posttoday

จีนจีบไทยไปลงทุน“เขตเศรษฐกิจจินหนิว”ฐานการผลิตสินค้าเบอร์ 1 นครเฉิงตู

21 ธันวาคม 2562

จีนยกทัพทีมนักธุรกิจจีบไทยไปลงทุน “เขตเศรษฐกิจจินหนิว” ฐานการผลิตสินค้าเบอร์ 1 ของ นครเฉิงตู การันตีสิทธิพิเศษระดับวีไอพีด้านใบอนุญาต ภาษี และ E-Commerce พร้อมชี้ช่องลงทุนใน “นครแห่งการค้านานาชาติเฉิงตู” โอกาสทองส่งออกสินค้าไทยไปขายในจีน

จีนยกทัพทีมนักธุรกิจจีบไทยไปลงทุน “เขตเศรษฐกิจจินหนิว” ฐานการผลิตสินค้าเบอร์ 1 ของ นครเฉิงตู การันตีสิทธิพิเศษระดับวีไอพีด้านใบอนุญาต ภาษี และ E-Commerce พร้อมชี้ช่องลงทุนใน “นครแห่งการค้านานาชาติเฉิงตู” โอกาสทองส่งออกสินค้าไทยไปขายในจีน

รัฐประชาชนเขตจินหนิว เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้จัดการประชุมส่งเสริมเศรษฐกิจแลกเปลี่ยนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทย และเขตจินหนิว เมืองเฉิงตูแณ โรงแรมวินเซอร์ กรุงเทพฯ ภายใต้หัวข้อ “เฉิงตูและไทยร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจให้รุ่งเรือง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมีตัวแทนจากบริษัทชั้นนำของเขตจินหนิว และไทย เข้าร่วมงานกว่า 40 บริษัท

จีนจีบไทยไปลงทุน“เขตเศรษฐกิจจินหนิว”ฐานการผลิตสินค้าเบอร์ 1 นครเฉิงตู

มร.ยู่ เจี๋ยน รองหัวหน้าเขตจินหนิว เมืองเฉิงตู กล่าวว่า เขตจินหนิว เป็น 1 ใน 5 เขตของนครเฉิงตู ตั้งอยู่ใจกลางยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจสำคัญของจีนที่ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งนครเฉิงตู ทำให้เขตจินหนิวกลายเป็นเขตเศรษฐกิจอันดับ 1 ในทิศตะวันตกของจีน มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สูง สามารถรองรับการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ ด้วยระบบโลจิสติกส์การเดินทางคมนาคมสะดวกสบาย โดยเขตจินหนิวอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตู เพียง 20 กิโลเมตร และเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยว ทั้งเชิงการแพทย์และสุขภาพ เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเรายังมีโครงการสำคัญ อาทิ อี้ซา เฉิงตู อินเตอร์เนชั่นแนล เทรด ซิตี้ (Yisha Chengtu International Trade City) , หยินซิ่ง พลาซ่า (Yinxing Plaza) รวมถึง โครงการพื้นที่การค้ากรุ๊ป 3, 5 และ 6 ที่ถนนอู่ไข้วสือ ที่เป็นฐานการผลิตสินค้าฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สำคัญของประเทศ ซึ่งทางเราต้องการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนไทยมาร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว

จีนจีบไทยไปลงทุน“เขตเศรษฐกิจจินหนิว”ฐานการผลิตสินค้าเบอร์ 1 นครเฉิงตู

"นครแห่งการค้านานาชาติเฉิงตู" หรือ Yisha Chengtu International Trade City ถือเป็นศูนย์แสดงสินค้าขนาดใหญ่ที่จัดแสดงสินค้าจากทุกประเทศทั่วโลก โดยมีนักลงทุนสนใจเข้ามาประกอบธุรกิจกว่า 3.8 หมื่นราย มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมมากว่า 80,000-100,000 คนต่อวัน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจปีละ 6 หมื่นล้านหยวน โดยมีการจัดแสดงสินค้ากว่า 20 ประเภท รวม 4 แสนรายการ โดยในเฟสแรกมีพื้นที่แสดงสินค้า 7 โซน อาทิ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม แฟชั่น ไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ฯลฯ รวมถึงสมุนไพร หรือ ยาจีนโบราณ ที่ขึ้นชื่อระดับโลก และที่นี่ถือตลาดซื้อขายยาจีนอันดับหนึ่งของประเทศ

จีนจีบไทยไปลงทุน“เขตเศรษฐกิจจินหนิว”ฐานการผลิตสินค้าเบอร์ 1 นครเฉิงตู

นอกจากนี้ “นครแห่งการค้านานาชาติเฉิงตู” ยังได้เปิดบริการศูนย์แสดงสินค้าพิเศษเฉพาะประเทศสมาชิก อาทิ สเปน รัสเซีย ศรีลังกา ญี่ปุ่น และล่าสุดกำลังก่อสร้างศูนย์แสดงสินค้าไทยเพื่อรองรับนักธุรกิจ นักลงทุนไทยที่ต้องการนำสินค้ามาจัดแสดงและจำหน่ายในประเทศจีน ผ่านศูนย์แสดงสินค้าแห่งนี้ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในนครเฉิงตู ดังนั้น เราจึงอยากเชิญชวนนักลงทุนหรือนักธุรกิจต่างประเทศเข้ามาลงทุนในเขตจินหนิว ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์จากจุดบริการครบวงจร หรือ One Stop Service ระดับวีไอพี ทั้งด้านใบอนุญาตและมาตรการภาษี พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการช่วยเหลือและให้ความรู้ด้าน E-Commerce เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญทางการค้าระหว่างกัน โดยมีล่ามแปลภาษาจีนคอยอำนวยความสะดวกการติดต่อสื่อสารให้อีกด้วย”

จีนจีบไทยไปลงทุน“เขตเศรษฐกิจจินหนิว”ฐานการผลิตสินค้าเบอร์ 1 นครเฉิงตู

มร.ยู่ เจี๋ยน กล่าวต่อว่า การประชุมในครั้งนี้ มีตัวแทนจากบริษัทชั้นนำของเขตจินหนิว และไทย เข้าร่วมงานกว่า 40 บริษัท โดยมีสองบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่จากเขตจินหนิว ได้แก่บริษัท บริษัท อี้ซา เฉิงตู อินเตอร์เนชั่นแนล เทรด ซิตี้ จำกัด (Yisha Chengdu International Trade City) และบริษัท เสฉวน ฮุยจี้ ฟู้ด จำกัด (Sichuan Huiji Food) ในฐานะที่เป็นตัวแทนของเครือธุรกิจที่มีคุณภาพ ได้เดินทางมาร่วมประชาสัมพันธ์การค้าการลงทุนด้วย พร้อมลงนามการค้าร่วมกับบริษัท มิสเตอร์ ดี ไอ วาย แบงค็อก จำกัด และบริษัทแอคทีฟพลัส บลู จำกัด ของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นอย่างมั่นคงในการแบ่งปันโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยเราคาดหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้ นักลงทุนชาวไทยจะได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนและ สภาพเชิงธุรกิจของเขตจินหนิว เพื่อสนับสนุนและต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศต่อไป