posttoday

แอลทีวีกระทบสต๊อกอสังหา

19 มีนาคม 2562

ดีเดย์หลัง1เม.ย.สต๊อกพุ่ง4แสนยูนิต กว่า70%เป็นคอนโดดีเวลอปเปอร์อ่วม

คอลลิเออร์ส ชี้มาตรการแอลทีวี กระทบสต๊อกบ้าน-คอนโดสร้างเสร็จหลัง 1 เม.ย. 4 แสนยูนิต มูลค่ากว่า 8 แสนล้าน

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการประเมินตัวเลขผลกระทบจาก มาตรการแอลทีวีของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 เม.ย. 2562 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยที่กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จหลังวันที่ 1 เม.ย.นี้ จำนวนกว่า 4 แสนยูนิต มูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นคอนโด 70% ซึ่งคอนโดจะเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากผู้ซื้อ 15-20% เป็นกลุ่มนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม ก่อนมาตรการจะเริ่มมีผลบังคับใช้ผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสต๊อก ทั้งลด แจก แถม บางรายลดราคาลงมากว่า 30% หากซื้อยูนิตที่ 2 ลด 50% ส่งผลให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสแรก 2562 มีจำนวนกว่า 4 หมื่นยูนิต คิดเป็นมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นคอนโด 65%

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ประกอบการมีความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังมาตรการแอลทีวีบังคับใช้ ประกอบกับตลาดคอนโดชะลอตัวลงมาก ทำให้ในไตรมาสแรกปีนี้มีคอนโดเปิดใหม่เพียง 8,840 ยูนิต ต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาส 1/2561 ยอดเปิดตัวใหม่จำนวน 1.4 หมื่นยูนิต โดยคาดว่าอุปทานใหม่ทั้งประเทศน่าจะลดลงกว่า 20%

"มาตรการแอลทีวีของแบงก์ชาติเป็นยาแรง ยอดโอนไตรมาสแรกเป็นการเร่งโอนก่อนมาตรการทำให้ยอดโตแบบก้าวกระโดด แต่เชื่อว่าทั้งปีจะมียอดโอนราว 1.6 แสนยูนิต มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ลดลง 5% จากปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 1.9 แสนยูนิต มูลค่า 3.9 แสนล้านบาท" นายภัทรชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม นับจากปี 2559-2561 ผู้ประกอบการพัฒนาคอนโดใหม่ออกสู่ตลาดเฉลี่ย 5-6 หมื่นยูนิต/ปี ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับช่วงปี 2558 มี คอนโดเปิดใหม่เพียง 3-4 หมื่นยูนิต/ปี ส่งผลให้ตลาดดูดซับไม่หมดมีสินค้าเหลือขายจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี หากยังปล่อยให้มีการเปิดตัวคอนโดใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องก็จะมีสต๊อกคงค้างในตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี และคาดว่าจะเกิดภาวะล้นตลาดได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า การออก มาตรการแอลทีวีจะส่งผลดีให้ตลาดปรับฐานเข้าสู่ภาวะสมดุล

สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า อาคารชุดที่สร้างเสร็จก่อน 1 เม.ย. 2562 จำนวนที่ขายได้ 119,864 ยูนิต เหลือขาย 19,171 ยูนิต ที่สร้างเสร็จหลัง 1 เม.ย. 2562 จำนวน 89,179 ยูนิต เหลือขาย 45,730 ยูนิต ส่วนบ้านจัดสรรสร้างเสร็จก่อน 1 เม.ย. 2562 จำนวนที่ขายได้ 52,955 ยูนิต เหลือขาย 16,580 ยูนิต ที่สร้างเสร็จหลัง 1 เม.ย. 2562 ขายได้ 51,070 ยูนิต เหลือขาย 56,926 ยูนิต