posttoday

‘โย พงศธร’ มั่นใจ ชนะเลือกตั้งซ่อมเขต 3 ระยอง

13 สิงหาคม 2566

‘โย พงศธร’ มั่นใจ ชนะเลือกตั้งซ่อม สส.เขต3 ระยอง ยันไม่มีปัจจัยอะไรทำให้แพ้ พร้อมทำหน้าที่แม้ “ก้าวไกล” ไม่ได้เป็นรัฐบาล

 โย พงศธร ศรเพชรนรินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 จ.ระยอง กล่าวถึงการเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ว่า  ตนทำงานมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งมีการสร้างทีมเครือข่ายจังหวัดระยอง ช่วยเหลือทุกจังหวัดในภาคตะวันออก โดยการทำงานเบื้องหลัง ช่วยคิดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และช่วยผู้สมัครสส.เขตวางแผนมาโดยตลอด และการเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้ลงสมัครสส.บัญชีรายชื่ออันดับที่ 52

ตอนนี้ตนพร้อมมาก เพราะรู้จักพื้นที่อยู่แล้ว ตอนนี้ที่ นายนครชัย ขุนณรงค์ อดีตสส.เขตนี้ลงสมัคร ตนก็ช่วยดูยุทธศาสตร์ รู้ดีว่าพื้นที่ไหนเป็นอย่างไร รู้ว่าคะแนนพื้นที่ไหนดี และไม่ดีบ้าง ทำให้รอบนี้เห็นโอกาสค่อนข้างเยอะจากกระแสของการลงพื้นที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คนให้กำลังใจจำนวนมาก เพื่อให้กลับมารักษาตำแหน่ง สส.ของพรรคก้าวไกล และมองว่าไม่ใช่แค่เรื่องตำแหน่ง สส.เท่านั้น แต่ตนยังเห็นถึงความหวัง ความฝันของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอแกลงและเขาชะเมา ที่อยากเห็นการเมืองแบบพรรคก้าวไกล อย่างตรงไปตรงมา รักษาคำพูด

 

เมื่อถามว่าอะไรเป็นจุดเด่นที่จะทำให้ประชาชนเลือกนั้น นายพงศธร กล่าวว่า ตนทำงานในพื้นที่มาก่อน และรู้จักทุกเขตทุกพื้นที่ในจังหวัดระยอง และตนมีความสัมพันธ์กับอำเภอเขาชะเมาตั้งแต่เมื่อ 22 ปีก่อน ตอนที่มีกรณีโรงโม่หิน ซึ่งตอนนั้นมีการระเบิดเขาและมีชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิต  ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้ตนรู้สึกว่าบ้านเมืองบิดเบี้ยว ดังนั้นตนจึงทำงานการเมืองตั้งแต่เป็นนักศึกษา และต่อต้านรัฐประหารตั้งแต่เมื่อปี 2549

จนมาทำงานการเมืองตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ลงทุกพื้นที่ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกือบทุกเรื่อง ทั้งเรื่องน้ำท่วม สถานที่ท่องเที่ยวและประมง ซึ่งทุกๆเรื่องตนอยู่เบื้องหลังการทำงานมาโดยตลอด ดังนั้นจึงเป็นคนที่รู้ดีมากที่สุดของพรรค และสามารถทำงานได้ต่อเนื่องทันที โดยจะยังมี นายนครชัย หรือไอซ์ ช่วยงานอยู่ รวมถึง ทีม สส.ทีมเดิม

ทั้งนี้ ตนมั่นใจมากที่ชนะการเลือกตั้ง  ไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้แพ้ 

เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมจะสะท้อนภาพการเมืองใหญ่ได้หรือไม่ นายพงศธร กล่าวว่า แน่นอนเพราะอยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล และจากการที่ตนไปสัมผัสประชาชน รู้สึกเหมือนกันว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นอยู่ไม่เห็นหัวประชาชน เสียงประชาชนไม่มีความหมาย ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการสะท้อนเสียงของประชาชนที่จะส่งเสียงถึงทุกคนในประเทศว่า ประชาชนคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ 

ตนไม่รู้สึกกังวลว่าคนจะเปลี่ยนใจไม่เลือกก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วว่า การทำงายฝ่ายค้านก็ทำงานได้ดี โดยเฉพาะนโยบายของพรรค ก็เป็นอำนาจนิติบัญญัติที่พรรคก้าวไกลมีเสียง 151เสียงที่จะเสนอกฎหมายเข้าสภาได้ ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ก็จะเสนอกฎหมายทีาเกี่ยวกับนโยบายของพรรคเข้าสู่สภาแน่ๆ และประชาชนจะได้เห็นว่าพรรคก่าวไกล พร้อมยกมือสนับสนุนกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และจะได้เห็นว่า สส.พรรคไหนบ้างที่จะสนับสนันกฎหมานที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

ข่าวล่าสุด

ไฟดับซานฟรานซิสโก ทำ Robotaxi ของ Waymo จอดแน่นิ่งทั้งเมือง