posttoday

จากอาชีพเกิดใหม่บนโลกออนไลน์ สู่ราคาที่ต้องจ่ายในฐานะ ‘Influencer’

05 ตุลาคม 2565

ภายใต้ไลฟ์สไตล์ชีวิตดีๆที่ Influencer โพสต์ให้เราเห็นบนโลกออนไลน์ เบื้องหลังของคนที่ทำอาชีพนี้ต้องเผชิญกับคำครหาสารพัด รวมถึงการโดนกดขี่ค่าจ้าง คนที่เริ่มทำการวิจัยในเรื่องนี้คิดว่าเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจก้าวขาสู่วงการ Influencer

ในโลกยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่จับมือถือกันจนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 การเกิดขึ้นของอาชีพใหม่ๆบนโลกออนไลน์นั้นแทบจะมีมากมายเหลือคณา แต่ที่เป็นจุดสนใจและหลายคนอยากเดินตามรอยมากที่สุดคือการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) หรือ ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล เป็นผู้ที่ทำคอนเทนต์เผยแพร่ตามแพลตฟอร์มต่างๆ

ซึ่งมีรายงานในปี 2021 ออกมาว่าตลาดของอาชีพ Influencer มีมูลค่าสูงถึง 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5 แสนล้านบาท) ตัวอย่าง Influencer ชื่อดังอย่าง “Zoella” บล็อกเกอร์และ YouTuber ชาวอังกฤษเธอเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ Beauty Fashion ค่าตัวเธอมีมูลค่าสูงถึง 4.7 ล้านยูโร (ราว170 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตช่วงวัย 18-26 ปี ราว 300,00 ราย เคยสร้างคอนเทนต์ลงบนโลกออนไลน์เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองมาแล้ว

แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้เรื่องราวที่ดูสนุกสุดเหวี่ยง โชว์ไลฟ์สไตล์ชีวิตดีๆที่ Influencer โพสต์ลงมาให้เราเห็นกันบนโลกออนไลน์นั้น เบื้องหลังของคนที่ทำอาชีพนี้ต้องเผชิญกับทั้งคำครหา การถูกกดทับเรื่องเพศ สีผิว เชื้อชาติ ศาสนา การโดนกดขี่ค่าจ้าง หรือแม้กระทั่งถูกถากถางรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งคนที่เริ่มทำการวิจัยในเรื่องนี้คิดว่าเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจก้าวขาสู่วงการ Influencer

จากอาชีพเกิดใหม่บนโลกออนไลน์ สู่ราคาที่ต้องจ่ายในฐานะ ‘Influencer’

รายงานจากคณะกรรมการด้านดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อและการกีฬา (DCMS) ที่เผยแพร่ในเดือนเมษายนปี 2022 ระบุว่าความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ถือเป็นประเด็นใหญ่ในอุตสาหกรรม Influencer เพราะเกิดช่องว่างระหว่างเพศและเชื้อชาติเกิดขึ้น โดยความต่างของค่าจ้างระหว่างคนขาวและคนดำมีความต่างกันถึง 35 เปอร์เซ็น รวมถึงผู้ที่มีความพิการ หรือผู้ที่อยู่ในคอมมิวนิตี้ LGBTQ+ ก็เกิดช่องว่างที่เหลื่อมล้ำทางรายได้ขนาดใหญ่ขึ้นเช่นกัน

ความเสี่ยงของการรับงานเองในวงการ Influencer ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อยู่ไม่น้อย เนื่องจากไม่มีกฎตายตัว ความโปร่งใสเรื่องค่าจ้างยังไม่มีองค์กรใดสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เป็นเพียงการตกลงกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเท่านั้น บรรดา Influencer และ Content Creater ที่ต้องปั้นงานด้วยความคิดสร้างสรรค์ จึงถูกผู้ว่าจ้างประเมินราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง จนหลายๆคนที่อยากเข้าวงการนี้ต้องจบลงที่ทำงานฟรีเสียอย่างนั้น

จากอาชีพเกิดใหม่บนโลกออนไลน์ สู่ราคาที่ต้องจ่ายในฐานะ ‘Influencer’

 

คอนเทนต์ดีแค่ไหน แต่ยังไงก็แพ้อัลกอริทึม

          คอนเทนต์แต่ละอย่างที่เราเห็นในหน้าแพลตฟอร์มโซเชียล ส่วนใหญ่แล้วล้วนถูกคัดเลือกให้โชว์โดยระบบอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มนั้นๆ อาชีพ Influencer ถือว่ามีความท้าทายอย่างมากที่ต้องต่อสู้กับระบบนี้เพื่อให้คอนเทนต์ที่ตัวเองบรรจงสร้าง เฉิดฉายสู่สายตาสาธารณะชน ซึ่งความยากคือทางผู้พัฒนาจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับการอัพเดทอัลกอริทึมเพียงน้อยนิด หรือแทบจะไม่มีข้อมูลออกมาเลย เรียกได้ว่าถ้าโพสต์คอนเทนต์ออกมาแล้วก็อธิษฐานเอาว่าคนจะเห็นมากน้อยแค่ไหน

          Kelley Cotter ผู้เชี่ยวชาญด้านอัลกอรึทึมให้ความเห็นว่าความเกี่ยวข้องของอัลกอรึทึมอัพเดทและการเกิดขึ้นของอาชีพ influencer เป็นเหมือนเกมเล่นซ่อนแอบ ทางด้านอินฟลูก็พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อให้คอนเทนต์ของตัวเองมีคนเห็นและได้ยอดไลก์ยอดแชร์มากขึ้น จนบางคนถึงขนาดที่ว่าไม่สนใจบรรยากาศและคนรอบตัว กระหน่ำแชร์คอนเทนต์รัวๆเพื่อเรียกยอด ซึ่งความเสี่ยงที่ตามมาเมื่ออัลกอริทึมเริ่มจับไต๋ได้ว่าผู้ใช้คนนี้มีการโพสต์ที่ดูเยอะผิดปกติ ก็อาจถูกลงโทษโดยการซ่อนโพสต์ ซ่อนแอคเค้าท์ ถูกปิดกั้นการมองเห็น จนกลายเป็นว่าคอนเทนต์ที่เราตั้งใจปั้นแทบตายสุดท้ายแทบไม่มีใครเห็น

จากอาชีพเกิดใหม่บนโลกออนไลน์ สู่ราคาที่ต้องจ่ายในฐานะ ‘Influencer’

ปัญหาสุขภาพจิตที่ตามมา

          อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่มองข้ามไม่ได้ของคนที่เข้าวงการนี้คือ ‘ปัญหาสุขภาพจิต’ เพราะต้องคอนเนคกับคนบนโลกออนไลน์แทบจะตลอดเวลา ในบางรายที่กลัวถูกปิดกั้นการมองเห็น อาจหนักถึงเข้าขั้นขยันสร้างคอนเทนต์ จนงานกับเรื่องส่วนตัวกลายเป็นสิ่งที่หลอมรวมกันจนแยกแทบไม่ออก ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้สามารถนำไปสู้สภาวะหมดไฟหรือ burnout ได้ นอกจากนี้ใน Influencer บางร้ายที่ต้องเผชิญกับคำสบประมาทบนโลกออนไลน์หรือไซเบอร์บูลลี่ อาจนำไปสู่ความวิตกกังวล โรคเครียด รวมถึงโรคซึมเศร้าได้

          แม้ว่าการเป็น Influencer จะดูสวยหรูในสายตาคนนอก แต่ด้านมืดของอุตสาหกรรมที่ถูกมองข้ามดังที่เราได้กล่าวไป จำเป็นต้องมีการจัดระเบียบและแก้ไขเพื่อให้การจ้างงานเป็นไปอย่างเป็นธรรม รวมถึงการสร้างความตระหนักทางด้านชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรม ก็เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นเพื่อให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้แบบประณีประนอมมากที่สุด

 

ข้อมูลอ้างอิง