posttoday

ก๊าซเรือนกระจกกับสถานบริการสาธารณสุข

13 มกราคม 2566

การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือนกระจกมีความสัมพันธ์กับกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ การศึกษาและวิจัยที่เกี่ยวกับการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับองค์กรจึงได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ นำไปสู่การพัฒนาฐานข้อมูลที่นำไปสู่แนวทางควบคุม

ก๊าซเรือนกระจกกับสถานบริการสาธารณสุข

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีสาเหตุมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศมากเกินกว่าที่ธรรมชาติจะรักษาสมดุลได้ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายด้านทั้งมิติทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ สังคมและสุขภาพของประชาชน อาทิเช่น สภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การเกิดโรคต่างๆ (National Oceanic and Atmospheric Administration: NOAA, 2021) ปัจจุบันมีหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศดังกล่าวทั้งในระดับโลก ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกเฉลี่ย 0.76 องศาเซลเซียสโดยประมาณ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1905-2010 ความหนาของแผ่นน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกลดลงร้อยละ 40 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1960-2015 (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC, 2013) เป็นต้น 

จากที่กล่าวมา การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือนกระจกน่าจะมีความสัมพันธ์กับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์สู่ชั้นบรรยากาศ ด้วยเหตุนี้เอง การศึกษาและวิจัยที่เกี่ยวกับการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของหน่วยงานหรือการประเมินก๊าซเรือนกระจกระดับองค์กรจึงได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศเพื่อนำไปสู่การพัฒนาฐานข้อมูลสำหรับการเสนอแนะแนวทางการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากแหล่งปล่อยและกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง สำหรับ สถานบริการสาธารณสุขและสถานพยาบาลนั้นจัดเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลสุขภาพของประชาชนและยังเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น

ก๊าซเรือนกระจกกับสถานบริการสาธารณสุข

ผลการศึกษาของ Arup and Health Care Without Harm (2019) ได้รายงานถึงสถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการบริการสาธารณสุขคิดเป็น ร้อยละ 4.4 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมโลก (2 Gigatons of CO2eqต่อปี) ในส่วนของสถานการณ์ระดับโลกนั้น สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการบริการสาธารณสุขและสถานพยาบาลสูงที่สุด รองลงมา คือ จีน และกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป (EU) ตามลำดับ (รูปที่ 1) ซึ่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกันคิดเป็น ร้อยละ 56 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการบริการสาธารณสุขและสถานพยาบาลทั่วโลก อย่างไรก็ดี อาจกล่าวได้ว่าสัดส่วนของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกการการให้บริการทางการแพทย์ในแต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะและรูปแบบการให้บริการของประเทศนั้นๆ อาทิเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการสาธารณสุขคิดเป็น ร้อยละ 8 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยจากกิจกรรมต่างๆ ทั้งประเทศ ขณะที่ การบริการสาธารณสุขและสถานพยาบาลของประเทศอังกฤษมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร้อยละ 3 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งประเทศ โดยแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกิดจากกิจกรรมต่างๆ ภายใต้ขอบเขตการให้บริการของสถานพยาบาล ได้แก่ การใช้พลังงานไฟฟ้าและความร้อน การใช้ยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เป็นต้น 

ก๊าซเรือนกระจกกับสถานบริการสาธารณสุข

รูปที่ 2 ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสถานพยาบาลในประเทศอังกฤษ (Tennison et al., 2021)

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาผลการศึกษาในแต่ละขอบเขตการประเมินจากรายงานของ Arup and Health Care Without Harm (2019) พบว่า สัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (Scope 1) จากสถานพยาบาลและการบริการสาธารณสุขได้แก่ การใช้พลังงงาน การขนส่ง การผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นและรับผิดชอบโดยตรงจากสถานบริการสาธารณสุข คิดเป็น ร้อยละ 17 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมจากการบริการทางการแพทย์ทั้งโลก ในขณะที่  การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (Scope 2) ซึ่งเกิดจากกิจกรรมการซื้อพลังงาน เช่น ไฟฟ้า ไอน้ำ ความเย็น และความร้อนภายในสถานพยาบาล คิดเป็น ร้อยละ 12 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมจากการบริการทางการแพทย์ทั้งโลก สำหรับ แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (Scope 3) ได้แก่ กิจกรรมการผลิต การขนส่ง การค้าและบริการ เช่น ยาและสารเคมี อาหารและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่ 1 และ 2 คิดเป็นร้อยละ 71 หรือมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดเมื่อเทียบกับแหล่งปล่อยอื่นๆ ข้างต้น นอกจากนี้ หากพิจารณาตามรายกิจกรรมของสถานพยาบาลที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูงที่สุด พบว่า การผลิตและการแจกจ่ายไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นร้อยละ 40 ของ ปริมาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากทุกกิจกรรมของสถานบริการสาธารณสุขและสถานพยาบาลนั้นๆ  

จากสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสถานบริการสาธารณสุขและสถานพยาบาลนับเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้ทราบถึงแหล่งกำเนิดและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากกิจกรรมหรือการดำเนินงานต่างๆขององค์กร เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางบริหารจัดการเพื่อตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประเมินก๊าซเรือนกระจกในสถานพยาบาลของประเทศไทยยังมีอยู่อย่างกำจัด การพัฒนาฐานข้อมูลวิจัยและสร้างเสริมศักยภาพและความพร้อมของสถานบริการสาธารณสุขและสถานพยาบาลของประเทศไทยครอบคลุมทุกระดับ ได้แก่ ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิและตติยภูมิจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างแรงจูงใจให้สถานพยาบาลมีการปรับตัวโดยกำหนดแนวทางหรือมาตรการการให้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมต่อบริบทขององค์กรอย่างยั่งยืนต่อไป

 

คณะผู้เขียน:

1 สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2 โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

อาทิมา ดับโศก1, สิทธิศักดิ์ สุขใสสาคร1, Madison Paige Silzle2, Ella Nanda Sari2, ธนกร เจริญกิตติวุฒ2, สุทธิรัตน์ กิตติพงษ์วิเศษ1,ยศ ตีระวัฒนานนท์2

ข่าวล่าสุด

ทหารเรือเปิดปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ตำบลชำราก จ. ตราด