posttoday

แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021

05 มกราคม 2565

การแข่งขันกีฬาท่ามกลางวิกฤต “โควิด-19” เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกีฬาประเภททีม อย่างไรก็ตามในปี 2021 มีทีมกีฬาหลายๆทีมที่ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเราขอรวบรวม 10 ทีมกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนี้มาให้นึกถึงกันอีกครั้ง

แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 10. “ทีมกอล์ฟ ไรเดอร์ คัพ สหรัฐฯ” ปล่อยวางความขัดแย้ง เพื่อเป้าหมายสู่ชัยชนะ
          ศึกกอล์ฟ ไรเดอร์ คัพ  ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 43 โดยเลื่อนมาจากปีที่แล้วหลังจากโควิดส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่ก่อนหน้าการแข่งขันรายการนี้จะเปิดฉาก มีดราม่าจากทางฝั่งเจ้าภาพ สหรัฐฯ เนื่องจากสองคู่กัดอย่าง บรู๊กส์ เค็ปก้า กับ ไบรสัน เดอชอมโบ ที่มีความขัดแย้งกันมานานตั้งแต่ปี 2019 ต่างติดทีมมาทั้งคู่ ทำให้แฟนกอล์ฟมะกันต่างกังวลว่า ความไม่ลงรอยของทั้งสองคนจะทำให้ทีมพลาดแชมป์ครั้งนี้ไปหรือไม่

 

          แต่สุดท้าย ทีมไรเดอร์ คัพ ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำทัพของกัปตันทีม สตีฟ สตริกเกอร์ ก็รวมใจเป็นหนึ่ง เปิดฉากขึ้นนำตั้งแต่วันแรกที่แข่งประเภทคู่แบบโฟร์ซัมส์และโฟร์บอล ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักเพราะปกติแล้วทีมสหรัฐฯมักจะไปโชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงที่แข่งแบบซิงเกิ้ลแมตช์เพลย์วันสุดท้ายมากกว่า โดยศึกครั้งนี้พวกเขาก็ขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบก่อนเอาชนะไปแบบขาดลอย 19-9 คะแนน สร้างประวัติศาสตร์ทำแต้มสูงสุดที่ทีมใดทีมหนึ่งทำได้นับตั้งแต่ปี 1967และเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 27 ของพวกเขาอีกด้วย
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021

อันดับ 9. “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ไม่หวั่นแม้วัน(โควิด)มามาก
          ในซีซั่น 2020-21 ศึกฟุตบอลอังกฤษเจอปัญหาโควิดระบาดจนทำให้ต้องเปิดฤดูกาลล่าช้ากว่าปกติ แต่ยังมีรายการที่ต้องลงแข่ง 3 ถ้วยเหมือนเดิม (พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาวคัพ) ซึ่งนั่นทำให้แต่ละทีมต้องลงสนามกันแบบรัวๆถึง 3 นัดในรอบ 7 วัน ไม่นับบรรดาศึกฟุตบอลถ้วยยุโรปที่สอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ ส่งผลให้แทบทุกทีมต้องเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บไปหลายรายจนแทบจะไม่ได้ใช้ 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดได้เลย

          แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่นอกจากจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว มันสมองของยอดกุนซือชาวสแปนิชยังสามารถคิดหาแท็กติกใหม่ๆเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์บาดเจ็บได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการจับ อิลคาย กุนโดกัน เล่นเป็น False Nine จนกลายเป็นแข้งที่ทำประตูสูงสุดของทีม หรือการปรับให้ ชูเอา กานเซโล่ มาเล่น invert wingback และพัฒนาจนนักเตะรายนี้กลายเป็นแบ็กเบอร์ต้นๆของโลกในปัจจุบัน

 

          ด้วยพัฒนาการด้านแท็กติกที่ไม่หยุดยั้งของพวกเขานี้เอง ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงตั้งแต่ยังไม่พ้นครึ่งฤดูกาล ก่อนจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองชนิดไร้คู่ต่อกร แถมในซีซั่นถัดมา (2021-22) พวกเขาก็ยังแรงดีไม่มีตก รั้งจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีกอยู่ในปัจจุบัน
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 8. “ทีมลูกหนังอาร์เจนติน่า” กับเกียรติยศแรกในนามทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี่
          ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์หมายเลข 1 ของโลก คว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการภายใต้สีเสื้อของ บาร์เซโลน่า แต่สำหรับทีมชาติแล้วเป็นหนังคนละม้วน เพราะเขายังไม่สามารถประสบความสำเร็จในรายการใหญ่ๆได้เลย อย่างไรก็ตาม สถิติอันเลวร้ายดังกล่าวก็ถึงเวลายุติลง ในศึกฟุตบอล “โคปา อเมริกา 2021”

 

          พลพรรค “ฟ้าขาว” ลงสนามทัวร์นาเม้นท์นี้ด้วยความกระหายในชัยชนะอย่างเต็มเปี่ยม ที่สำคัญ กุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี่ สามารถวางแท็กติกที่ทำให้บรรดาซูเปอร์สตาร์ในแนวรุกของทีมสามารถเล่นร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา แถมในเกมรับ พวกเขายังค้นพบยอดนายทวารอย่าง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในทัวร์นาเม้นท์นี้ จนส่งผลให้ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ไปครองได้แบบที่ไม่พบกับความพ่ายแพ้แม้แต่นัดเดียวตลอดทั้งทัวร์นาเม้นท์ และนับเป็นแชมป์แรกในรอบ 28 ปีของพวกเขาด้วย

          ส่วน ลิโอเนล เมสซี่ อายุอานามที่มากขึ้นไม่ได้เป็นอุปสรรคแม้แต่น้อย โดยรายการนี้ เขาเป็นเจ้าของสถิติต่างๆมากมาย ทั้งตำแหน่งดาวซัลโว, แอสซิสต์มากที่สุด, สร้างสรรค์โอกาสมากสุด, สร้างโอกาสยิงประตูมากสุด และยิงตรงกรอบมากที่สุด เรียกว่าท็อปฟอร์มในทุกด้านจริงๆ จึงไม่แปลกที่สุดท้าย เมสซี่ จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์มาครองได้อีกหนึ่งรางวัล
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 7. “แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส” และแหวนแชมป์วงที่ 7 ของ ทอม เบรดี้
          ทอม เบรดี้ ยอดควอเตอร์แบ็กเจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 6 สมัย วัย 43 ปี ต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงปลายอาชีพ เมื่อจำต้องย้ายสังกัดจาก นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ มาอยู่กับ แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส ด้วยหวังจะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่า “อายุ” ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขา

 

          ช่วงฤดูกาลปกติ บัคคาเนียร์ส ยังไม่ได้ถูกจับตามองมากนัก โดยพวกเขาผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟมาได้ในฐานะทีมอันดับ 5 ของสาย เอ็นเอฟซี ด้วยสถิติชนะ 11 แพ้ 5 แต่เมื่อเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ ทอม เบรดี้ และเพื่อนร่วมทีม ต่างก็เค้นฟอร์มสุดยอด เริ่มจากการชนะ วอชิงตัน เร้ดสกินส์ 31-23 ต่อด้วยอัด นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส 30-20 และเฉือน กรีนเบย์ แพคเกอร์ส 31-26 ผ่านเข้าชิงศึกซูเปอร์โบว์ลได้สำเร็จ โดยคู่แข่งของพวกเขาในนัดชิงก็คือ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของแชมป์เมื่อปีก่อน นำโดยยอดจอมทัพอย่าง แพทริค มาโฮล์มส์ 

 

          ก่อนแข่ง หลายสำนักต่างยกให้ ชีฟส์ เป็นต่อเล็กน้อย แต่เมื่อแข่งจริงกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อ “บัคส์” ระเบิดฟอร์มถล่มแชมป์เก่าไปขาดลอยถึง 31-9 คะแนน ส่วน เบรดี้ ขว้างคอมพลีท 21 จาก 29 ครั้ง แม้ทำระยะแค่ 201 หลา แต่ได้มามาถึง 3 ทัชดาวน์ แถมเจ้าตัวยังนำทัพลุยเดินหน้าให้เพื่อนร่วมทีมวิ่งไปทำทัชดาวน์ได้อีก 1 ครั้ง กับอีก 1 ฟิลด์โกล์ ปิดฉากศึกซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้ด้วยตำแหน่ง MVP พร้อมแหวนแชมป์มาประดับนิ้วเป็นวงที่ 7 
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 6. “ทีมว่ายน้ำสหรัฐ” 30 เหรียญโอลิมปิก และการทุบสถิติประหนึ่งเป็นเรื่องกล้วยๆ
          หลังหมดยุคของ “ไมเคิล เฟลป์ส” หลายคนต่างจับตามองไปที่ทีมว่ายน้ำของสหรัฐฯว่าจะสามารถครองตำแหน่งเจ้าสระในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ เพราะฟอร์มของทีมว่ายน้ำจากหลายๆชาติ โดยเฉพาะ ออสเตรเลีย พัฒนาได้ดีขึ้นมากในช่วงหลัง

 

          แต่พวกเขายังมี “เคเล็บ เดรสเซล” ดาวดวงใหม่ของวงการ ที่ในศึก “โตเกียว เกมส์” ครั้งนี้ เจ้าตัวคว้าไปถึง 5 เหรียญทองจาก 6 รายการที่ลงแข่งขัน โดยเป็นประเภทบุคคล 3 รายการคือ ฟรีสไตล์ 50 ม., ฟรีสไตล์ 100 ม. และผีเสื้อ 100 ม. บวกกับผลัดอีก 2 รายการคือ ฟรีสไตล์ 4x100 ม. และผลัดผสม 4x100 ม. นอกจากนั้นเดรสเซลยังทำลายสถิติโลกไป 2 รายการ และทำลายสถิติโอลิมปิกไปอีก 4 ครั้งด้วย

 

          ส่วนนักว่ายน้ำรายอื่นก็ใช่ว่าจะเป็นรองมากมาย โดย โรเบิร์ต ฟิงเก้ คว้ามาอีก 2 เหรียญทองจาก ฟรีสไตล์ 800 ม. และ 1,500 ม., เชส คาลิสซ์ คว้า 1 เหรียญทองจากเดี่ยวผสม 400 ม. ขณะที่ฝ่ายหญิงบวกเพิ่มได้อีก 3 เหรียญทอง จาก เคธี่ ลีเดคกี้ (ฟรีสไตล์ 800 ม., ฟรีสไตล์ 1,500 ม.) และ ลีเดีย จาโคบี้ (กบ 100 ม.) เบ็ดเสร็จทีมว่ายน้ำสหรัฐฯได้ไป 11 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง รักษาตำแหน่งมหาอำนาจแห่งวงการว่ายน้ำของโลกไว้ได้อีกสมัย
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 5. “บาเยิร์น มิวนิค” เปลี่ยนโค้ช ไม่เปลี่ยนฟอร์ม
          “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค พิสูจน์ให้ทุกคนได้ประจักษ์อีกครั้งว่าพวกเขาคือเบอร์ 1 ของวงการลูกหนังเยอรมัน และในเส้นทางการลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา ของพวกเขานั้น แทบจะเรียกได้ว่า “ม้วนเดียวจบ” โดยเริ่มขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงตั้งแต่ แมตช์เดย์ที่ 6 จะมีแค่สัปดาห์ที่ 11 และ 12 ที่อาจจะหลุดไป แต่หลังจากนั้นก็กลับไปนั่งเก้าอี้หัวตารางจนเป็นแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 31 ได้อย่างง่ายดาย และเป็นการคว้าแชมป์ลีกติดต่อกัน 9 ซีซั่น รวมถึงเป็นแชมป์ใบที่ 4 ของซีซั่น ต่อจาก เดเอฟเบ ลีก้า โพคาล, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก

 

          ด้วยฟอร์มการเล่นที่เหนือชั้น ด้วยขุมกำลังที่เหนือกว่า บวกกับมันสมองจากยอดเทรนเนอร์อย่าง ฮันซี่ ฟลิค ทำให้ “เสือใต้” ถล่มคู่แข่งในลีกไปถึง 99 ประตู ในจำนวนนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยังสร้างสถิติใหม่ กดไป 41 ประตูในลีก ทำลายสถิติเดิม (40 ประตู) ของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่อยู่ยงคงกระพันมาตั้งแต่ฤดูกาล 1971-72  ได้สำเร็จ

 

          มาในซีซั่นนี้ แม้ “เสือใต้” จะเปลี่ยนกุนซือมาเป็น ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ แต่ผลงานของพวกเขาก็แทบไม่ต่างจากเดิม โดยเฉพาะเกมรุกที่กระหน่ำไปแล้วถึง 56 ลูกจาก 17 นัด ขณะที่ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ก็ชนะ 6 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยผลงานการล่าตาข่ายสุดโหด 22 ประตู เสียแค่ 3 ลูกเท่านั้น

แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 4. “มิลวอคกี้ บัคส์” 50 ปีที่รอคอย
          ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของ มิลวอคกี้ บัคส์ ภายใต้การนำของ ยานนิส อันเตโตคุมโป ซูเปอร์สตาร์ดังชาวกรีซเชื้อสายไนจีเรีย ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตั้งแต่ฤดูกาลปกติ จนสามารถคว้าแชมป์ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ ฤดูกาล 2021 มาได้อย่างยิ่งใหญ่

 

          โดยในฤดูกาลปกติ บัคส์ โชว์ฟอร์มสุดหรูเก็บสถิติชนะ 46 แพ้ 26 คว้าแชมป์กลุ่มเซ็นทรัล ดิวิชั่น และได้อันดับ 3 ของสายตะวันออก เข้ารอบเพลย์ออฟ ไปพบกับ ไมอามี ฮีต และเป็น บัคส์ ที่เอาชนะแบบไม่ยากเย็น 4-0 เกม จากนั้นในรอบเพลย์ออฟ รอบ 2 พวกเขามาดวลกับ บรู๊คลิน เน็ตส์ และเป็นเน็ตส์ ที่เริ่มต้นได้ดีกว่านำก่อนถึง 2-0 เกม แต่ บัคส์ ก็พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะได้ 4-3 เกม และได้เข้าไปชิงแชมป์สายตะวันออกกับ แอตแลนต้า ฮอว์ค

 

          ในเกมเอ็นบีเอ รอบชิงแชมป์สายตะวันตก เป็นอีกครั้งที่ บัคส์ ต้องเหนื่อยเล่นถึง 6 เกม กว่าจะปิดซีรี่ส์เอาชนะ ฮอว์ค ไปได้ 4-2 เกม และได้เข้าสู่ เอ็นบีเอ ไฟนอลส์ ไปดวลกับ ฟีนิกซ์ ซันส์ ที่ชนะทีมเต็งอย่าง แอลเอ คลิปเปอร์ส มาได้ 4-2 เกมเช่นกัน โดยในรอบชิง เป็นอีกครั้งที่ บัคส์ โดนคู่แข่งนำก่อน 0-2 เกม แต่ด้วยความยอดเยี่ยมพวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์กลับเอาชนะ 4 เกมรวด และปิดซีรี่ส์เอาชนะไป 4-2 เกม คว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ นับเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ของทีมต่อจากปี 1971 หรือเมื่อ 50 ปีก่อน ขณะที่ ยานนิส อันเตโตคุมโป คว้า MVP ในรอบชิงชนะเลิศตามคาด จากผลงานทำแต้มเฉลี่ย 35.2 แต้ม, 13.2 รีบาวด์, 5.0 แอสซิสต์, 1.2 สตีล และ 1.8 บล็อค
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 3. “สิงห์บลูส์” กับการผงาดครองเจ้ายุโรปสมัย 2
          ฤดูกาล 2020-21 เชลซี ทุ่มเงินกว่า 200 ล้านปอนด์ในการเสริมทัพ โดยคว้าดาวดังอย่าง ฮาคิม ซิเย็ค, ติโม แวร์เนอร์, เบน ชิลเวลล์, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เอดูอาร์ เมนดี้ จนทำให้พวกเขากลับมาเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ อย่างไรก็ตามกุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด กลับออกสตาร์ทในลีกได้อย่างน่าผิดหวัง แพ้ถึง 6 จาก 19 เกมแรก บวกกับความขัดแย้งกับผู้บริหารบางราย สุดท้าย แลมพาร์ด ก็ต้องก้าวลงจากตำแหน่งไป

 

          ถึงเวลานั้นคงไม่มีใครคิดว่า เชลซี จะกลับมาคว้าเกียรติยศใดๆได้ในซีซั่นนี้  แต่กุนซือคนใหม่อย่าง โธมัส ทูเคิ่ล กลับเข้ามาพลิกโฉมหน้าทีมอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในเรื่องของแผนการเล่นที่หันมาใช้ระบบ 3 เซนเตอร์จนทำให้เกมรับกลับมาเหนียวแน่นอีกครั้ง และแท็กติกของเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่รอบน็อกเอาต์ เริ่มจากการเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ด้วยสกอร์รวม 3-0 ต่อด้วยเอาชนะ ปอร์โต้ ด้วยสกอร์รวม 2-1 ตามด้วยการโค่น เรอัล มาดริด ในรอบคัดเชือกที่สกอร์รวม 3-1 และมาปิดท้ายด้วยการเฉือนคู่ปรับร่วมลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 จากประตูชัยของ ไค ฮาแวร์ตซ์ คว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ของยุโรปเป็นสมัยที่ 2 ของสโมสร

 

          และนี่คือผลงานที่มาจากมันสมองอัจฉริยะของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่พาทีมครองบัลลังก์เจ้ายุโรป ทั้งที่เพิ่งเข้ามาทำทีมได้แค่ครึ่งซีซั่น
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 2. “เร้ดบูลล์ เรซซิ่ง” กับการส่ง “Mad Max” สู่บัลลังก์แชมป์
          หลังจากต้องเป็นแค่ “พระรอง” และต้องนั่งมอง ลูอิส แฮมิลตัน กับทีม เมอร์เซเดส ครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟอร์มูล่าวันมาหลายปี ในที่สุด เร้ดบูลล์ เรซซิ่ง ก็สามารถพัฒนารถที่สมบูรณ์แบบให้ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพ่น ยอดนักขับชาวดัตช์ก้าวขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกอย่างเต็มตัวในปีนี้ และ “แมด แม็กซ์” ก็ไม่ทำให้ทุกคนในทีมผิดหวัง โดยเฉพาะชัยชนะในสนามสุดท้ายที่ อาบูดาบี ซึ่งทำให้เขาปาดหน้า แฮมิลตัน ขึ้นไปคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในชีวิต

 

          นอกจากฟอร์มการขับอันร้อนแรงและดุดัน (ที่บางครั้งอาจจะดุดันมากไปด้วยซ้ำ) ของ เวอร์สแตพเพ่น แล้ว ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับ แซร์จิโอ เปเรซ นักซิ่งชาวเม็กซิกัน ที่เต็มใจรับบทบาทนักขับมือ 2 ให้ทีมเป็นอย่างดี โดยพร้อมที่จะเล่นไปตามเกมของเร้ดบูลล์ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการพยายามดึงเวลาอย่างชาญฉลาดในสนามสุดท้ายที่อาบูดาบี ที่เขาบดบี้กับ ลูอิส แฮมิลตัน จนทำให้ เวอร์แตพเพ่น ที่ถูกทิ้งห่างไปไกลจากการเข้าพิต สามารถไล่จี้จนเหลือห่างแค่ 1 วินาทีเศษเท่านั้น

 

          “เปเรซ นายมันโคตรตำนาน” เวอร์สแตพเพ่น กล่าวชมเพื่อนร่วมทีมผ่านวิทยุสื่อสารจากจังหวะดังกล่าว

 

          และจาก “ความเป็นทีม” ที่ เร้ดบูลล์ เรซซิ่ง มีเหนือกว่าสองนักขับเมอร์เซเดสอย่าง “ลูอิส แฮมิลตัน- วัลต์เทรี่ บ็อตทาส” นี้เอง จึงไม่แปลกที่ตำแหน่งแชมป์โลกจะมีการเปลี่ยนมือ
แชมป์เหนือแชมป์! รวม 10 สุดยอดทีมแห่งปี 2021 อันดับ 1. “อัซซูรี่” อิตาลี: บทพิสูจน์ว่าระบบและทีมเวิร์คสำคัญกว่าสตาร์
          หลังทีมชาติอิตาลีต้องพบกับความตกต่ำ ไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ใครจะเชื่อว่า 3 ปีถัดมา ทีมเดียวกันนี้จะสามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ยุโรปได้ แต่ด้วยมันสมองของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่เข้ามาสร้างทีมและปรับเปลี่ยนแท็กติกจนทำให้ อิตาลี ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องสไตล์การเล่นเน้นเกมรับ กลายมาเป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้อย่างอันตรายและหลากหลายรูปแบบ แม้ว่าจะโดนต่อต้านในช่วงแรกว่าดึงแต่เด็กรุ่นใหม่มาติดทีมโดยไม่มีนักเตะวัยเก๋ามาช่วยประคอง แต่ผลงานที่พวกเขาทำไว้ก็ทำให้เสียงวิจารณ์ต้องเงียบหายไป 

 

          โดยในศึกฟุตบอลยูโรครั้งนี้ “อัซซูรี่” ประเดิมรอบแรกด้วยการชนะ 3 เกมรวดแบบไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว นัดแรก ชนะ ตุรกี 3-0 ต่อด้วยชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และชนะเวลส์ 1-0 จากนั้นในรอบ 16 ทีม เอาชนะออสเตรีย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษหลัง 90 นาที เสมอ 1-1ต่อมาในรอบ 8 ทีมสุดท้ายก็ชนะ เบลเยียม 2-1 และมาชนะจุดโทษ สเปน 4-2 หลังจากเสมอ ในเวลา 120 นาที 1-1 และปิดท้ายนัดชิงชนะเลิศที่ อิตาลี ชนะจุดโทษอังกฤษไป 3-2 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 1-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรมาครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 53 ปี พร้อมสร้างสถิติไม่แพ้ใครมายาวนานถึง 34 นัดด้วยกัน

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้