posttoday

“เศรษฐา” ลงพื้นที่ตรวจหมอชิต 2 ช่วงเทศกาลสงกรานต์

10 เมษายน 2567

นายกฯ ลงพื้นที่หมอชิต 2 ตรวจความพร้อมรองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้คะแนนการพัฒนา 8 เต็ม 10 ด้าน รมช.คมนาคม ยันสงกรานต์ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง รถเพียงพอ ไม่มีปัญหาตั๋วแพง

เมื่อเวลา 14.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อม รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2
 
โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ 

และมี นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) อธิบายถึงการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ และระบบต่างๆ กับสถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงสงกรานต์ ปี 2567 

ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ดูเรื่องสุขภาพของคนขับรถและตรวจเข้มเรื่องของสารเสพติด ซึ่งในส่วนของหมอชิต 2 คาดว่าจะมีคนเดินทางเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ 700,000 -800,000 คน โดยในวันที่ 6 เม.ย.2567 คนใช้บริการเดินทางไปแล้วแสนคน 

จากนั้นได้พาเดินไปดูจุดต่างๆ ที่มีการปรับปรุงและพัฒนาแล้ว ภายในสถานีขนส่งฯ ทั้งห้องน้ำ และที่นั่งที่เพิ่มขึ้น รวมถึงชานชราผู้โดยสารขาออกที่มีการปรับปรุงใหม่ และได้สั่งการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. ขอให้มีการเพิ่มจอ LED เพื่อให้เช่าฉายโฆษณาเก็บรายได้เพิ่ม และประชาชนก็จะได้นั่งดูเพลินๆ ระหว่างรอขึ้นรถ 
 
โดยนายอรรถวิท ได้อธิบายถึงการปรับปรุงชานชาลา 1-2 เพื่อเพิ่มที่นั่งพักคอยสำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทาง เพื่อให้เพียงพอ โดยได้นำตู้ขายสินค้าออกเหลือเพียง 2 ตู้

จากนั้นพาเดินมาดูจุดให้บริการแท็กซี่ และจุดให้บริการรถเมล์ ซึ่งปกติแล้วไม่ได้อนุญาตให้รถเมล์เข้ามาภายใน บขส.

ซึ่งตลอดที่นายกรัฐมนตรีเดินตรวจความเรียบร้อย ก็มีประชาชน ถ่ายภาพ ถ่ายคลิปตลอดช่วงที่เดินผ่าน 

“เศรษฐา” ลงพื้นที่ตรวจหมอชิต 2 ช่วงเทศกาลสงกรานต์

ภายหลังนายกรัฐมนตรี เดินตรวจความเรียบร้อยและพบปะทักทายประชาชนที่รอเดินทางกลับบ้านเสร็จสิ้น ได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ระบุว่า หลังจากรัฐมนตรีคมนาคมเข้ามารับตำแหน่ง 7 เดือนที่ผ่านมา ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว เพราะรัฐมนตรีมีความตั้งใจจริงที่จะทำให้ บขส. มีความสะดวกสบาย สะอาด และการบริการทั้งเรื่องการจองออนไลน์ ราคา จากการสอบถามผู้โดยสาร 3-4 ราย ก็แฮปปี้ดี และจากการเข้าไปตรวจศูนย์อาหาร ก็ใช้ได้ ราคาเหมาะสม 

นักข่าวถามว่า ถ้าคะแนนเต็ม 10 นายกรัฐมนตรีจะให้คะแนนหมอชิต 2 เท่านั้น นายกรัฐมนตรีตอบว่า อย่างน้อยก็มี 8 แต่คงต้องไปถามผู้ใช้บริการมากกว่า เพราะการที่เรามาแบบนี้ก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ต้องมีการทำให้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งจริงๆ ต้องไปแบบเมื่อคืนที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบจะดีกว่า ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า ไม่ว่าตนเองจะมาหรือไม่มา คุณภาพการให้บริการ ความสะอาดก็จะเป็นแบบนี้ตลอด

นายกรัฐมนตรี ยังบอกสิ่งที่ต้องการให้ บขส. ทำเพิ่มเติมว่า เรื่องของการหารายได้พิเศษ เช่น ป้ายโฆษณาต่างๆ เดือนละ 3 ล้านบาท ที่มาจากค่าเช่าพื้นที่ และปัจจุบันระหว่างคอยผู้โดยสารกลับมา ช่วงก่อนโควิดมีกำไรอยู่ แต่ตอนนี้อาจจะขาดทุนนิดหน่อย ตนเองจึงได้บอกให้หารายได้เสริมจากการติดป้ายโฆษณามากยิ่งขึ้น ป้ายอิเล็กทรอนิกส์ บิลบอร์ดต่างๆ

ซึ่งรัฐมนตรีก็ตอบรับ ยืนยันว่า อีก 3-4 เดือน มีแน่นอน จะนำรายได้เข้ามาสู่ บขส.มากยิ่งขึ้น โดยหลังจากนี่ตนเองก็มาจะตรวจเป็นวงรอบ และจะไปตรวจเหมือนที่สุวรรณภูมิ แต่จะไม่บอกล่วงหน้าจะได้ไม่มีสื่อมวลชนตาม เพราะวันนี้มามองไม่เห็นอะไรเลย 

“ถ้าบอกเดี๋ยวท่านรองฯ จัดฉากมารับผม แต่อย่างน้อยจัดฉาก ถือเป็นการจัดฉากได้ดีมาก ก็หวังว่าจริงๆ แล้วท่านรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าถึงแม้ไม่ได้จัดฉากทุกวันก็ดีอย่างงี้ ก็ดีครับ คำพูดเป็นนาย”

ส่วนที่ฝ่ายค้านติงหรือให้ข้อเสนอแนะก่อนหน้านี้ เป็นอย่างไรนั้น ตนเองไม่ได้ฟังว่าพูดอะไร แต่ดูจากวันนี้ก็ดีมากแล้ว มีพัดลมก็ดีหมด มีการพัฒนาเพิ่มที่นั่งจากเดิมที่มีน้อย พื้นที่ขายของที่มีเยอะก็จับควบรวมแค่ 2 พื้นที่ ทำให้ประชาชนมีที่นั่งเยอะขึ้น และเสาต่างๆ ที่ไม่มีทีวี แต่ทีป้ายโฆษณาดูเพลินตา ก็ยังต้องพัฒนาต่อไป 

ด้านนายสุรพงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า ได้กำชับเรื่องการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยวันนี้มีประชาชนเดินทางมาเกือบ 100,000 คน แต่ยังสามารถรองรับประชาชนได้อีก จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างอย่างแน่นอน พร้อมย้ำไม่มีเรื่องปัญหาตั๋วแพง แท็กซี่เถื่อน รวมทั้งยังมีการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะที่ไร้รอยต่อ 

ทั้งนี้ ความสำเร็จ เกิดจากการรณรงค์ กรณีการขายตั๋วล่วงหน้า ทำให้ทราบความต้องการ และบริหารจัดการรถได้อย่างเพียงพอ

ส่วนประชาชนที่ขับรถส่วนบุคคลมาเอง ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตามจุดต่างๆ รวมถึงมีการคืนพื้นผิวจราจร ลดปัญหาจราจรติดขัด ซึ่งได้เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมีการจัดจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์สำหรับ พนักงานขับรถ พร้อมขอให้ประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย มีรอยยิ้มจากความพึงพอใจ และกลับมาด้วยความสุขแห่งรอยยิ้ม