เสก 'อากาศ' เป็น ‘อาหาร’ : Future Food ทางเลือกสู่ความยั่งยืน
อุตสาหกรรมอาหารในยุคที่เทคโนโลยีเฟื่องฟูขนาดนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารที่น่าแปลกตาหลายๆอย่างก็เริ่มทยอยออกสู่ท้องตลาด บ้างเพื่อหาจุดขายของแบรนด์ บ้างเพื่อตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม แต่จะมีสักกี่รายที่สามารถควบคู่สองอย่างนี้ไปด้วยกัน?
ใครจะคาดคิดว่าอากาศที่เราหายใจกันอยู่ทุกวันจะถูกนำมาผลิตเป็นอาหารได้!? ฟังดูยังไงก็ไม่เข้าที แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงและจำหน่ายออกสู่ท้องตลาดแล้ว ด้วยแนวคิดต่อยอดจากเทคโนโลยีของนาซ่าที่สตาร์ทอัพสัญชาติฟินแลนด์นำไปพัฒนาต่อ จาก ‘อากาศ’ สู่ ‘อาหาร’ เรื่องที่ดูเป็นไปไม่ได้กลับกลายเป็นจริงโดยไม่ต้องพึ่งเวทมนต์ แถมยังการันตีรางวัลหลายสาขาทั้ง Index Award, The Europas: The Hottest CleanTech Startup Award รวมถึงติดอันดับ 1 ใน 100 Best Innovations จากนิตยสาร TIME
‘Solar Foods’ กับวิสัยทัศน์ที่ไม่จำกัดอยู่แค่โปรตีนทางเลือก
สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารจากแดนฟินแลนด์ “Solar Foods” ที่นำโดย Dr. Pasi Vainikka ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของโครงการวิจัยร่วมที่มุ่งเน้นไปยัง พลังงานหมุนเวียน ซึ่งดำเนินการโดย VTT Technical Research Center of Finland กับการตั้งคำถามที่ว่า “เราจะสามารถเปลี่ยนทรัพยากรเหล่า (อากาศและไฟฟ้า) ให้กลายเป็นแคลอรี่ที่มนุษย์สามารถกินได้อย่างไร?”
สื่อบางสำนักรายงานว่า Solar Foods ใช้เทคโนโลยีเดียวกับนาซ่าในการผลิตอาหารสำหรับนักบินอวกาศเพื่อดำรงชีวิตอยู่ในสภาวะไร้แรงดึงดูด แต่ Dr. Vainikka กล่าวว่าแม้ไอเดียจะคล้ายๆกันแต่ตัวเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับนาซ่าที่จะหยิบเทคโนโลยีนี้มาใช้เลย
“เรากำลังใช้เทคโนโลยีมากมายที่อิงจากงานวิจัยด้านอวกาศ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เทคโนโลยีดักจับอากาศ เพื่อดักจับ CO2โดยตรง และอื่นๆอีกมากมายที่เราพยายามผสมผสานมันเข้าด้วยกัน และพัฒนาให้แนวคิดนี้สามารถต่อยอดไปในเชิงพาณิชย์ได้”
Dr. Vainikka กล่าว
ซึ่งความพยายามดังกล่าวรวมถึงวิสัยทัศน์ที่ต้องการผลักดันอุตสาหกรรมอาหารให้เกิดความยั่งยืน และไม่ย่ำอยู่กับที่ ส่งผลให้ Solar Foods อยู่บนจุดสูงสุดของเทคโนโลยีอาหาร ผ่านผลิตภัณฑ์ ‘Solein’ โปรตีนจากอากาศที่จะเปลี่ยนมุมมองการกินของผู้บริโภคสู่ความยั่งยืนได้
เสก ‘อากาศ’ เป็น ‘อาหาร’ โดยไม่ต้องใช้เวทมนต์
กระบวนการเสก ‘อากาศ’ เป็น ‘อาหาร’ ที่ทาง Solar Foods คิดมาอย่างดีจนได้ผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า ‘โซลีน (Solein)’ จากการรวมคำว่า Solar + Protein เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากๆ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการหมักเบียร์
Dr. Vainikka กล่าวว่า โซลีนจะถูกสร้างขึ้นจากการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนทำให้น้ำเกิดเป็นฟองคาร์บอนและไฮโดรเจน และเติมจุลินทรีย์ที่มีชีวิตลงไปเพื่อกินไฮโดรเจน และเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นโปรตีนเซลล์เดียว โดยไม่สร้างก๊าซเรือนกระจกเพิ่ม
จากนั้นต้องนำไปทำให้แห้งเป็นผง ซึ่งกระบวนการทำให้แห้งนี้จะเป็นการหมักตามธรรมชาติไม่ต่างอะไรจากการหมักไวน์หรือเบียร์ แต่ต้องใช้เครื่องปฏิกรณ์พิเศษ ท้ายที่สุดผงโซลีนที่รับประทานได้จึงเกิดขึ้นมาพร้อมคุณค่าทางอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนถึง 65% โลว์คาร์โบไฮเดรต (Carb) 20 – 25% ไขมัน 5 – 10% รวมถึงกรดอะมิโนต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกาย
ประเด็นหลักที่ทำให้โซลีนกลายเป็นอาหารแห่งอนาคตคือ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก ซึ่งการผลิตโซลีน 1 กิโลกรัมจะใช้น้ำในการผลิตแค่ 10 ลิตรเท่านั้น น้อยกว่า 250 เท่าและใช้พื้นที่น้อยกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับถั่วเหลืองที่ต้องใช้น้ำถึง 2,500 ลิตร และเนื้อวัวที่ต้องใช้น้ำถึง 15,000 ลิตร
Dr. Vainikka หัวหน้าผู้บริหารของ Solar Foods ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “นี่เป็นอาหารชนิดใหม่ เป็นโปรตีนชนิดใหม่ที่แตกต่างจากอาหารทั้งหมดในตลาดปัจจุบัน เพราะไม่จำเป็นต้องอาศัยดินในการเพาะปลูกหรือการเพาะเลี้ยงใด ๆ ทั้งสิ้น” ซึ่งหากจะพูดถึงแหล่งโปรตีนชั้นดีแล้ว ‘เนื้อสัตว์’ คงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่เราคิดออก แต่ตัวโซลีนเองก็เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงไม่แพ้กัน แต่ความแตกต่างคือ เราไม่จำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์ ไม่ต้องใช้ที่ดินทางการเกษตรจำนวณมาก และนี่คือเหตุผลว่าโซลีนจะพลิกโฉมการทำเกษตรกรรมแบบเดิมๆและกลายเป็นอาหารแห่งอนาคต
ลักษณะและรสชาติของอาหารที่ถูกเสกจากอากาศนี้จะคล้ายกับแป้งสาลี ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาหารต่างๆ แต่ที่ทางบริษัทแนะนำเลยคือ การนำโซลีนไปปรุงเป็นพาสต้า ขนมปัง หรือโปรตีน Plant-based
โปรตีนทางเลือก ความตื่นตัวหรือแค่กระแส?
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะออกไปซื้อของตามร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกที่ไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ถูกวางขายจนเราพบเห็นได้อย่างชินตา แถมแบรนด์อีกมากยังมีแนวโน้มว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็น Plant-based มากที่สุด กระแสโปรตีนทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วนี้ จริงๆแล้วก็มาจากพฤติกรรมของคนยุคใหม่ที่นอกจากจะหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นแล้ว ข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่ใช้ในกระบวนการผลิตอาหารภายใต้การเพิ่มขึ้นของประชากรโลกยังส่งผลให้ผู้บริโภคอีกมากมายเกิดความตระหนักในผลกระทบของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โปรตีนทางเลือกจึงไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นตามเทรนด์ หรือกระแสนิยมตามโลกออนไลน์เท่านั้น แต่อาจก้าวขึ้นแท่นอาหารแห่งอนาคต (future food) เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารในอนาคตอันใกล้
อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
โครงการอาหารโลกระบุว่าในขณะนี้ทั่วโลกมีประชากร 821 ล้านคน และในปี 2019 ประชากรโลก1 ใน 9 ต้องทนทุกข์จากความหิวโหย ซึ่งการมาของ Solar Foods สตาร์ทอัพสัญชาติฟินนิช จะสามารถจัดการกับปัญหาการขาดแคลนอาหารของประชากรบนโลกได้ ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์จากผงโปรตีนสำหรับอาหารจำนวน 2 พันล้านมื้อได้ภายในปี 2023
การเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์โซลีน สร้างอิมแพคมากมายในวงสังคมและสิ่งแวดล้อม โซลีนถือว่ามีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง
นอกจากนี้โซลีนยังส่งผลดีในเรื่องการบรรเทาความหิวโหยและการกระจายอาหารในโลกที่เท่าเทียมกัน เพราะไม่ว่าจะสภาพภูมิประเทศแบบใด คุณภาพดินหรือแหล่งน้ำจะเพียงพอไหม โซลีนก็สามารถผลิตขึ้นได้ในทุกที่ ทั้งการลดการใช้ปริมาณที่ดิน ทรัพยากรและการใช้น้ำ การผลิตโซลีนแต่ละครั้งสร้างมลพิษน้อยกว่าการผลิตเนื้อวัวถึง 100 เท่า และน้อยกว่าการผลิตโปรตีนจากพืชถึง 5 เท่า โซลีนยิ่งตอกย้ำเป้าหมายอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals –SDGs)


