posttoday

ผ่าโครงสร้างแบ่งส่วนราชการใหม่ตร.นายกฯมีอำนาจเต็มตามกม.ใหม่

22 มีนาคม 2567

พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการฯสตช.มีผลใช้บังคับตามกฎหมายแล้ว หลังมีประกาศในราชกิจจานุกเบกษา สำนักงานผบ.ตร.มี8กองบัญชาการ และ14ส่วนราชการอื่นมีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ พร้อมกำหนดอำนาจหน้าที่ชัดเจน โดยนายกฯมีอำนาจเต็มรักษาการตามกม.นี้

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พ.ศ.2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบันโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการและมีอำนาจรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาฯนี้ (คลิ๊กอ่าน)

พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติฯมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22มีนาคม2567 เป็นต้นไป โดยสาระสำคัญคือให้แบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และกำหนดอำนาจหน้าที่รับผิดชอบมีความยาวรวม18หน้ากระดาษ ดังนี้ 
 

ก. สํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ แบ่งเป็นส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ ประกอบด้วย

1.สํานักงานยุทธศาสตร์ตํารวจ

2.สํานักงานส่งกําลังบํารุง

3.สํานักงานกําลังพล

4.สํานักงานงบประมาณและการเงิน

5.สํานักงานกฎหมายและคดี

6.สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ

7.สํานักงานจเรตํารวจ

8.สํานักงานตรวจสอบภายใน


ข. ให้จัดตั้ง"กองบัญชาการ"หรือ"ส่วนราชการ"ที่มี"ฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ"ดังต่อไปนี้

9.กองบัญชาการตํารวจนครบาล

10.ตํารวจภูธรภาค 1-9

11.กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง

12.กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว

13. กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

14.กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด

15. กองบัญชาการตํารวจสันติบาล

16. สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง

17.กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน

18. สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ

19.สํานักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

20. กองบัญชาการศึกษา

21.โรงเรียนนายร้อยตํารวจ

22.โรงพยาบาลตํารวจ

ในท้ายของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ยังระบุเหตุผลของการตราพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวคือ โดยที่มาตรา ๑๑ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กำหนดให้การแบ่งส่วนราชการของสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกองบัญชาการหรือการจัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาโดยกำหนดหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการดังกล่าวให้ชัดเจน 

ประกอบกับมาตรา 12 (1) กำหนดให้การแบ่งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างน้อยต้องมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาคซึ่งเป็นส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ โดยต้องกำหนดเขตพื้นที่ให้ชัดเจนจึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้