posttoday

๑๑๐ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร

27 มีนาคม 2564

นับแต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สถาปนากรมศิลปากร เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔ จนถึงปัจจุบัน

เป็นเวลา ๑๑๐ ปีที่กรมศิลปากรได้ดำเนินงานตามภารกิจในการขับเคลื่อนงานด้านมรดกวัฒนธรรมของชาติอย่างเข้มแข็ง เป็นองค์กรหลักของประเทศที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการงานมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่ออนุรักษ์ ปกป้อง คุ้มครอง รักษา มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติตามหลักวิชาการ ให้คงความเป็นของแท้ดั้งเดิมอันทรงคุณค่า และสืบทอดต่อไปอย่างไม่รู้จบ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ และแผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ ๒๕๖๔

ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา นับได้ว่าประสบผลสำเร็จอย่างน่าพอใจ มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติได้รับการอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม ได้รับการสร้างสรรค์ สืบสานและเผยแพร่ แหล่งเรียนรู้และแหล่งศิลปวัฒนธรรมได้รับการพัฒนา โดยดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติ สานต่องานเดิม และเริ่มงานใหม่ ดังตัวอย่างผลงานสำคัญ ได้แก่

การจัดการแหล่งศึกษาเรียนรู้ที่ได้มาตรฐานระดับสากล

การจัดสร้างพิพิธภัณฑสถานงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร   

รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จัดสร้างพิพิธภัณฑสถานงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีความสง่างาม สมพระเกียรติ ในพื้นที่ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเพื่อเป็นการรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงบรมศพ และการก่อสร้างพระเมรุมาศ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาติ ให้ชาวไทยได้มีโอกาสเข้าชมและศึกษา ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ ให้ต่างชาติได้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรือง และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๗

การจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

๑๑๐ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร

กรมศิลปากร ปรับปรุงนิทรรศการถาวร ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ภายใต้โครงการ อนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล มาตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ ปัจจุบันได้ปรับปรุงนิทรรศการภายในหมู่พระวิมาน จำนวน ๑๔ ห้อง แล้วเสร็จ ตามแนวคิดการจัดแสดง โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ของแท้ และคุณค่าผลงานชิ้นเอกบนผืนแผ่นดินไทย และคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมภายในพระที่นั่งองค์ต่างๆ ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในการสื่อสารเนื้อหาจากวัตถุสู่ผู้ชมอย่างพอเหมาะ ปีงบประมาณที่ผ่านมา ได้ปรับปรุงการจัดแสดงมุขกระสัน อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย อาคารมหาสุรสิงหนาท พัฒนาระบบไฟฟ้า และระบบปรับอากาศ และงานปรับปรุงภูมิทัศน์ และสุดท้ายในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ จะเป็นการพัฒนาการจัดแสดงอาคารมหาสุรสิงหนาท จากนี้ไปผู้เข้าชมจะได้สัมผัสพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโฉมใหม่ที่มีความทันสมัยและยังคงไว้ด้วยคุณค่าของมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย

การจัดสร้างพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน จังหวัดนราธิวาส

๑๑๐ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร

กรมศิลปากร ได้เล็งเห็นความสำคัญ ของการเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ของชาวมุสลิม จึงดำเนินการก่อสร้าง พิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ โดยรวบรวมองค์ความรู้ และระดมแนวคิดในการจัดตั้ง การออกแบบและการจัดแสดงนิทรรศการ รวมทั้งงานอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอานและศิลปวัตถุด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ตัวอาคารเริ่มก่อสร้าง ในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน มีกำหนดแล้วเสร็จ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ เมื่อเปิดให้บริการแล้วจะเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของชาติ ในการศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอาน และมรดกวัฒนธรรมอิสลาม เสริมสร้างให้คนในท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นคุณค่าความสำคัญ เกิดความรู้สึกรัก หวงแหน ภาคภูมิใจ ในมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลาม ที่มีอยู่ในท้องถิ่น

การก่อสร้างอาคารและการจัดแสดงนิทรรศการเครื่องทอง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

๑๑๐ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร

กรมศิลปากรได้มีนโยบายในการปรับปรุงและพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยาเพื่อยกระดับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้ทันสมัยได้มาตรฐานสากล โดยก่อสร้างอาคารเพิ่มเติม สำหรับจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเครื่องทองอยุธยาโดยเฉพาะ ประกอบด้วย เครื่องทองคำที่พบจากกรุวัดต่างๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ กรุวัดราชบูรณะ กรุวัดมหาธาตุ และจัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุที่พบจากวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยังมีสิ่งของล้ำค่าอีกมากมาย จากผู้ศรัทธาถวายเป็นพุทธบูชาในอดีตกาล โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ นี้ จะเป็นการดำเนินงานจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารเครื่องทองอยุธยาระยะสุดท้าย ความคืบหน้าของการดำเนินการทั้งหมดใกล้แล้วเสร็จ และอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเร็วๆ นี้

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่พบแหล่งโบราณคดีอายุกว่า ๒๗,๐๐๐ ปี กรมศิลปากร จึงมีนโยบายยกระดับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ประจำภาคตะวันตก อีกทั้งแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า ยังเป็นสถานที่อันสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาวิชาโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ตามระบบสากล เป็นครั้งแรกในไทยเมื่อปี ๒๕๐๓ การปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ นิทรรศการหลักจะนำเสนอข้อมูลหลักฐานและองค์ความรู้เกี่ยวกับคนที่บ้านเก่า ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ตลอดจนพัฒนาการของผู้คนในลุ่มน้ำแควน้อย - แควใหญ่ ที่สืบเนื่องมาจากสมัยหินเก่าสู่สมัยหินใหม่ ใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอที่มีความทันสมัยได้มาตรฐานสากล พร้อมเป็นศูนย์กลางการศึกษาเรียนรู้ ด้านโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ภาคตะวันตกของประเทศไทยได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมให้บริการในเร็วๆ นี้

อาคารคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 

๑๑๐ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร

กรมศิลปากร จัดสร้าง อาคารคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี รองรับโบราณวัตถุได้มากถึง ๒๐๐,๐๐๐ รายการ ปัจจุบันมีโบราณวัตถุที่เก็บรักษามานับตั้งแต่ จัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร และโบราณวัตถุที่รับมอบเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบันรวมกว่า ๕๐,๐๐๐ รายการ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม การควบคุมสภาพแวดล้อมภายใต้หลักการอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นมาตรฐานสากล พร้อมด้วยระบบการสืบค้นที่สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งจะเป็นต้นแบบของการเก็บรักษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ ปัจจุบันอยู่ในส่วนของการตกแต่งภายใน และติดตั้งงานระบบต่างๆ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะสามารถให้บริการสืบค้น ศึกษาวิจัย รวมไปถึงให้บริการ ยืมโบราณวัตถุหมุนเวียนไปจัดแสดงยังที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเข้าชม

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน ปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยวัฒนธรรมทวารวดี วัฒนธรรมเขมร วัฒนธรรมล้านช้าง และรัตนโกสินทร์ตามลำดับ บ่งชี้ถึงพัฒนาการทางสังคมของมนุษย์เป็นอย่างดี ปัจจุบันอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเปิดให้บริการในฐานะแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ ทางวัฒนธรรมสำหรับประชาชน มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ไปเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ กรมศิลปากร ได้ปรับปรุงและพัฒนาเนื้อหาการจัดแสดง ข้อมูลธรรมชาติบนภูพระบาท ธรณีวิทยาแห่งเทือกเขาภูพาน ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาและโบราณคดีบนเขาภูพระบาท ข้อมูลด้านชาติพันธุ์ไทพวน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักของอำเภอบ้านผือ และหลักธรรมของพระเกจิสำคัญของภาคอีสาน มีห้องสืบค้นข้อมูลทางโบราณคดี ที่เพิ่มศักยภาพและอำนวยความสะดวกในการให้บริการ พร้อมยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานในระดับสากล ในฐานะแหล่งมรดกโลกในอนาคต

การจัดตั้งศูนย์วิจัยโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี

แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง มีความสำคัญในระดับนานาชาติ ในฐานะที่ทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวการดำรงชีวิต ของมนุษย์ย้อนหลังไปกว่า ๕,๐๐๐ ปี บอกเล่าภูมิปัญญาของมนุษย์ในอดีต จากการผลิตสิ่งของขึ้นใช้ในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผาที่มีลวดลายโดนเด่นเฉพาะตัว  และเพื่อเป็นการผลักดันองค์ความรู้ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น กรมศิลปากรจึงได้จัดสร้างศูนย์การศึกษาวิจัยโบราณคดีบ้านเชียง ในพื้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เพื่อรองรับโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมบ้านเชียงในเขตภาคอีสานตอนบน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ศูนย์การวิจัยฯ แห่งนี้ จะเป็นศูนย์การวิจัย ที่มีความทันสมัยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รองรับผู้เข้ามาศึกษา วิเคราะห์ วิจัย เกี่ยวกับวัฒนธรรมบ้านเชียง และวัฒนธรรมอื่นๆ ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั่วไป

งานด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม

กรมศิลปากร ดำเนินงานด้านสถาปัตยกรรม ทั้งสถาปัตยกรรมที่เป็นโบราณสถาน อาคารแบบไทยประเพณีและอาคารร่วมสมัย ตัวอย่างงานที่สำคัญ ได้แก่ งานพัฒนาอาคารจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร การจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารเครื่องทอง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า งานบูรณะพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พิพิธภัณฑสถานงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นต้น นอกจากนี้ สำนักช่างสิบหมู่ เป็นหน่วยงานหลักในการผลิตงานศิลปกรรมที่คงไว้ซึ่งคุณค่าและเอกลักษณ์ของงานศิลปกรรมของชาติไทย รับผิดชอบงานพิจารณาอนุญาตการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระราชานุสาวรีย์ในพระบรมวงศานุวงศ์ พระอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญ และอนุสาวรีย์บุคคลทั่วไป และคัดเลือกงานศิลปกรรมจากพระเมรุมาศเพื่อนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

การปรับปรุงและพัฒนางานด้านหอสมุดแห่งชาติ จดหมายเหตุแห่งชาติ วรรณกรรมและประวัติศาสตร์

กรมศิลปากร มีเป้าหมายที่จะรักษามรดกภูมิปัญญาของชาติให้คงอยู่และสืบทอดต่อไป โดยมีการจัดพิมพ์หนังสือ และถ่ายทอดองค์ความรู้ ตลอดจนพัฒนาการให้บริการ หอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ปรับปรุงการให้บริการ ให้บริการสืบค้นข้อมูลออนไลน์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านสำหรับเด็ก กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจเพื่อสร้างสังคมแห่งการอ่าน จัดพิมพ์หนังสือและวรรณกรรม วรรณคดี เผยแพร่ การปรับปรุงหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เข้าเป็นส่วนของ พิพิธภัณฑสถานงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร การดำเนินงานประเมินเอกสารจดหมายเหตุและนำเข้าระบบให้บริการสืบค้นเต็มรูปแบบ  

การพัฒนางานด้านนาฏศิลป์และดนตรี

กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต ได้ดำเนินการสืบทอดองค์ความรู้ด้านนาฏศิลป์และดนตรี

เพื่ออนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรม ให้คงความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ พัฒนาบุคลากร ให้เพิ่มพูนองค์ความรู้และเกิดความเชี่ยวชาญ ตามสายการสืบทอดของกรมศิลปากร นอกจากนี้ โรงละครแห่งชาติได้พัฒนาระบบจำหน่ายบัตรเข้าชมออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการรองรับการเข้าถึง และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่สนใจเข้าชมได้มากขึ้น

การพัฒนาระบบการให้บริการด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมในรูปแบบดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายในแหล่งมรดกศิลปวัฒนธรรม 

๑๑๐ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร

กรมศิลปากรเป็นหน่วยงานภาครัฐที่รวบรวมข้อมูลด้านมรดกศิลปวัฒนธรรม ได้ดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลของแหล่งมรดกศิลปวัฒนธรรม จำนวน ๓ กิจกรรมหลัก ได้แก่ พัฒนาระบบบริการเอกสารจดหมายเหตุเพื่อประชาชน พัฒนาระบบบริการห้องสมุดดิจิทัล หอสมุดแห่งชาติ และพัฒนาระบบบริการข้อมูลแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมเพื่อประชาชนผ่านเทคโนโลยี เช่น ระบบภูมิสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม ระบบอุทยานประวัติศาสตร์เสมือนจริง ระบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง ระบบ AR/VR แหล่งโบราณสถานสำคัญ ระบบติดตามความสนใจการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ระบบการจำหน่ายบัตรชมการแสดงในโรงละครแห่งชาติแบบออนไลน์ ระบบจำหน่ายหนังสือกรมศิลปากรออนไลน์ นอกจากนี้ กรมศิลปากรได้เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงบริการและข้อมูลองค์ความรู้ทางด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์อีกด้วย

ภารกิจตามนโยบายรัฐบาล

การติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย

กรมศิลปากรได้ติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ภายใต้คำสั่งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ลงนามโดย นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นประธาน การดำเนินงานเริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๐ ปัจจุบันประสบผลสำเร็จว่าขณะนี้โบราณวัตถุชุดแรกที่ดำเนินการ คือ ทับหลัง ๒ รายการ จากปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว และปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้สิ้นสุดกระบวนติดตามแล้ว โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่างๆ โดยจะเคลื่อนย้ายกลับมาจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุประติมากรรมสำริดและชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมอีก ๓๒ รายการที่อยู่ในขั้นตอนการติดตาม รวมถึงโบราณวัตถุที่มีข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมดำเนินการติดตามกลับคืนสู่ประเทศไทย ต่อไปอีกหลายรายการ

การผลักดันแหล่งโบราณสถานเข้าสู่การขึ้นทะเบียนมรดกโลก

เมืองโบราณศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เป็นเมืองสมัยวัฒนธรรมทวารวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔ ที่มีหลักฐานคูน้ำคันดินที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง ได้แก่ เขาคลังใน ปรางค์สองพี่น้อง ปรางค์ศรีเทพ เขาคลังนอก ปรางค์ฤาษี เป็นต้น นอกเมืองยังเป็นที่ตั้งของถ้ำเขาถมอรัตน์ โบราณสถานซึ่งปรากฏภาพสลักพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ ในพุทธศาสนาแบบมหายาน ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความเกี่ยวพันกับการนับถือศาสนา ของผู้คนในเมืองศรีเทพสมัยโบราณ และด้วยความสำคัญและความโดดเด่นของเมืองโบราณศรีเทพ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จึงมีนโยบายผลักดันให้อุทยานประวัติศาสตร์ ศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ปัจจุบันอยู่ในบัญชีเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative list) แล้ว และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเสนออุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ขึ้นเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ ในการประชุมสมัยสามัญ ขององค์การยูเนสโกในปี ๒๕๖๕ 

ความร่วมมือระหว่างประเทศ

กรมศิลปากรได้ดำเนินความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรกับประเทศเพื่อนบ้าน และนานาประเทศ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการปกป้องคุ้มครอง และอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ มีการสำรวจ ขุดตรวจแหล่งเรือจมต่างๆ ในอาณาเขตประเทศไทย ส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม โบราณคดี โบราณวัตถุในอาเซียน การศึกษาวิจัยเรื่อง บานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทยดำเนินโครงการฟื้นฟูภูมิปัญญาช่างฝีมือสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิมร่วมกับองค์กรยูเนสโก รวมทั้งหารือการแลกเปลี่ยนการจัดนิทรรศการพิเศษกับนานาประเทศ  

แผนการดำเนินงาน

การอนุรักษ์และพัฒนาอาคารและพื้นที่บริเวณกรมศิลปากร วังถนนหน้าพระลาน

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนากรมศิลปากร เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔ โดยใช้ที่ตั้งของวังถนนหน้าพระลาน วังกลาง และวังถนนหน้าพระลาน วังตะวันออก มีการปลูกสร้างอาคารที่ทำการกรมศิลปากร ในบริเวณยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป์ พีระศรีอนุสรณ์ และหอประติมากรรมต้นแบบ อาคารกรมศิลปากรนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ และ ๒๕๓๑) พื้นที่กรมศิลปากรจึงเป็นที่รวมของอาคารสำคัญของประเทศ อันเป็นที่มาของแนวคิดในการอนุรักษ์และพัฒนา นับแต่ปี ๒๕๖๒เริ่มจากการศึกษาข้อมูลทางโบราณคดีด้านต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการอนุรักษ์และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สอดรับกับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ และคงคุณค่าในความเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติให้คงอยู่ต่อไป

กรมศิลปากรตระหนักถึงภาระหน้าที่ในการทำนุบำรุง สืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติและการสนองงานรับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคมทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อพัฒนาคุณภาพมาตรฐานในการธำรงรักษาจารีตประเพณี การอนุรักษ์ บำรุงรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมด้วยเทคโนโลยี และสร้างสรรค์ต่อยอด เพิ่มคุณค่ามรดกศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนถ่ายทอดเผยแพร่องค์ความรู้สู่ประชาชน อันจะส่งผลให้มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติดำรงอยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป

ข่าวล่าสุด

สินค้าจีนทะลัก กดดัน OEM พลิกธุรกิจสร้างแบรนด์รองเท้าสุขภาพ “Talon”