มัสยิดอัจฉริยะที่ใช้หุ่นยนต์นำพิธีละหมาด
เราเคยได้ยินความเปลี่ยนแปลงของซาอุดีอาระเบียมากมาย ภายใต้การนำของมกุฎราชกุมารมุฮัมหมัด แต่ล่าสุดความเปลี่ยนแปลงกำลังจะมาเยือนอีกครั้ง เมื่อมีการใช้หุ่นยนต์เป็นผู้นำในพิธีละหมาด
เทคโนโลยีหุ่นยนต์รวมถึงปัญญาประดิษฐ์มีความก้าวหน้าขึ้นทุกวัน เราทราบดีว่าหลายบริษัทในปัจจุบันเริ่มมองหาเทคโนโลยีเหล่านี้มาทดแทน โดยเฉพาะในภาคส่วนที่ไม่ต้องการความซับซ้อน ก่อนเริ่มขยับมาถึงงานที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนมากเข้าทุกที
ด้วยเหตุนี้ทำให้บางครั้งการพัฒนาของเทคโนโลยีทำเรารู้สึกถูกคุกคาม เมื่อหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เข้ามาทดแทนงานที่เคยเป็นของมนุษย์มากขึ้นทุกที แต่ล่าสุดความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีการนำหุ่นยนต์เข้ามาทำหน้าที่ภายในมัสยิด
หุ่นยนต์ผู้ทำหน้าที่นำละหมาด
แนวคิดนี้เกิดจากซาอุดีอาระเบีย ประเทศมุสลิมใหญ่แห่งนิกายสุหนี่ กับแนวคิดการพัฒนาปรับตัวตามโลกตะวันตกที่เกิดขึ้นมากมาย ล่าสุดมีการเปิดตัวหุ่นยนต์รุ่นใหม่ซึ่งสามารถอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน เทศนา ไปจนสามารถนำการทำพิธีละหมาด ปัจจุบันมีการเปิดตัวในมัสยิดแห่งนครเมกกะ
โดยตัวหุ่นยนต์จะมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ตั้งแต่เนื้อหาในพระคัมภีร์, คำอธิษฐาน, ข้อมูลเกี่ยวกับอิหม่าม, กำหนดการของมัสยิดนั้นในแต่ละสัปดาห์, ตารางเวลากิจกรรมต่างๆ รวมถึงสามารถให้หุ่นยนต์เป็นผู้นำพิธีละหมาด โดยอาศัยการกดปุ่มลงบนตัวหุ่น
นอกจากนี้ยังมีบาร์โคดให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาเกี่ยวกับพระคัมภีร์ผ่านสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
จุดหมายสำคัญในการนำหุ่นยนต์ตัวนี้เข้ามาใช้งานในมัสยิดคือ การให้ผู้เยี่ยมชมและศรัทธาสามารถเข้าถึงคำสอนและหลักศาสนา ส่งเสริมการถ่ายทอดข้อความของอิหม่ามให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการทำพิธีละหมาดแก่ผู้ศรัทธาให้มากยิ่งขึ้นด้วย
โดยตัวหุ่นยนต์นักเทศน์นี้ปัจจุบันมีการใช้งานอยู่ในมัสยิด 2 แห่งของนครเมกกะ เพื่อตอบรับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น เป็นการมุ่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อเข้าสู่โลกยุคดิจิทัล เพื่อสืบสานและรักษาวัฒนธรรมแห่งความศรัทธาของศาสนาอิสลาม ให้ชนรุ่นหลังและทั่วโลกได้มีโอกาสได้สัมผัสสืบไป
แนวคิดในการพัฒนาของซาอุดีอาระเบียที่ไม่ได้จบแค่มัสยิด
หลายท่านอาจสงสัยเหตุใดจึงมีการนำหุ่นยนต์มาใช้ในเรื่องศาสนา แต่อันที่จริงการพัฒนาที่เกิดไม่ได้จำกัดแค่เผยแพร่คำสอน ปัจจุบันทางมัสยิดมีการใช้งานหุ่นยนต์ในหลากหลายูปแบบ ทั้งหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อและหุ่นยนต์ทำความสะอาด เพื่อพัฒนาให้กลายเป็นมัสยิดอัจฉริยะ มุ่งตามวิสัยทัศน์ของประเทศที่วางไว้อย่าง Vision 2030
Vision 2030 คือ การปรับโครงสร้างประเทศของซาอุดีอาระเบีย จากชาติมหาอำนาจน้ำมันที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเชื้อเพลิงเพื่อสร้างรายได้ สู่การพัฒนาและอยู่รอดอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างโดยรวมให้ทันสมัย หันมารองรับธุรกิจอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้ประเทศสามารถอยู่ได้แม้เกิดวิกฤติราคาน้ำมันหรือการเปลี่ยนผ่านรูปแบบพลังงานในอนาคต
หนึ่งในโครงการที่ว่าคือการเปิดกว้างเมืองให้มีผู้มาเยือนมากขึ้น ทั้งการเปิดรับผู้แสวงบุญเพิ่มจากปีละ 8 ล้านเป็นปีละ 30 ล้านคน, เปิดรับแรงงานจากนานาชาติรวมถึงประเทศไทย รวมถึงด้านการท่องเที่ยวที่ต้องการผลักดันให้เกิดการขยายตัว เป็นเหตุให้การพัฒนาเพื่อเข้าถึงคนหมู่มากและการปรับปรุงให้เป็นเมืองอัจฉริยะเป็นสิ่งจำเป็น
โดยปัจจุบันมกุฎราชกุมารมุฮัมหมัด ทรงปรับภาพลักษณ์และกฎระเบียบของประเทศไปมากมาย ลบล้างความอนุรักษ์นิยมสุดขั้วของประเทศมุสลิม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมารองรับ และให้ความสำคัญในการปรับปรุงด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนโฉมให้ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันในอนาคต
หนึ่งในโครงการที่ได้รับความสนใจภายใต้วิสัยทัศน์ Vision 2030 คือ การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ มีรายงานว่า Saudi Company for Artificial Intelligence (SCAI) และ SenseTime บริษัทปัญญาประดิษฐ์ในจีน ลงทุนเพื่อพัฒนา AI ในระบบเศรษฐกิจกว่า 776 ล้านดอลลาร์(28,537 ล้านบาท)
โดยนอกจากจะช่วยในด้านเศรษฐกิจและการวางโครงสร้างแล้ว ข้อตกลงดังกล่าวมีผลในการสำรวจและพัฒนาระบบดูแลสุขภาพและสาธารณสุขของประเทศให้ทันสมัย โดยได้ประกาศความร่วมมือในครั้งนี้ในงานประชุดสุดยอด AI ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 – 15 กันยายน ในกรุงริยาด เมืองหลวงของประเทศ
นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบียยังมีการลงนามเพื่อดึงบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ Google เข้ามาร่วมพัฒนาเมือง AI นี้อีกด้วย
ปัจจุบันซาอุดีอาระเบียเปลี่ยนแปลงไปมากภายใต้การบริหารของมกุฎราชกุมารมุฮัมหมัด การปฏิรูปเกิดขึ้นหลายด้านทั้งในด้านกฎข้อบังคับในชีวิตประจำวัน ผ่อนปรนให้แก่สื่อบันเทิง เปลี่ยนผ่านไปสู่ความทันสมัย ผลักดันประเทศสู่ยุคสมัยใหม่เพื่อความมั่นคงยิ่งขึ้น
แต่นี่อาจเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องกับศาสนา โดยเฉพาะศาสนาอิสลามที่ขึ้นชื่อเรื่องความเคร่งครัด การพัฒนาครั้งนี้จึงน่าสนใจว่า ซาอุดีอาระเบียจะเปลี่ยนแปลงข้อบังคับและเปลี่ยนแปลงมุมมองของโลกนี้ต่อศาสนาอิสลามไปแค่ไหน และจะนำเทคโนโลยีใดมาช่วยพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต
ที่มา
https://www.arabnews.com/node/2162321/business-economy
https://www.arabnews.com/node/2161091/saudi-arabia
https://interestingengineering.com/innovation/ai-sermon-robots-automating-islam-holiest-mosques
https://www.bangkokbiznews.com/world/984883