posttoday

ทำประกันภัยภาคสมัครใจต้องทำยังไงมีขั้นตอนอะไรบ้าง

04 ตุลาคม 2566

ข้อมูลความเข้าใจเกี่ยวกับความเหมือนและความแตกต่างของการทำประกันภัยภาคสมัครใจและ พ.ร.บ. รถยนต์ แบบละเอียดก่อนการตัดสินใจทำ

ทำประกันภัยภาคสมัครใจต้องทำยังไงมีขั้นตอนอะไรบ้าง

          หากคุณเป็นหนึ่งคนที่มีการใช้รถใช้ถนนอยู่เป็นประจำ ประกันภัยภาคสมัครใจ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่สามารถช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ โดยประกันภัยภาคสมัครใจนั้นมีความเหมือนและแตกต่างไปจาก พ.ร.บ. รถยนต์ เพราะประกันภัยรถยนต์นอกจากจะช่วยในเรื่องของอุบัติเหตุแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงความคุ้มครองเรื่องอื่นๆ หากคุณกำลังสนใจ พ.ร.บ รถยนต์ และประกันภัยรถยนต์ บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจให้กับคุณได้

พ.ร.บ. ต่างจากประกันภัยภาคสมัครใจยังไง

ทำประกันภัยภาคสมัครใจต้องทำยังไงมีขั้นตอนอะไรบ้าง

          ตามที่ได้มีการกล่าวไปในข้างต้นถึง พ.ร.บ. รถยนต์ กับ ประกันภัยภาคสมัครใจว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความเหมือนและมีความแตกต่างกันอยู่ ซึ่งในความเหมือนนั้นสามารถอธิบายได้ว่า พ.ร.บ. รถยนต์เอง ก็เป็นสิ่งที่ให้ความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับท้องถนนเช่นเดียวกัน แต่ พ.ร.บ. รถยนต์นั้นจัดเป็นประกันภัยภาคบังคับทางกฎหมาย และจะให้ความคุ้มครองเพียงแค่เฉพาะผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ในส่วนของประกันภัยรถยนต์เป็นความคุ้มครองที่สามารถเลือกทำหรือไม่ทำก็ได้ และมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าตามแผนที่เลือก

ประกันภัยภาคสมัครใจคืออะไร

          ประกันภัยภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance) ประกันภัยที่เกิดขึ้นจากการตกลงซื้อขาย อันหมายถึง ผู้ซื้อ (ผู้เอาประกันภัย) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยผู้ซื้อสามารถที่จะเลือกความคุ้มครองของประกันภัยได้ตรงกับความพึงพอใจของตนเอง ซึ่งส่วนนี้จะเป็นความแตกต่างกันของประกันภัยภาคสมัครใจกับ พ.ร.บ. รถยนต์ เนื่องจากการตกลงทำการซื้อประกันภัยนั้น จะเกิดขึ้นจากความสมัครใจและไม่ได้อยู่ในข้อบังคับของกฎหมาย

ทำประกันภัยภาคสมัครใจต้องทำยังไงมีขั้นตอนอะไรบ้าง

 

 

          ประกันภัยภาคสมัครใจ หรือ ประกันภัยรถยนต์ จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน กล่าวคือ ประกันภัยชั้น 1, ประกันภัยชั้น 2, ประกันภัยชั้น 2 +, ประกันภัยชั้น 3 และประกันภัยชั้น 3 + ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ผู้ซื้อ (ผู้เอาประกัน) สามารถที่จะตัดสินใจในการเลือกซื้อประเภทประกันภัยและเลือกความคุ้มครองได้ด้วยตนเอง

ประกันภัยชั้น 1

          ประกันภัยชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองสูงที่สุด หากเปรียบเทียบกับใน 5 ประเภทของประกันภัยรถยนต์ ประกันชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมเกือบจะทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์สูญหาย, ภัยทางธรรมชาติ, น้ำท่วม, ไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนก็ครอบคลุมทุกความคุ้มครอง และนอกจากนี้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนต่อให้จะไม่มีคู่กรณีประกันภัยชั้น 1 ก็ยังคงให้ความคุ้มครองด้วย

ประกันภัยชั้น 2+

          ประกันภัยชั้น 2+ เป็นประเภทประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 ยกเว้นกรณีเฉี่ยวชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนเสาไฟ, ชนฟุตบาท, ชนต้นไม้, ชนกำแพง ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะเหมาะสำหรับคนที่ขับขี่รถยนต์จนชำนาญแล้ว และต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน เนื่องจากเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 2+ ทั่วไปจะมีราคาต่ำกว่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันภัยชั้น 2

          ประกันภัยชั้น 2 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองสูงรองลงมาจากประกันภัยชั้น 2+ ซึ่งประกันภัยชั้น 2 นี้ ให้ความคุ้มครองที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 2+ มาก แต่จะต่างกันตรงที่ประกันภัยชั้น 2 นั้น จะไม่มีความคุ้มครองไปถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นของตัวรถ โดยจะคุ้มครองรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ที่อยู่ภายในรถโดยสารและบุคคลภายนอก, รับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และคุ้มครองการสูญหาย ไฟไหม้ ของรถยนต์

ประกันภัยชั้น 3+

          ประกันภัยชั้น 3+ เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถคู่กรณี กรณีรถชนรถเท่านั้น รวมถึง คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงคุ้มครองค่าเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณี ซึ่งต่างจากประกันชั้น 2 ตรงที่ประกันภัยชั้น 3+ ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถคันเอาประกัน ในขณะที่ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองความเสียหายส่วนนี้ ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองความเสียหายต่อรถคู่กรณี 

ประกันภัยชั้น 3

          ประกันภัยชั้น 3 ถือเป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีราคาค่าเบี้ยถูกที่สุด และมีความคุ้มครองที่น้อยที่สุด หากเทียบกับประกันภัยชั้น 1 และประกันภัยชั้น 2 เนื่องจากประกันชั้น 3 นั้น จะคุ้มครองเพียงแค่บุคคลภายนอกเท่านั้น ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าซ่อมรถหรือค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี แต่ในส่วนค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถของตัวเรานั้น ประกันชั้น 3 จะไม่ได้ครอบคลุมในส่วนนี้

ทำประกันภาคสมัครใจแล้วต้องทำ พ.ร.บ.  ด้วยมั้ย

          เนื่องจากว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภาคบังคับทางกฎหมาย ดังนั้น รถยนต์ทุกคันจะต้องมีการทำ พ.ร.บ. รถยนต์ ในกรณีที่ต้องการทำประกันภาคสมัครใจสามารถที่จะทำควบคู่ไปกับ พ.ร.บ. รถยนต์ได้ แต่หากไม่มีการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ อาจมีผลให้ไม่สามารถต่อภาษีทะเบียนรถยนต์ และจะมีโทษปรับตามกฎหมาย

สรุปเกี่ยวกับการทำประกันภาคสมัครใจ

ทำประกันภัยภาคสมัครใจต้องทำยังไงมีขั้นตอนอะไรบ้าง

          สำหรับการทำประกันภาคสมัครใจ ที่เป็นประกันรถยนต์ที่ผู้ซื้อสามารถเลือกประเภทความคุ้มครองได้ด้วยตนเอง เป็นอีกหนึ่งความคุ้มครองที่สามารถเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ. รถยนต์ ที่จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ครอบคลุมทั้งคุณ รถยนต์ และคู่กรณี หากต้องการที่จะทำประกันภาคสมัครใจ หรือประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมกับความต้องการของคุณ ในราคาพิเศษสบายกระเป๋า พร้อมกับการดูแลอย่างดีในทุกสถานการณ์ เลือกทำประกันรถยนต์ออนไลน์ insurverse พร้อมเปรียบเทียบราคาประกันที่ใช่ ได้ด้วยตัวคุณเองง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวล่าสุด

พรรคประชากรไทย ชู 4 เสาหลักพลิกฟื้นประเทศ ส่งชิงเก้าอี้ สส.261 คน สู้ศึกเลือกตั้ง‘69