จำนวนนายพล คือ "ความลับ" ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง จริงหรือ?

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โพสต์ข้อความตั้งคำถาม "จำนวนนายพล คือ ความลับ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง จริงหรือ?" โดยระบุว่า จากหนังสือตอบกลับจากกรมเสมียนตรา ที่ กห 0201/254 ลงวันที่ 8 ก.พ.2568 ที่ระบุว่าไม่สามารถให้รายละเอียดในเรื่องจำนวนนายพล ทั้งในเรื่องของอัตรากำลังพลของนายทหารระดับนายพลได้ เนื่องจากเป็นชั้นข้อมูล "ลับมาก" และเป็นข้อมูลที่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ

ซึ่งผมคิดว่า ไม่ได้เป็นข้อมูลอะไรที่ลับมากขนาดนั้น เพราะจากข้อมูลที่คุณสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม เคยแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวาระงบประมาณ 2568 วาระที่ 1 ก็เป็นที่ทราบดีว่า ปัจจุบันจำนวนานายพล น่าจะมีอยู่ราว 1,398 นาย อยู่ในตำแหน่งหลัก 965 นาย และอยู่ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ 433 นาย (ข้อมูล ณ วันที่ 4 เม.ย.67)

ผมทราบดีว่า การลดจำนวนนายพล จะลดลงโดยทันทีไม่ได้ เพราะนายทหารชั้นนายพลเหล่านี้ เกิดจากนโยบายในการผลิตทหารในอดีตเมื่อ 30-40 ปีก่อน ตามการประเมินภัยคุกคาม และบริบทของความมั่นคงประเทศในห้วงเวลานั้น และพวกเขาก็ได้เติบโตในหน้าที่การงาน ตามตามอายุราชการ และควรได้รับการดูแลจากรัฐเป็นอย่างดี ตรงนี้ผมเข้าใจดีครับ

แต่การติดตามข้อมูลอัตรากำลังพลของนายทหารชั้นนายพล ในสังกัดกรมกองต่างๆ  จะทำให้ กมธ.ทหาร ในฐานะที่เป็นผู้แทนของราษฎร สามารถพิจารณาได้ว่า
 

1. มาตรการ Early Retirement ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ นั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ อย่างไร แรงจูงใจในการเข้าร่วมมาตรการ Early Retirement นั้นมีอะไรที่ต้องปรับปรุงบ้าง
 

2. หลังจากที่มีการทำ Early Retirement แล้ว ทางกระทรวงกลาโหมมีการปิดอัตรานายพลลง หรือไม่ อย่างไร เพราะหากไม่มีการปิดอัตรา ในอนาคตก็อาจจะมีการแต่งตั้งนายพลขึ้นมาแทนในอัตราที่ว่างลงได้ และจะทำให้ปัญหาจำนวนนายพลวนเวียน แก้ไม่จบ

3. สำหรับจำนวนนายพลที่แยกตามกรมกองต่างๆ กมธ.ทหาร จะได้นำมาพิจารณาว่า การจัดอัตรากำลังนายพล ในแต่ละกรมกอง มากน้อยต่างกันอย่างไร เป็นเหตุเป็นผลต่อภารกิจในบริบทความมั่นคงในโลกยุคปัจจุบัน หรือไม่ ควรจะมีการควบรวมหน่วยงานภายในกระทรวงกลาโหม ตรงส่วนไหน อย่างไร เพื่อให้สอดรับกับภัยคุกคามที่ประเทศกำลังประสบอยู่ และอาจจะต้องเตรียมรับมือสำหรับอนาคต

ผมคิดว่า ใน 3 วัตถุประสงค์ข้างต้น การที่ กมธ.ทหาร จะได้ร่วมรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับอัตราจำนวนนายพลของกระทรวงกลาโหม กลับเป็นผลดีต่อการพัฒนาความมั่นคงของประเทศด้วยซ้ำไป 

และยังเป็นการทานซ้ำอีกด้วยว่า แผนการลดอัตราจำนวนนายพลของกระทรวงกลาโหมที่จะมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ในปี พ.ศ.2570-71 นั้นมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายมากน้อยเพียงใด และในระหว่างนี้ควรมีการปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มเติมมาตรการอะไรเข้าไปบ้าง เพื่อให้กองทัพมีความกะทัดรัด มีการลงทุนในเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่มีประสิทธิภาพต่อการตอบสนองต่อภัยความมั่นคงที่ประเทศกำลังประสบอยู่ พร้อมกับดูแลขวัญ และกำลังใจ ตลอดจนสวัสดิการของกำลังพลอย่างเหมาะสม

ถ้าในประเด็นความมั่นคงของประเทศ ผมยืนยันว่ายังไงก็ไม่ลับหรอกครับ แต่ถ้าเป็นความมั่นคงของกระเป๋าของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผมก็คิดว่าเป็นไปได้ แถม "ลับมาก" เสียด้วย