เปิด 5 มาตรการเด็ด! นายกฯ สั่ง ปั้นไทยเที่ยวได้ทั้งปี ไร้ Low Season

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เร่งเดินหน้า 5 มาตรการสำคัญ

 

ผลักดันการท่องเที่ยวไทยเป็น "วาระแห่งชาติ" มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติ

 

หลังพบนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์หลั่งไหลเข้าไทยมากขึ้น สร้างเม็ดเงินมหาศาล ยืนยันเป้าหมาย "ไทยแลนด์เที่ยวได้ทั้งปี ไม่มีโลว์ซีซั่น"

 

การประชุมติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 มีคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ

 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,

 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

 

 

นายกฯ ชี้ท่องเที่ยวคือกลไกหลัก สร้างรายได้สู่ประเทศ

 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวในฐานะกลไกหลักในการสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

 

โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 157,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่

 

นายกรัฐมนตรีเผยว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมอาจลดลงเล็กน้อยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา

 

แต่กลับพบว่า มูลค่าเม็ดเงินที่เข้าประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่ม "ไฮเอนด์"

 

โดยเฉพาะจากยุโรปและอเมริกา ที่เดินทางเข้าไทยมากขึ้น สะท้อนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวระดับสูงขึ้นในประเทศไทย

 

 

5 มาตรการเด็ด ปั้นไทยเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวระดับโลก

 

เพื่อรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่นี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ และสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคการท่องเที่ยวไทย

 

พร้อมผลักดัน 5 มาตรการสำคัญครอบคลุมทุกมิติ ทั้งความสะดวก ความปลอดภัย และความสะอาด ดังนี้:

 

1. เร่งโปรโมท สร้างภาพลักษณ์เชิงรุก

 

ทุกกระทรวงต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น

 

พร้อมยกระดับโครงการประชาสัมพันธ์ให้วัดผลได้จริง ตรวจสอบและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขข่าวบิดเบือนในทุกช่องทางสื่อสาร ทั้งกระแสหลักและโซเชียลมีเดีย

 

2. ยกระดับความปลอดภัยทุกมิติ

 

ทุกกระทรวงและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องเพิ่มความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ความสะอาด ความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยว และความปลอดภัยในทุกด้าน

 

เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิด, ระบบ AI ในพื้นที่ท่องเที่ยว, กวดขันการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจท้องที่ รวมถึงปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่ผูกขาดบริการท่องเที่ยวให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

 

3. แก้ปัญหาอำนวยความสะดวกครบวงจร

 

ปรับปรุงบริการตรวจคนเข้าเมืองให้รวดเร็ว จัดระเบียบขนส่งสาธารณะในสนามบิน ป้องกันการหลอกลวง และกำหนดค่าบริการให้เป็นไปตามกฎหมาย

 

สร้างพื้นที่สูบบุหรี่ระหว่าง Transit ให้เป็นไปตามหลักสากล พร้อมจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจสำรวจและแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่โดยด่วน

 

4. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ

 

เร่งบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานค่าโดยสารสำหรับสายการบินราคาประหยัดอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมแบบ Mass Transit และเร่งเชื่อมโยง 3 สนามบิน (กระบี่ พังงา ภูเก็ต)

 

5. สร้างกิจกรรมดึงดูดตลอดปี

 

เร่งสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้ประเทศไทยมีกิจกรรมน่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

รวมถึงวางรากฐานการพัฒนาข้อมูลและงานวิจัยพฤติกรรมนักท่องเที่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลวางแผนบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว

 

 

"วาระแห่งชาติ" ดันท่องเที่ยวไทยสู่เป้าหมายยั่งยืน

 

นายจิรายุ กล่าวทิ้งท้ายว่า มาตรการทั้ง 5 ข้อนี้ จะถูกผลักดันเป็น "วาระแห่งชาติ" และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเข้มงวด

 

โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าเที่ยว ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชน

 

พร้อมกำหนดกรอบเวลาการดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ

 

เป้าหมายสำคัญคือการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย ช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป