มะเร็งปากมดลูกคืออะไร มีวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร
มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติในปากมดลูก ส่วนใหญ่มักจะสังเกตเห็นอาการผิดปกติเมื่ออยู่ที่ระยะลุกลามแล้ว
มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติในปากมดลูก ส่วนใหญ่มักจะสังเกตเห็นอาการผิดปกติเมื่ออยู่ที่ระยะลุกลามแล้ว
สาเหตุของที่ผู้หญิงต้องรู้
ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปปิโลมาไวรัส (Human papillomavirus: HPV) ชนิดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก (high-risk HPV) การติดเชื้อ HPV มักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โดยผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ สูบบุหรี่ การมีบุตรหลายคน การมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
มะเร็งปากมดลูก แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ตามการลุกลามของเซลล์มะเร็ง ดังนี้
ระยะที่ 0 เซลล์มะเร็งเริ่มเติบโตบริเวณปากมดลูก แต่ยังไม่ลุกลามเข้าไปในเนื้อเยื่อข้างเคียง
ระยะที่ 1 เซลล์มะเร็งลุกลามเข้าไปในเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้อของปากมดลูก
ระยะที่ 2 เซลล์มะเร็งลุกลามเข้าไปในมดลูก
ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง เช่น กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ใหญ่
ระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ตับ ปอด
ในระยะแรกของมะเร็งปากมดลูกมักไม่มีอาการ อาการที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อมะเร็งลุกลามมากขึ้น ได้แก่ เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เช่น เลือดออกระหว่างมีประจำเดือน เลือดออกหลังมีประจำเดือน หรือเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดอุ้งเชิงกราน ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำบาก ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด มีเลือดหรือสารคัดหลั่งไหลจากช่องคลอด น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
วิธีป้องกัน
มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในมะเร็งไม่กี่ชนิดที่มีสาเหตุที่ค่อนข้างแน่ชัด ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดในช่วงอายุ 11 หรือ 12 ปี ถึงอายุ 26 ปี และได้ผลดีที่สุดในคนที่ไม่เคยได้รับเชื้อหรือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
นอกจากนี้การตรวจภายในและคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ จะช่วยให้ตรวจพบรอยโรคก่อนเป็นมะเร็ง และสามารถรักษาให้หายได้
การรักษา
- การผ่าตัด การผ่าตัดเป็นการรักษาหลักในระยะเริ่มต้น โดยแพทย์จะตัดเอาปากมดลูกและเนื้อเยื่อข้างเคียงออก
- การฉายรังสี การฉายรังสีเป็นการรักษาในระยะลุกลาม โดยแพทย์จะฉายรังสีไปที่บริเวณที่เป็นมะเร็ง การรักษาด้วยวิธีนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง อ่อนเพลีย
- การให้เคมีบำบัด การให้เคมีบำบัดเป็นการรักษาเสริมร่วมกับการผ่าตัดหรือฉายรังสี โดยแพทย์จะฉีดหรือให้ยาเคมีบำบัดทางหลอดเลือดดำ การรักษาด้วยวิธีนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้
ปัจจุบันด้วยวิทยาการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้า ทำให้มีวิธีการรักษาใหม่ ๆ มากมาย แต่ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ