'ลอย ชุนพงษ์ทอง'นักคณิตศาสตร์ไขปริศนาเลือกสว.ฮั้วจริงได้ยกแก็ง
ลอย ชุนพงษ์ทอง นักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์ชื่อดังไขปริศนาคณิตศาสตร์เลือก สว. ฮั้วจริงหรือแค่บังเอิญ ชี้โอกาสที่ตัวเลขซ้ำกันอย่างแม่นยำอาจเป็นไปไม่ได้ในทางสถิติ พร้อมตั้งคำถามความโปร่งใสกระบวนการคัดเลือก
ยูทูบ Loy Academy เผยแพร่ บทวิเคราะห์เชิงคณิตศาสตร์ ของ ลอย ชุนพงษ์ทอง นักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์ชื่อดัง ต่อกรณีการเลือกสว.ผ่าน5โจทย์ ประกอบด้วย
1.ฮั้วจริงหรือไม่
2.ตั้งเป้ากลุ่มละ 6 คน ทั้ง 20 กลุ่ม มาจากไหน เป็นไปได้อย่างไร
3.แผนงานรอบเช้าให้เข้ารอบกี่คน
4.รอบบ่าย ตั้งเป้าให้มีผู้ชนะกี่คะแนน
5.มีผู้ร่วมขบวนการกี่คน
ลอย ชุนพงษ์ทอง ออกตัวก่อนอธิบายขยายความว่า
ปกติไม่อยากถึงเรื่องการเมือง
ยกเว้นมันเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรมที่มันผิดฝาผิดตัวกันมากมาก
เรื่องการเลือก สว ก็เช่นกันที่เขาว่าฮั้ว มีหลักฐานทางคณิตศาสตร์หรือเปล่า
แล้วก็มีการเรียกร้องกันในสื่อว่าอยากให้นักคณิตศาสตร์ออกมาพิสูจน์
ก็รอเผื่อมีคนออกมาพิสูจน์ จะได้ไม่ต้องทําคลิป
แต่ปรากฏว่าก็ไม่มีใครทําในเชิงคณิตศาสตร์ออกมาจริงจริง
ต่อไปนี้เป็นการแสดงความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อประโยชน์แก่สาธารณะ
การพิสูจน์เชิงคณิตศาสตร์ตามโจทย์5ข้อ กล่าวถึงการเลือกสว.ในระดับประเทศ
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ที่อาคาร 4 ศูนย์การประชุม อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี
จาก 150 คน ในภาคเช้าเป็นการเลือกกันเอง
คัดเหลือ 40 คน ให้ “กระสุน” คนละ 10 นัด สามารถ “เลือก-ไม่เลือก” ตัวเองก็ได้
ส่วน “ตอนบ่าย” หลังจากได้ 40 คนแล้ว คัดเหลือ 10 คน เป็น “ส.ว.ตัวจริง”
ครั้งนี้ให้กระสุน 20 นัด “ไม่มีสิทธิ” เลือกตัวเองอยู่แล้ว
ต้องเลือกคนในกลุ่มอื่นในสายเดียวกัน ซึ่งมี 4 สาย สายละ 5 กลุ่ม
โดยคนในกลุ่มของเขาจะมีกลุ่มอื่น 4 กลุ่มให้เลือก
คิดง่ายๆ หากเทียบกับ “หวยล็อก” การซื้อหวยเพียง 1 ใบ แล้วถูกรางวัลที่ 1
จะบอกว่า “ล็อกหวย” ได้หรือไม่ คงไม่ได้แต่ถ้างวดต่อมาซื้อหวยอีกใบ
แล้วถูกรางวัลอีก พองวดต่อไปซื้อหวยใบเดียว ก็ยังถูกรางวัลที่ 1 อีก
ทว่า การถูกรางวัล 3 งวดติดกันแบบนี้เรียกว่า “หวยล็อก” หรือไม่
โอกาสแบบนี้เป็น 1 ในล้านล้านล้าน แต่ทั้งนี้ ก็ยังง่ายกว่าคน 2 คน เขียน 10 หมายเลขเหมือนกัน
นั่นคือ การเลือก ส.ว.รอบแรก ในรอบเช้า ‘บังเอิญ’ เขียนเหมือนกัน 10 ใบ เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ฮั้ว
เมื่อพิจารณาจากกระดาษ 2 ใบ เขียนหมายเลขเหมือนกัน แถมยังเรียงเหมือนกัน
โอกาสที่คนที่ 2 จะเขียนลำดับ 1 เหมือนคนแรก จากผู้สมัคร 154 คน
เท่ากับว่า มีโอกาสของ 1 ใน 154 ลำดับที่ 2 ก็เหลือ 153 ตัวเลือก ลำดับ 3 ก็เหลือ 152 ตัวเลือก
เมื่อนำลำดับมาคูณกัน (154x153x152x….จนถึง 145) ทางคณิตศาสตร์เรียกว่า Permutation (154,10)
จะได้ตัวเลขประมาณ 5566,857732,14716?,????? หรือ 5567 ล้านล้านล้าน
เคยมีคนคำนวณ “เม็ดทรายบนดาวโลก” ว่าประมาณ 4.5 ล้านล้านล้าน ยัง “น้อยกว่า” ตัวเลข (5567 ล้านล้านล้าน)
ดังนั้น ต้องเอาเม็ดทรายบนดาวโลก 742 ดวง จึงจะได้จำนวน 5567 ล้านล้านล้าน คิดว่าจะเป็นเรื่อง “บังเอิญ” หรือไม่
โพยฮั้วที่ปรากฏในสื่อไม่ได้มีแค่ 2 ใบ แต่กลับเหมือนกันถึง 10 ใบ
โอกาสที่ใบที่ 3-10 จะเหมือนใบแรกก็คือ 5567 ล้านล้านล้าน x 9
จะเท่ากับ 5.13441658626604 x 10 ยกกำลัง 195 หรือเป็น 196 หลัก
เมื่อเทียบกับจำนวน atoms ในจักรวาล ที่มีอยู่มหาศาล
นักฟิสิกส์พอประมาณได้ว่า 10 ยกกำลัง 82 (ไม่เกิน)
แต่เรากำลังพูดถึง x 10 ยกกำลัง 195 ยิ่งกว่าจำนวน atoms ในจักรวาลเสียอีก
ดังนั้น การเขียนเหมือนกันทั้ง 10 ใบจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ฮั้ว หรือไม่บอกกันมา
ข้อมูลตารางที่เผยแพร่จากไอลอว์ ปรากฏคะแนนจากผู้สมัคร ส.ว. 20 กลุ่ม
ปกติแต่ละกลุ่มมีผู้เข้าแข่งขันจังหวัดละ 2 คน จาก 77 จังหวัด (77×2 = 154 คน)
ยกเว้นบางจังหวัดที่มีการสละสิทธิ หรือส่งไม่ครบ
โดยกลุ่มที่น้อยสุดคือ “กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม” จำนวนผู้เข้าชิง 129 คน
จากตารางพบว่า คอลัมน์ถัดไปเป็นคะแนนรอบบ่าย
สังเกตคะแนนผู้ได้ลำดับ 1-6 มีคะแนน “มากเป็นพิเศษ” ต่างจากคนได้คะแนนในลำดับที่ 7-10
เมื่อนำคะแนนมาพล็อตจุดให้ดูทั้ง 20 กลุ่ม จะเห็นชัดเจนว่า คะแนนต่างกันมาก
ในทางสถิติมีการกระจายความน่าจะเป็น ถ้ามีการโหวต “ปกติ” ไม่ฮั้ว
จุดที่เห็นจะเกาะเส้นสีแดง ไม่กระโดด หรือต่ำกว่ากราฟแบบนี้
กราฟนี้แกน X คือลำดับที่สอบได้ สอบได้ที่ 1 มี 20 จุด
สอบได้ที่ 2 มี 20 จุด
สอบได้ที่ 3 ก็มี 20 จุด
สังเกตว่าคนที่สอบได้ที่ 1-6 “เหนือชั้น”แต่ 7-10 “ต่ำชั้น” ชัดเจน
เข้าใจทฤษฎี"ยั้งมือ"หากคะแนนไม่ได้มาตามธรรมชาติจริง
ประการต่อมา อ.ลอย ชี้ว่าการเลือกในรอบบ่ายสำคัญยิ่ง
เพราะต้องวางแผนจากภาพรวม
เมื่อดูคะแนนของ"กลุ่มสีน้ำเงิน" ที่ได้ แล้วนำมาเฉลี่ย พบว่า
ได้ 60 เกือบเป๊ะ สะท้อนว่า วางแผนไว้ที่ 60 คะแนน
ซึ่งเป็น 60 คะแนน ที่มาจาก 4 กลุ่ม
ฉะนั้น ให้นำ 60 หาร 4 จะได้ 15 แสดงว่า “รอบบ่าย”
ต้องมีในกำมือทุกกลุ่ม กลุ่มละ 15 คน
จากทั้งหมด 40 คนที่เข้ารอบในรอบบ่าย
การคำนวณดังกล่าวเป็นการคำนวณ “ขั้นต่ำ” ที่ 15 คน
ฉะนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่ากลุ่มนี้เข้ามารอบบ่าย
“มากกว่ากลุ่มละ 15 คน” อาจเป็น 22 ก็ได้
แต่เพราะ “ยั้งมือ” ไว้นั่นเอง จึงใช้แค่ 15 คน ที่เหลืออีก 7 คน
อาจทำเหมือนเป็นผู้สมัคร ส.ว.อิสระ
เป็นไปได้มากที่สุด หากใช้ตัวแทนจังหวัด 1,200 คน
เมื่อทำตารางเดียวกัน แต่เป็น “รอบเช้า”
แต่ละแถวแทนคะแนนของผู้ได้รับเลือกทั้ง 40 คน
ตั้งแต่คนที่ 1-40 ทำแบบนี้ทุกกลุ่ม
เมื่อประเมิน “ขั้นต่ำ” ตั้งใจส่งแต่ละกลุ่มไป 15 คน
ต้องคำนวณค่าเฉลี่ยของคะแนนจากคะแนนของอันดับ 1-15
ซึ่งเท่ากับ 29 ทำให้คะแนนรวมของทีมคือ 432 (15×29 = 432)
อย่าลืมว่า 1 คน มี 10 คะแนน
ดังนั้น จึงต้องใช้ 43 คนต่อ 1 กลุ่ม เมื่อรวม 20 กลุ่ม ต้องใช้ 864 คน
หากเป็นกุนซือคงไม่เตรียมแค่ 15 คน แต่จะเตรียม 22 คน
เพราะรอบแรกเลือกกันเอง มีแนวโน้มทรยศสูง
ใครๆ ก็อยากเลือกตัวเอง ไม่เลือกเพื่อน
ฉะนั้น หากจะส่งรอบบ่ายกลุ่มละ 22 คน
คะแนนเฉลี่ยคือ 27
เมื่อรวมคะแนนของทีม 22×27 = 583 คะแนน/กลุ่ม
เมื่อ 1 คน มี 10 คะแนน จึงใช้ 58 คนต่อ 1 กลุ่ม
เมื่อมี 20 กลุ่ม ต้องคูณ 20 ทำให้ต้องมีขั้นต่ำ 1,167 คนในกระบวนการ
หรือตีกลมๆ คือ 1,200 ในความเห็นส่วนตัวมองว่า ตัวเลข 1,200 จะเป็นไปได้มากกว่า
ขอบคุณเครดิตภาพข้อมูลจาก Loy Academy


