้างภาพที่ดีของตัวเอง จินตนาการว่าตัวเองกำลังมีความสุข ผ่อนคลาย นอนเล่นอยู่ริมชายหาด หรือกำลังเดินเล่น ภาพเหล่านี้มีพลังในการจูงอารมณ์และสื่อถึงความรู้สึกและทัศนคติที่แตกต่าง บอกกับตัวเองว่า “ฉันจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน” พร้อมกับนึกภาพว่าทำได้อย่างนั้นจริงๆ

การควบคุมความเครียดจะช่วยให้เราได้ปรับสมดุลภายในจิตใจ เมื่อฝึกปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ต่อไปเมื่อมีเรื่องเครียดๆ มากระทบ จิตใจของเราซึ่งมีภูมิคุ้มกันความเครียดแล้วก็จะสามารถตอบสนองต่อปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ทำร้ายตัวเอง