สสส.ชี้ 7.6 ล้านคนไทยงดเหล้าครบ 3 เดือน ชีวิตดีขึ้นจริง
สสส. เผยความสำเร็จ "งดเหล้าเข้าพรรษา" ขยายผลตลอดปี พบคนไทย 7.6 ล้านคน เลิกเหล้าครบ 3 เดือน สุขภาพกายใจดีขึ้น ประหยัดเงินมหาศาล
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยความสำเร็จของโครงการ "งดเหล้าเข้าพรรษา" ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2546 โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ในสังคมไทย และขยายผลสู่การรณรงค์ตลอดทั้งปี ล่าสุดพบว่ามีคนไทยถึง 7.6 ล้านคน ที่สามารถงดเหล้าได้ครบ 3 เดือน ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจ รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างเป็นรูปธรรม
"คนหัวใจเพชร" ต้นแบบความสำเร็จ: ครอบครัวอินทรีย์ จากวังวนน้ำเมา สู่ชีวิตใหม่ที่สุขสดใส
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า การงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง ซึ่งเป็นความงดงามของการขับเคลื่อนโครงการนี้ นอกจากนี้ หลายจังหวัดเริ่มมี "ชุมชนคนสู้เหล้า" ที่ไม่เพียงชวนคนเลิกเหล้า แต่ยังช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาจากการดื่ม โดยเฉพาะอุบัติเหตุหลังงานเลี้ยง สสส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเร่งปลุกปั้นการรณรงค์ให้สอดรับกับวิถีชีวิตชุมชน เพื่อให้ผู้คนค่อยๆ ลด ละ เลิก จนนำไปสู่การเลิกตลอดชีวิต ผู้ที่เลิกเหล้าได้ครบ 3 เดือนจะได้รับการยกย่องเป็น "คนหัวใจเพชร" ซึ่งมีจิตใจเข้มแข็งไม่กลับไปดื่มอีก และยังได้รับการส่งเสริมให้กลับมามีอาชีพ สร้างรายได้อย่างมีความสุข
เลิกเหล้าแล้วได้อะไร? ครอบครัวอินทรีย์พิสูจน์แล้ว
นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เสริมว่า แนวคิด "เลิกเหล้าแล้วได้อะไร" สะท้อนชัดเจนจาก "ครอบครัวอินทรีย์" ที่พ่อ แม่ ลูก เป็นต้นแบบในการเลิกเหล้าสำเร็จ และพาครอบครัวก้าวพ้นจากความยากจนได้ วิถีชุมชนใน อ.บางกล่ำ จ.สงขลา มีการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ลดนักดื่มหน้าเก่า และปรับสภาพแวดล้อมให้ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง แม้คนใต้จะดื่มน้อยกว่าภาคเหนือและอีสาน แต่ก็เสี่ยงต่อการข้องเกี่ยวกับกัญชา กระท่อม หรือแม้แต่บุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังเป็นวิกฤต โดยพบเด็กประถมซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากออนไลน์มาสูบในโรงเรียน สคล. จึงใช้แนวคิดนี้แก้ไขปัญหาในใจคนติดเหล้า ด้วยการสร้างอาชีพทางเลือกให้พวกเขาหลังเลิกเหล้า
โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาได้สร้างภาพจำของการรณรงค์เลิกอบายมุข และครอบครัวอินทรีย์เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เมื่อลด ละ เลิกได้ ก็มีโอกาสพัฒนาตัวเองและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยในปีล่าสุด มีผู้เลิกเหล้าตลอดชีวิต หรือ "คนหัวใจเพชร" เพิ่มจาก 600 เป็นกว่า 12,598 คน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเลิกเหล้าได้กว่า 93 ล้านบาท
จุดเปลี่ยนชีวิต: ประสบการณ์ตรงของ "คนหัวใจเพชร" นางจวน อินทรีย์
นางจวน อินทรีย์ "คนหัวใจเพชร" จาก ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอตัดสินใจเลิกเหล้าถาวรว่า เกิดจากเหตุการณ์ที่เธอดื่มเหล้าหนักหลังงานเลี้ยง แล้วออกไปกรีดยางต่อตอน 23.00 น. และเกิดหลับในขณะขับรถกลับบ้านตอน 05.00 น. จนรถจักรยานยนต์เสียหลัก หมดสติ โชคดีที่ฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล ทำให้รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
ก่อนหน้านี้ก็เคยเข้าร่วมกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2564 แต่พอครบ 3 เดือนก็กลับไปดื่มอีก เพราะในชุมชนมักมีงานบุญงานเลี้ยงบ่อยครั้ง ซึ่งการเข้าร่วมงานมักต้องจ่ายเงิน 500 บาท เพื่อให้ดื่มได้ตลอดงาน ทำให้หลายคนในหมู่บ้านรวมถึงสามีของเธอ นายประสิทธิ์ อินทรีย์ ที่ดื่มมานานกว่าครึ่งชีวิตถึง 41 ปี ต้องตกอยู่ในวงจรการติดเหล้า จนเกิดอาการลงแดงและอาละวาดเมื่อหยุดดื่ม แต่ละเดือนหมดค่าเหล้าไปถึง 3,000 บาท ตอนนี้สามีกำลังพยายามลดปริมาณการดื่มลง เพื่อหวังจะเลิกขาดเช่นกัน
ส่วนลูกชายก็เพิ่งเลิกยาเสพติดได้ 1 ปี หลังจากที่เสพมาตั้งแต่อายุ 16 ปี อาจเป็นเพราะเห็นพฤติกรรมพ่อกับแม่ที่ติดเหล้าทุกเย็น แต่ตอนนี้ครอบครัวของพวกเขากลับมามีความสุขมากขึ้น มีรอยยิ้มสดใส สุขภาพดี มีแรงออกไปทำงาน ไม่เหนื่อยง่าย และมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น
นางจวนกล่าวว่า เธอเริ่มดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่อายุ 30 ปี แต่ตอนนี้เลิกเหล้ามานานกว่า 3 ปีแล้ว และได้รับเกียรติบัตร "คนหัวใจเพชร" เธอรู้สึกไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมเพราะกลัวตาย และตระหนักได้ว่าการดื่มเหล้าไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย สุขภาพแย่ลง เพลียง่าย ช่วงที่เมาประคับประคองร่างกายไม่อยู่ ไม่มีสติ กลัวเกิดอุบัติเหตุอีก จึงตัดสินใจเลิกดื่มแอลกอฮอล์แบบหักดิบ และเมื่อไปงานบุญหรืองานเทศกาลในหมู่บ้าน หากมีคนชวนดื่มเหล้า เธอก็จะรีบปฏิเสธทันที


