posttoday

"วันนอร์" แจงเลื่อน-ปิดประชุมรัฐสภา รอศาลรัฐธรรมนูญ ปัดหนีก่อนแก้ ม.272

05 สิงหาคม 2566

"วันนอร์" แจงเลื่อน-ปิดประชุมรัฐสภา รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หวั่นกระทบภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของสภา ลั่นไม่ได้ทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ปัดหนีก่อนแก้ ม.272

วันนี้ (5 ส.ค.2566) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.2566) สั่งเลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภาออกไปก่อน พร้อมกับปิดการประชุมทันทีว่า การเปิดประชุมเมื่อวานนี้มีประชุมวาระอยู่ 2 เรื่อง คือ การเลือกนายกฯ ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 16 ส.ค.2566  

ส่วนเรื่องที่ 2 คือ การเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ซึ่งตนตั้งใจให้มีการอภิปรายอย่างเต็มที่ และหากเลื่อนวาระที่ 2 ขึ้นมา สภาก็มีความพร้อมที่จะพิจารณา แต่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเลื่อนวาระดังกล่าวขึ้นมานั้น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เสนอญัตติด่วนขึ้นมาเพื่อให้ทบทวนมติที่สภาได้พิจารณาไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค. คือญัตติที่ไม่ให้โหวตนายกฯ ซ้ำ

ซึ่งเรื่องได้พิจารณาตามข้อบังคับ 151 ไปแล้ว โดยข้อบังคับ 151 ในวรรคแรก ได้ระบุว่า การลงมติของรัฐสภาถือว่าเด็ดขาด การที่จะมาทบทวนมติที่เด็ดขาดไปแล้ว ตนและสมาชิกหลายท่านเข้าใจว่าไม่สามารถกระทำได้ 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า โดยปกติที่ผ่านมา หากเรื่องอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ สภาก็ยังจะไม่พิจารณาเรื่องนั้น โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 211 เขียนไว้ชัดเจนว่า คำวินิจฉัยและคำสั่ง ของศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเด็ดขาด และมีความผูกพันกับรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ 

เพราะฉะนั้นการที่เราจะตัดหน้าไปพิจารณาวันที่ 4 ส.ค. ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญ ระบุชัดเจนว่าจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 16 ส.ค. หากเราพิจารณาก่อน อาจจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ เพราะเป็นการย้อนแย้งกับที่ศาลรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาเรื่องเดียวกัน และหากมีการพิจารณาและลงมติ และวันที่ 16 ส.ค.ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่ตรงกับมติของสภา “ท่านคิดว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นกับใคร” หากเรารอให้ถึงวันที่ 16 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจบแล้ว เราก็สามารถนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนได้ แต่เราค้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน 

นายวันมูหะมัดนอร์ เห็นว่า เรื่องนี้ในประการแรก ญัตติที่จะทบทวนญัตติของเราเอง ตามที่ข้อบังคับพูดไว้ชัดเจนแล้วนั้น จะกระทำได้หรือไม่ สมควรจะกระทำหรือไม่ ประการที่สอง เรื่องที่เราจะพูด คือเรื่องมติโหวตนายกฯ กระทำซ้ำได้หรือไม่ มันเป็นเรื่องเดียวกันที่ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวันที่ 16 ส.ค.นี้ และอำนาจศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเด็ดขาด สภาจะพิจารณา

อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาแล้ว เราต้องปฏิบัติตาม ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร ในฐานะประธานรัฐสภาเราไม่สามารถนำองค์กรให้เกิดปัญหากับองค์กรที่จะตัดสินเรา เราพร้อมจะทำตามสมาชิกถ้าหากว่าข้อเสนอนั้นเป็นข้อเสนอที่ไม่ย้อนแย้ง ซึ่งจะทำให้ความเชื่อถือลดลง ต้องขออภัยไม่ได้รีบปิดประชุมหนี เพื่อไม่ให้อภิปรายการแก้ไขมาตรา 272 ที่รอเวลาเกือบชั่วโมงเพื่อให้สมาชิกครบ เพื่อให้ได้ประชุม และเลื่อนวาระ 272 ที่พรรคก้าวไกลอยากจะอภิปรายขึ้นมาก่อน

“ผมก็อยากให้อภิปรายอย่างเต็มที่ แต่สมาชิกไม่ยอมที่จะให้เลื่อนเรื่องนี้มาพิจารณา และเสนอนำเรื่องด่วนที่ไม่ได้อยู่ในวาระขึ้นมาพิจารณาซึ่งสามารถเสนอได้ แต่เรื่องที่เสนอให้พิจารณา คือ เรื่องของวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งคือเรื่องการโหวตนายกฯ โดยตามมาตรา 151 ถือว่าทำไม่ได้ ผมไม่ได้ปฏิบัติเพื่อฝ่ายใด หรือกีดกันฝ่ายใด ไม่งั้นจะรอถึงชั่วโมงเหรอ เพราะหากสมาชิกไม่ครบแค่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่สามารถประชุมได้” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีการประชุมเมื่อวานนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ยังเหลือเวลาในการประชุม ทำไมถึงไม่ให้มีการลงมติ นำญัตติด่วนการเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำ ขึ้นมาพิจารณา หรือเอามาตรา 272 ขึ้นมาพิจารณา นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาไม่ยอม จะลงมติเรื่องที่ ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ถ้ารัฐสภาพิจารณาแล้วขัดแย้งกับคำวินิจฉัย จะมีความเสียหายเกิดขึ้น สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดศาล ผู้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือประธานรัฐสภา

โดยมองว่าจะกระทบต่อบุคคลที่เสนอ และวิธีการด้วย ซึ่งจะทำให้สภาเกิดความสับสนต่อบุคคลภายนอก ในวันที่ 16 ส.ค. ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยทุกอย่างก็สามารถเดินหน้าได้ และรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เราจะบอกว่าศาลเป็นใหญ่กว่าสภา มองว่าไม่มีใครใหญ่กว่าใคร แต่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แบบนั้น 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า ตนทำงานในสภามากกว่า 40 ปี ไม่เคยมีการนำญัตติที่ตกไปแล้วขึ้นมาทบทวน ยืนยันไม่ได้ปิดประชุมหนี เพราะการเลื่อนประชุมสภาเมื่อวานนี้ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดของบ้านเมือง ในที่สุดแล้วก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายสูงสุดของประเทศนี้

เมื่อถามว่าในวันที่ 17 และ 18 ส.ค. จะมีการนัดประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 ส.ค. ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยออกมาจะเรียกประชุมรัฐสภาภายใน 3 วัน คือวันที่ 18-19 ส.ค. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและความสง่างามของที่ประชุมรัฐสภา หากมีการทบทวนหลายรอบ จะทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมาอีก และเกิดความไม่สง่างามของรัฐสภา พร้อมย้ำว่าไม่มีคนอยู่เบื้องหลังเสนอให้เลื่อนการประชุม