posttoday

ลุ้นคำสั่งบังคับโทษ ศาลฎีกาชี้ชะตา“ทักษิณ”ปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ

09 กันยายน 2568

ศาลฎีกาเตรียมอ่านคำสั่งบังคับโทษ “ทักษิณ” คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ 9 ก.ย. เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย จับตาผลสะเทือนการเมือง

KEY

POINTS

  • ศาลฎีกานัดอ่านคำสั่งบังคับโทษ “ทักษิณ” 9 ก.ย. คดีชั้น 14
  • มาตรการรักษาความปลอดภัยเข้ม ห้ามมวลชน–สื่อเข้าพื้นที่อิสระ
  • คำพิพากษาถูกมองว่าเป็น “วันชี้ชะตา” อดีตนายกฯ และการเมืองไทย

ศาลฎีกาเตรียมอ่านคำสั่งบังคับโทษ “ทักษิณ”

บรรยากาศศาลฎีกา สนามหลวงก่อนถึงเวลานัดอ่านคำสั่งบังคับโทษคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 9 ก.ย.2568 เวลา 10.00 น. มีการจัดกำลังตำรวจราว 100 นาย ดูแลเข้มพื้นที่รอบศาล โดยเฉพาะฝั่งคลองหลอด

มาตรการเข้ม

ศาลจำกัดสิทธิ์เข้า–ออก รถคู่ความใช้ประตูด้านหลังเท่านั้น มวลชนรวมตัวได้เฉพาะจุดที่กำหนด พร้อมแผงเหล็กกั้น สื่อมวลชนต้องลงทะเบียนล่วงหน้า

การเดินทางกลับไทย

ทักษิณออกจากดูไบ 7 ก.ย. ถึงสิงคโปร์ 8 ก.ย. ก่อนเครื่องลงที่ Mjets ดอนเมือง เวลา 14.54 น. และถูกนำตัวออกจากสนามบินทันที การเดินทางนี้เกิดขึ้นหลังพลาดลงจอดสิงคโปร์เมื่อ 4 ก.ย.
 

คดีชั้น 14 – พยาน 14 ปาก

คดี บค.1/2568 ศาลไต่สวนตั้งแต่ต้นปี โดยนายวิษณุ เครืองาม เป็นพยานปากสุดท้าย ยืนยันการย้ายตัวไปโรงพยาบาลตำรวจเป็นมาตรการด้านความปลอดภัย ขณะเดียวกัน แพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย แม้รัฐมนตรีสาธารณสุขส่งความเห็นแย้ง

แนวคำวินิจฉัยและฉากทัศน์

นักกฎหมายชี้ศาลอาจตัดสินได้ 4 แนว ตั้งแต่การบังคับโทษถูกต้องจนถึงการส่งตัวกลับเรือนจำ พร้อมเอาผิดเจ้าหน้าที่ หากชี้ว่าปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมาย สำหรับทักษิณเองมี 3 ฉากทัศน์ ได้แก่ รับโทษเต็ม 8 ปี รับโทษ 1 ปีพร้อมสิทธิเข้าระบบพักโทษ หรือตัดสินว่าบังคับโทษชอบแล้ว
 

ความหมายทางการเมือง

คำพิพากษานี้ถูกมองว่าเป็นมากกว่าคดีส่วนบุคคล แต่สะท้อนถึงศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมไทย และแรงสั่นสะเทือนต่อเสถียรภาพการเมือง
 

ข่าวล่าสุด

คลังชง ครม.สัปดาห์หน้า เคาะอัปสกิลร้านค้า คนละครึ่งพลัส 4 แสนราย วงเงิน 800 ล้าน