อภิสิทธิ์มองการเมืองมีทางออก ขอทุกฝ่ายทบทวนลดความขัดแย้ง

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวี กรณีที่นายกเศรษฐาไม่ได้ไปต่อ ระบุเป็นเรื่องของเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเลือกบุคคลในบัญชีขึ้นมา ซึ่งน่าจะเป็นรัฐบาลผสมชุดเดิม เพียงแต่ต้องตกลงกันว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีจากบัญชี  

ส่วนเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ตนเห็นว่าการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพื่อเติมกําลังซื้อ เป็นสิ่งที่น่าทํา แต่โครงการนี้ยังไม่ได้ตอบโจทย์แบบตรงๆ ซึ่งน่าเสียดายว่าอาจจะไปใช้เรื่องอื่นได้แล้วก็เกิดประโยชน์มากกว่า

ทั้งนี้ ตนมองว่า การเมืองไทยยังติดกับดักเดิมอยู่คือการแบ่งขั้ว ยังมีปัญหาของการอยู่ร่วมกันในเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมืองหรือผลประโยชน์อื่นๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทําให้การเมืองเข้าไปแก้ปัญหาขั้นพื้นฐานของประเทศได้

การจะออกจากกับดักนี้ ส่วนหนึ่งต้องมีวิวัฒนาการผ่านกระบวนการของการเลือกตั้ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ พรรคการเมืองต้องหันมาสนใจปัญหาในเชิงอุดมการณ์ความคิด ไม่จําเป็นต้องเห็นตรงกัน แต่มีทางเลือกที่เป็นการแข่งขันกันในเชิงของนโยบายและทิศทางของประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่
 

ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องการยุบพรรค ถ้าพรรคการเมืองทําผิด ก็ควรจะลงโทษคณะกรรมการบริหาร

ปัญหาของคําวินิจฉัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดขึ้นจากการผูกมัดโดยคําวินิจฉัยในคดีก่อนหน้านั้น ซึ่งตนเห็นต่าง เพราะยังไม่ได้ถึงขั้นที่จะบอกว่าเป็นการกระทําที่สําเร็จแล้ว ถ้าศาลจะมีแนววินิจฉัยทํานองว่าให้ระงับไม่ให้มีการดําเนินการในลักษณะดังกล่าวต่อไป ก็อาจจะอยู่ในจุดที่เหมาะสมและสมดุลกว่า

การยุบพรรคการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากปัญหาหลักของการเมืองไทย คือเรายังหาความสมดุลไม่ได้ระหว่างการใช้กลไกทางกฎหมายกับกลไกทางการเมือง ในการคลี่คลายประเด็นที่เป็นข้อโต้แย้ง   ซึ่งในประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภาอื่นๆ เรื่องทำนองนี้อาจจะนําไปสู่การแสดงความรับผิดชอบการลาออกโดยไม่ต้องมีกฎหมายเลย

"ขอฝากไปถึงคนรุ่นใหม่ที่บางกลุ่ม อาจจะกําลังหัวเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการเมืองไทย  อยากจะย้ำว่า ลองเอาเหตุการณ์ต่างๆ มาทบทวน ว่ามันปัญหามันอยู่ตรงไหน แล้วพยายาม อย่าชี้นิ้วไปอีกข้างหนึ่ง แต่มาดูว่ามีอะไรบ้างที่จะสามารถทําให้การเมืองไทยและสังคมไทย มันเดินไปสู่จุดที่มีความสมดุลมากกว่านี้ โดยไม่แบ่งแยกกันแบบนี้" นายอภิสิทธิ์กล่าว