อนุทิน ย้ำอำนาจ ครม. ชี้ชะตา MOU 43-44 ยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก
นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศจุดยืนรัฐบาลต่อปมพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ยันอำนาจตัดสินใจสุดท้ายในการยกเลิก MOU ปี 43 และ 44 เป็นของครม. ชี้ไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ
วันที่ 13 ตุลาคม ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการพิจารณายกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด โดยระบุว่า
รัฐบาลจะรอข้อสรุปจากผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ จะเป็นผู้รวบรวมและสรุปผลเพื่อนำเสนอต่อไป
ครม. คือผู้ชี้ขาด ต้องรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงอำนาจในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย นายอนุทินกล่าวอย่างชัดเจนว่า "คณะรัฐมนตรี คือคนที่จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก"
ทั้งนี้ กระบวนการตัดสินใจจะต้องมีการรวบรวมข้อมูลให้รอบด้านและมากที่สุด เพื่อพิจารณาถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ
"เรื่องนี้ต้องมานั่งดูก่อน เราต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยืนยันว่าสำหรับรัฐบาลนี้ ไม่มีวันที่จะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ" นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินยังกล่าวถึงผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจฯ ที่มีนายไชยชนก ชิดชอบ เป็นประธานว่า
ผลการศึกษาต้องส่งมาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนั้น ครม.จะมอบหมายให้ใครคนใดคนหนึ่งไปสรุปผลการศึกษามา
โดยอาจจะเป็นรมว.การต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ร่วมอยู่ด้วยก็ได้
เมื่อถูกถามถึงความเร่งด่วนของเรื่องนี้ นายอนุทินยืนยันว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามกระบวนการ และเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
ซึ่งรวมถึงแนวทางการทำประชามติ โดยจะต้องรอผลการศึกษาจากคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ประกอบการตัดสินใจต่อไป


