posttoday

จับตา บอร์ดกสทช.เคาะงบ ยูโซ่ ป้อน ก.สาธารณสุข 3,500 ล้านบาท

13 มีนาคม 2566

หวั่นผิดกฎหมาย เหตุไม่ตรงวัตถุประสงค์การสนับสนุนเงินทุน คาดเคาะภายในสัปดาห์นี้ ก่อนเปลี่ยนรัฐบาล หลังจากที่ 2 เดือนก่อนหน้านี้บอร์ดตีตกให้ทบทวนใหม่

หลังจากที่ นพ.อนันต์ กนกศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ออกมาให้ข่าวว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เห็นชอบงบประมาณราว 3,500 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการโทรเวชกรรมถ้วนหน้า (Universal Telehealth Coverage : UTHC) หรือ เทเลเฮลท์ จากงบของกองทุนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Service Obligation) หรือ ยูโซ่ และคาดว่า กสทช. จะมีการจัดซื้อจัดจ้างและเริ่มดำเนินการ นั้น 

 

แหล่งข่าวจากสำนักงานกสทช.กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ผ่านการลงมติเห็นชอบจากกสทช.เนื่องจากเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา สำนักงานได้นำวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุมแล้วแต่กสทช.ให้ความเห็นว่า เป็นโครงการที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของกองทุนยูโซ่ ที่เน้นการให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐาน นั่นหมายความว่า เป็นการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมได้ ไม่ใช่การสนับสนุนงบประมาณทั้งระบบ ซึ่งควรเป็นหน้าที่ของ สธ.ในการตั้งงบประมาณเพิ่มเติมเอง

 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กสทช.ก็มีโครงการพัฒนาโครงข่ายด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นควรให้มีการทบทวนและประเมินจากโครงการเดิมที่ทำอยู่ว่าสามารถต่อยอดกับโครงการเดิมอย่างไรได้บ้าง เพื่อไม่ให้งบประมาณสูงเกินไป และผิดวัตถุประสงค์ จึงไม่อาจลงมติเห็นชอบได้เพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมาย
 

 

ดังนั้นสิ่งที่ สธ. ออกมาให้ข่าวครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่ามีความมั่นใจว่า เรื่องดังกล่าวจะเข้าพิจารณาในกสทช.เร็วๆนี้ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล สุดท้ายต้องจบที่ผลโหวตและประธานกสทช.อาจยกมือดับเบิ้ลโหวตอีกครั้ง

 

“โครงการนี้ให้น้ำหนักกว่า 50% ในการพัฒนาระบบโทรคมนาคมด้านสาธารณสุขมากเกินไป หรืออาจจะเรียกได้ว่ามากกว่างบประมาณที่กระทรวงสาธารณสุขเองเคยจัดสรรเสียอีก จึงได้ตีกลับแผนดังกล่าวให้สำนักงานกลับไปทบทวนแผนใหม่อีกครั้ง คาดว่าสำนักงานจะมีความพยายามในการนำแผนเดิมกลับเข้ามาให้กรรมการกสทช.โหวตในที่ประชุมอีกแน่นอน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะตอนนี้อนุกรรมการคงอนุมัติเรียบร้อยแล้ว”

 

แหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช.เป็นกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคโดยก่อนหน้าได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการได้แสดงวิสัยทัศน์เรื่องระบบสาธารณสุขอัจฉริยะและการรักษาทางไกลด้วยเทคโนโลยี และโครงการที่เสนอก็เป็นโครงการที่ประธานดูแลโดยตรง แต่เหตุใดจึงไม่ดำเนินโครงการต่อยอดจากโครงการเดิมที่มีอยู่เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ทำไมต้องตั้งงบประมาณขึ้นมาใหม่
 

 

สำหรับรายละเอียดแผน USO 2565 ฉบับที่ 3 (2565) งบประมาณ 8,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 1 ปี แบ่งออกเป็น 2 แผนยุทธศาสตร์ ได้แก่ 

 

แผน 1 วงเงิน 5,000 ล้านบาท เป็นการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานเพื่อมิติเชิงสังคม แบ่งเป็น 
ㆍ ระบบโทรคมนาคมเพื่อสาธารณสุข 4,000 ล้านบาท
ㆍ ระบบโทรคมนาคมเพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในสังคม 1,000 ล้านบาท

 

แผน 2 วงเงิน 3,000 ล้านบาท เป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในภารกิจโทรคมนาคมพื้นฐาน แบ่งเป็น
ㆍ ระบบโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ 2,000 ล้านบาท
ㆍ ระบบโทรคมนาคมเพื่อความมั่นคง 1,000 ล้านบาท

 

แหล่งข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า แผนโครงการ USO ฉบับที่ 3 เน้นไปที่ระบบโทรคมนาคมเพื่อสาธารณสุขมากกว่าด้านอื่นๆ เกินสมควร ดังนั้นเพื่อให้โครงการ USO มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรมีบริการระบบโทรคมนาคมทุกๆด้านอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงตาม พ.ร.บ. กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ได้แก่ 

 

1.บริการโทรคมนาคมในพื้นที่ชนบท
2.บริการโทรคมนาคมสำหรับสถานศึกษา ศาสนสถาน สถานพยาบาล และหน่วยงานอื่นที่ให้ความช่วยเหลือสังคม
3.บริการโทรคมนาคมสาธารณะแก่ผู้มีรายได้น้อย
4.บริการอำนวยความสะดวกในการใช้บริการโทรคมนาคม สำหรับคนพิการ เด็ก คนชรา และผู้ด้อยโอกาสการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงหรือประโยชน์สาธารณะ
5.การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงหรือประโยชน์สาธารณะ