เราไม่ได้ใบ้ แค่นายไม่ได้ยิน สัตว์บางชนิด ‘ขี้เม้าท์’ กว่าเราคิด
สัตว์หลายชนิดที่เราเคยคิดกันว่าไม่มีเสียง หรือส่งเสียงไม่ได้ แท้จริงแล้วนักวิทยาศาสตร์เพิ่งพบว่า พวกมันสามารถส่งเสียงได้ แต่เสียงที่ส่งออกมานั้นก็ไม่ได้การันตีว่าจะใช้เพื่อสื่อสารเสมอไป
นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเพิ่มรายชื่อสัตว์ 53 ชนิดที่มีการสื่อสารโดยใช้เสียง แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะไม่เคยได้ยินเสียงของพวกมันเลยก็ตาม โดยสัตว์ที่เพิ่มมาจาก 4 กลุ่มสายพันธุ์ที่ต้นกำเนิดแตกต่างกัน ประกอบด้วยเต่า 50 สปีชีส์ ปลาปอดอเมริกาใต้ ( the South American lungfish), เขียดงู (Cayenne caecilian) และทัวทารา (tuatara) สัตว์เลื้อยคลานจากนิวซีแลนด์ที่สืบเชื้อสายโบราณมาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์
อยากบอกว่า ‘เราไม่ได้ใบ้นะ’
จากที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ สัตว์แต่ละสปีชีส์ที่เพิ่งได้รับการบันทึกแต่ละตัวล้วนมีวิธีการส่งเสียงที่แตกต่างกันออกไป อย่างสายพันธุ์เต่าก็มีความสามารถส่งเสียงได้มาตั้งแต่ยุคบรรพกาล
Gabriel Jorgewich-Cohen นักชีววิทยาวิวัฒนาการ จากมหาวิทยาลัยซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ทำการทดลองในเรื่องดังกล่าว ได้สังเกตเต่ากว่า 50 สปีชีส์, สัตว์เลื้อยคลานอย่างทัวทารา (tuatara), สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกอย่างเขียดงู (Cayenne caecilian) และปลาปอดอเมริกาใต้ ( the South American lungfish) ซึ่งเป็นสัตว์ที่เราเข้าใจกันมาอย่างช้านานว่าไม่สามารถส่งเสียงได้ แต่จากการทดลองที่เขาพบ สัตว์พวกนี้สามารถส่งเสียงได้หลากหลายและมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงฮึดฮัดคล้ายกับแสดงความไม่พอใจ เสียงร้องจ๊อกแจ๊กที่ดูร่าเริงสดใส หรือเสียงกรนที่พ่นออกทางจมูก
สำหรับการบันทึกเสียงใต้น้ำ ทีมวิจัยใช้เครื่องมือ OceanBase ที่พัฒนาขึ้นโดย Laboratory of Acoustic and Environment มหาวิทยาลัยเซาเปาโล ซึ่งเป็นเครื่องบันทึกเสียงที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับเสียงใต้น้ำโดยเฉพาะ โดยจะนำสัตว์ที่ใช้ในการวิจัยมาอยู่ในบริเวณสระน้ำที่จัดสรรไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าเสียงที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มตัวอย่างทดลองจริงๆ ซึ่งแต่ละสปีชีส์จะถูกจับตาบันทึกทุกกิจกรรมตลอด 24 ชั่วโมง
Gabriel เสริมว่าสัตว์ในการทดลองบางตัวมีคุณลักษณะ ‘ขี้เม้าท์’ ส่งเสียงอยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่บางชนิดต้องใช้ระยะเวลานับ 10 ชั่วโมงกว่าจะส่งเสียงออกมาสักครั้ง นอกจากนี้จากการใช้กล้องใต้น้ำจับพฤติกรรม ยังพบว่าสัตว์ตัวผู้มักส่งเสียงขณะเกี้ยวพาราสีหรือต่อสู้กับตัวผู้อีกตัว บ้างส่งเสียงเพื่อปกป้องอาณาเขต
ส่งเสียงไม่ได้หมายความว่าสื่อสารเสมอไป
นักชีววิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา “John Wiens” กล่าวว่าสิ่งหนึ่งเลยที่เราควรตระหนักคือการผลิตเสียงและการได้ยิน คือคนละเรื่องกัน เช่น ‘งู’ ที่มักทำเสียง ฟ่อๆ แม้พวกมันจะเป็นคนสร้างเสียงนั้น แต่มันไม่สามารถได้ยินเสียงของตัวเองได้ รวมถึงเสียงฟ่อจากงูตัวอื่นด้วย เช่นเดียวกับการที่เราพบว่าเต่าส่งเสียงได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเสียงที่พวกมันส่งออกมา จะมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกัน
แม้เสียงที่ตรวจจับได้ทางทีมวิจัยจะยังไม่แน่ใจนักว่าทำไมสัตว์ในกลุ่มทดลองจึงส่งเสียง พวกเขาพยายามสรรหาหลายวิธีเพื่อจำแนกว่าเสียงแบบไหนที่สัตว์เหล่านี้ส่งออกมาเพื่อสื่อสาร เช่นการใช้กล้องตรวจจับพฤติกรรมเพื่อดูว่าเสียงที่ส่งออกมาเชื่อมโยงกับพฤติกรรมที่อาจแสดงถึงเจตนาบางอย่างหรือไม่ การเก็บข้อมูลด้วยการบันทึกเสียงในลักษณะนี้จะเป็นจุดสำคัญที่ช่วยต่อยอดการทดลองในอนาคตได้
ต้นกำเนิดการสร้างเสียงกับบรรพบุรุษที่อาจมีร่วมกัน?
ผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าการสื่อสารด้วยเสียงระหว่างสัตว์มีกระดูกสันหลังที่หายใจทางจมูกอาจมีวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อประมาณ 407 ล้านปีก่อน และเพื่อบรรลุเป้าหมายของข้อสรุปดังกล่าว ทีมวิจัยได้รวมข้อมูลที่พวกเขาได้มาใหม่นี้ ผนวกเข้ากับการวิจัยที่เคยมีมาก่อนหน้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของการสื่อสารทางเสียงของสัตว์อื่นๆอีก 1,800 สายพันธุ์
จากการวิเคราะห์สายวิวัฒนาการของสัตว์เหล่านี้รวมถึงวิธีการสร้างเสียงเพื่อสื่อสาร ทีมวิจัยให้ความเห็นว่าพวกมันอาจมีปลาครีบเป็นพู่ (lobe-finned fish) เป็นบรรพบุรุษร่วม หรือที่รู้จักกันในชื่อ Eoactinistia foreyi ซึ่งอาศัยอยู่ในยุคดีโวเนียน (Devonian Era) ยุคที่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ล้วนอาศัยอยู่ใต้น้ำ
ถึงอย่างนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อว่าการส่งเสียงที่เกิดขึ้นของสัตว์เหล่านี้ จะมีที่มาจากบรรพบุรุษเดียวกัน ในปี 2020 มีงานวิจัยที่ได้ผลสรุปแบบตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ว่าด้วยการสื่อสารด้วยเสียงของสิ่งมีชีวิตนั้นพัฒนาขึ้นอย่างอิสระตามแต่ละสปีชีส์ และในช่วง 100 ถึง 200 ล้านปีที่ผ่านมาการสร้างเสียงล้วนมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ
แม้จะยังมีข้อโต้แย้งในเรื่องต้นกำเนิดการผลิตเสียงของบรรพบุรุษสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งทีมวิจัยจำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อสรุป แต่การค้นพบในครั้งนี้ก็ช่วยเปิดโลก เพิ่มความรู้ของเราได้มาก และไม่ทำให้เรามองข้ามเจ้าสัตว์ตัวจ้อยที่เราเคยเชื่อกันว่าส่งเสียงไม่ได้อีกต่อไป สัตว์โลกล้วนเต็มไปด้วยความพิศวงและหฤหรรษ์ รอให้เราได้เรียนรู้และศึกษาพวกมันสืบต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง:


