posttoday

"สมคิด"รับมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์

31 พฤษภาคม 2565

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2562 ให้กับ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯและรมว.คลัง

เมื่อวันที่ 31พ.ค.2565 ศาสตราภิชาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2562 ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ทั้งนี้คำประกาศเกียรติคุณดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ระบุว่า ศาสตราภิชาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเศรษฐศาสตรบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์การคลังและเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารการเงิน จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ ด้านการจัดการการตลาด จากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ

ภายหลังสำเร็จการศึกษา ดร.สมคิดได้เป็นอาจารย์ที่คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ขณะเดียวกันก็ได้รับเชิญให้เป็นที่ปรึกษาและกรรมการในองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กระทั่งได้เริ่มต้นก้าวเข้าสู่ภาคการเมืองเป็นครั้งแรกด้วยการเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัย ดร.ทนง พิทยะ เป็นรัฐมนตรี

ต่อมา ดร.สมคิดได้ก้าวขึ้นสู่การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อปี พ.ศ. 2544 ในยามที่ประเทศกำลังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจากวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง ดร.สมคิดได้ผ่านการบริหารทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในช่วงปี พ.ศ. 2543 - 2549 โดยที่เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ในขณะนั้น จนประเทศได้ผ่านพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ

หลังจากนั้น ดร.สมคิดได้ยุติบทบาททางการเมืองและเข้ารับตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ตลอดจนตำแหน่งประธานคณะกรรมการในเครือบริษัทสหพัฒน์ ด้วยความรู้ความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์นี้ ทำให้ ดร.สมคิดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราภิชานจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติอีกด้วย

ดร.สมคิด ได้กลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้งในปี พ.ศ.2558 ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังถดถอยด้วยการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2558 จนถึงกลางปี พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ ดร.สมคิดเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันนโยบายประเทศไทย 4.0 โครงการ Eastern Economic Corridor หรือ EEC โครงการ Mega project ทั้งด้านคมนาคม และการลงทุนด้านดิจิตอล การผลักดันนโยบายสวัสดิการประชารัฐ โครงการOTOP โครงการวิสาหกิจชุมชนและโครงการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งกับเศรษฐกิจรากหญ้า เป็นต้น

ด้วยความตระหนักถึงการอุทิศตน ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และพลังสติปัญญา ใช้ความรู้ความสามารถในการกำกับดูแลเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็งจนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน สภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ ศาสตราภิชาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2562 เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป

"สมคิด"รับมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์

"สมคิด"รับมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์

"สมคิด"รับมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์