เปิดเหตุผล ราชทัณฑ์ พักโทษ "เสี่ยเปี๋ยง" พ้นคุก

ภายหลังนายบุญทรง ตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ได้รับการปล่อยตัวพักโทษ หลังถูกตัดสินจำคุก 36 ปี ในคดีจำนำข้าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้คดีดังกล่าวกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง และนอกจาก นายบุญทรงจะได้รับการพักโทษแล้ว ยังมีอีก 1 คนที่ประชาชนให้ความสนใจ คือ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ซึ่งได้รับการปล่อยตัวพักโทษเช่นกัน

 

 

สำหรับเหตุผล ที่นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยงได้รับการพักโทษ ได้รับการอธิบายจาก นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า เสี่ยเปี๋ยง ได้รับการพักโทษในกรณีพิเศษ ตามเกณฑ์การพิจารณาคือ อายุ 70 ปี หรือเจ็บป่วยร้ายแรง กรณีใดกรณีหนึ่ง

 

 

ทั้งนี้ การพิจารณาพักโทษนั้น ในแต่ละเดือนคณะกรรมการของทุกเรือนจำจะเสนอเรื่องการพักโทษไปยังคณะอนุกรรมการในการพักโทษอยู่แล้ว ในรอบของเสี่ยเปี๋ยง มีการเสนอพักโทษกรณีพิเศษ 3 ราย

 

แต่ได้รับการพิจารณาพักโทษเพียง 2 ราย คือ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย  และเสี่ยเปี๋ยงที่ป่วยไตวายเรื้อรัง ส่วนอีกรายที่มีอาการตาบอดไม่ได้รับการพักโทษเนื่องจากอนุกรรมการมองว่ามีโทษเกี่ยวกับการกระทำความผิดศีลธรรมร้ายแรง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ากระบวนการพิจารณาพักโทษผู้ต้องขังเป็นอิสระซึ่งกันและกันตามกฎหมายที่ไม่มีใครแทรกแซงได้  

 

 

 

ในปี 2566 มีนักโทษที่ได้รับการพักโทษจากการฟอกไต 15 คน ขณะนี้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังมีผู้คุมขังที่ต้องฟอกไตจำนวน 120 ราย แต่เนื่องจากยังรับโทษไม่ถึง 1 ใน 3 จึงยังไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากรับโทษครบตามเกณฑ์แล้วก็จะมีการยื่นเรื่องให้คณะอนุกรรมการการพักโทษพิจารณาทุกรายเช่นกัน 

 

"การที่ผู้ต้องหาในคดีรับจำนำข้าวได้รับการปล่อยตัวในช่วงของรัฐบาลนี้นั้น เป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่เข้าเงื่อนไขการพักโทษ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลชุดปัจจุบันแต่อย่างใด "นาย สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ กล่าว

 

 

ส่วนกรณี เสี่ยเปี๋ยง ยังมีคดีบ้านเอื้ออาทรที่ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ จะมีโทษจำคุกมากกว่า 48 ปีหรือไม่ นายสมบูรณ์ ศิลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม  ชี้แจงว่าคดีเสี่ยเปี๋ยง มีทั้งหมด 4 คดี จะได้รับการอภัยโทษถึง 5 ครั้งทำให้พ้นโทษไป เหลือเพียงคดีสุดท้ายคือ บ้านเอื้ออาทร ที่อยู่ระหว่างพักโทษในขณะนี้ ปัจจุบันเหลือโทษจำคุก 21 ปี 21 เดือนเศษ

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีนักโทษในคดีจำนำข้าวที่อยู่ระหว่างคุมขังอีก 2 ราย ที่ยังไม่ได้รับการพักโทษ หนึ่งในนั้น คือ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์การพักโทษ 

 

 

ส่วนนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ถูกตัดสินจำคุก 8 ปี ได้รับการพักโทษปกติไปแล้วตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. 67 และปล่อยตัวช่วงเดือน ก.ย. 67 ที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าเกณฑ์นักโทษชั้นเยี่ยมที่รับโทษไปแล้ว 2 ใน 3 (จำคุกไปแล้วกว่า 6 ปี) 

 

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ถูกตัดสินจำคุก 48 ปี ได้รับการปล่อยตัวพักโทษเช่นกัน โดยให้คุมประพฤติที่ จ.เชียงใหม่ โดยติดกำไล EM อีก3 ปี 5 เดือน และมีกำหนดพ้นโทษ ในวันที่ 21 เมษายน 2571

  

สำหรับที่มาของ คดีจำนำข้าว มีชื่อมาจาก โครงการจำนำข้าวเดิมเป็นโครงการที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือชาวนา ในสมัยรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ แต่ภายหลังกลับกลายเป็นโครงการที่มีการใช้งบประมาณมหาศาล จนเกิดการฉ้อราษฎ์บังหลวง ทำให้ภายหลังจากโครงการจำนำข้าว กลายเป็นคดีจำนำข้าว และนำไปสู่การพิพากษาลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งข้าราชและพลเรือให้จำคุกและชดใช้ค่าเสียหาย 21 ราย รวมนิติบุคคล คือ

 

 

1.นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ จำเลยที่ 1 จำคุก 36 ปี ไม่รอลงอาญา

 

2.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 2  จำคุก 48 ปี ไม่รอลงอาญา

 

3.พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง วัจนะพุกกะ อดีตผู้ช่วยเลขานุการและอดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 (อยู่ระหว่างหลบ)

 

4.นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 4  จำคุก 40 ปี

 

 

5.นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และอดีต รองอธ.กรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 5 จำคุก 32 ปี 

 

6.นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศและอดีตผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ จำเลยที่ 6 จำคุก 24 ปี

 

7.นายสมคิด เอื้อนสุภา จำเลยที่ 7 จำคุก  12 ปี

 

8.นายรัฐนิธ โสจิระกุล จำเลยที่ 8 จำคุก 8 ปี 

 

9.นายลิตร พอใจ จำเลยที่ 9 จำคุก 4 ปี

 

10.บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จำเลยที่ 10 ศาลสั่งให้ปรับ 1 ล้านบาท

 

11.น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง จำเลยที่ 11 จำคุก 16 ปี

 

12.น.ส.เรืองวัน เลิศศลารักษ์ จำเลยที่ 12 จำคุก 16 ปี

 

13.น.ส.สุทธิดาหรือสุธิดา ผลดีหรือจันทะเอ จำเลยที่ 13 จำคุก 4 ปี 

 

14.นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 14 จำคุก 48 ปี 

 

15.นายนิมล รักดี หรือโจ จำเลยที่ 15  จำคุก 32 ปี

 

16.นายสุธี เชื่อมไธสง  จำเลยที่ 16 จำคุก 32 ปี (อยู่ระหว่างหลบหนี)

 

17.นางสุนีย์ จันทร์สกุลพร จำเลยที่ 17 จำคุก 4 ปี 

 

18.นายกฤษณะ สุระมนต์ จำเลยที่ 18 จำคุก 4 ปี

 

19.นายสมยศ คุณจักร จำเลยที่ 19  

 

20.บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดหรือบริษัท สิราลัย จำกัด จำเลยที่ 20 ศาลสั่งจ่ายค่าปรับ 2.5 หมื่นบาท และร่วมกับจำเลยที่ 21 ชดใช้ เงิน 1,294,109,764.80 บาท

 

21.น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร จำเลยที่ 21 จำคุก 4 ปี และให้ปรับ 40,000 บาท