posttoday

"วราวุธ" ปัดตอบจับมือพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าร่วมรัฐบาลเสียงข้างมาก

05 มีนาคม 2566

"วราวุธ ศิลปอาชา" สัมภาษณ์ รายการเนชั่น สุดสัปดาห์ วางเป้าร่วมรัฐบาลเสียงข้างมาก ปัดตอบจับมือพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ย้ำนโยบายสิ่งแวดล้อมไม่หวือหวา แต่ความยั่งยืน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเนชั่นสุดสัปดาห์ กับ3บก. ถึงการตัดสินใจร่วมงานการเมืองกับพรรคต่างๆ หลังการเลือกตั้งว่า ต้องพิจารณาเสียงข้างมากก่อน เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่สามารถบริหารได้ด้วยส.ว. หรือเสียงข้างน้อย เช่น การเสนอกฎหมายงบประมาณ หากไม่ผ่านต้องกลับไปเลือกตั้ง ซึ่งหลังการเลือกตั้ง ตนมองว่ากว่าจะตั้งรัฐบาลได้อาจเป็นช่วงกรกฎาคม หรือสิงหาคม จะเข้าสู่การพิจารณากฎหมายงบประมาณ หากรัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อย อาจถูกเล่นงานและต้องกลับไปเลือกตั้งใหม่  

เมื่อถามว่า พร้อมจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องดูว่าพรรคชาติไทยพัฒนาได้กี่เสียงหากได้เยอะ เราจะเลือกเขา แต่หากได้น้อย เขาจะเลือกเราาหรือไม่  ดังนั้นไม่ใช่ว่าจะเอาหรือไม่ แต่เขาจะเลือกพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่

เมื่อถามถึงประเด็นนโยบายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีความไม่สมดุลเพราะทำให้ ส.ส.ถูกมัดมือ มัดขา ในการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน แม้ว่าส.ส. ตามกฎหมายจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ คือการยกร่างกฎหมาย แต่ในบริบทปัจจุบันเมื่อประชาชนเดือดร้อน ต้องมาขอความช่วยเหลือจากส.ส. ดังนั้นเมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดห้ามส.ส.เกี่ยวกับงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถดูแลประชาชนได้เต็มที่

\"วราวุธ\" ปัดตอบจับมือพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าร่วมรัฐบาลเสียงข้างมาก

“สำหรับโมเดลการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะใช้โมเดลสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคชาติไทย  คือ ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)  โดยมีประชาชนหลากหลายกลุ่มเข้ามมีส่วนร่วม ซึ่งสมัยนายบรรหารนั้น ยอมให้คนที่ด่านายบรรหารเข้ามาร่วมมเป็นส.ส.ร. เพราะมองว่าจะทำให้เกิดความสมดุล มีการถ่วงดุล และยุคสมัยปัจจุบันที่มีคนหลาากหลายกลุ่มมากขึ้น ดังนั้นต้องปรับรายละเอียดเพื่อให้คนที่เห็นต่างเข้ามามีส่วนร่วมด้วย”นายวราวุธ กล่าว

 

สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา ปัจจุบันมี ส.ส. 12 คน ดังนั้นสิ่งที่ตั้งเป้าคือ 25 -30 คน คือบวกไปเท่าตัว แต่ไม่ได้แปลว่าทำเพื่อให้ได้ร่วมรัฐบาล เพราะหากแม้พรรคจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ยอนดีที่จะให้ฝ่ายรัฐบาลนำนโยบายของพรรคไปใช้ เพราะสิ่งที่พรรคนำเสนอนั้นเป็นการสร้างโซลูชั่นที่ยั่งยืนให้ประเทศชาติ โดยเป็นการแก้ปัญหาให้กับปัจจุบันและในอนาคต

ส่วนการนำเสนอเสนอนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ย้ำว่าเป็นนโยบายที่ไม่หวือหวา เมื่อเทียบกับนโยบายสวัสดิการที่พรรคต่างๆ นำเสนอ ส่วนที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าชาวบ้านไม่เข้าใจนั้น ยอมรับว่าพรรคต้องออกแรงให้มาก เนื่องจากนโยบายของพรรคที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมนั้นต้องการช่วยเหลืออย่างยั่งยืน เช่น การเปลี่ยนวิธีทำนา อย่างนาข้าวหอมมะลิเมืองไทย มีตลาดส่งออกใหญ่ที่อเมริกา ในอนาคตเขาจะมีกำแพงภาษีสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากไม่เปลี่ยนวันนี้ ต่อไปต่างชาติจะมาบังคับคนไทย  ทั้งนี้การเปลี่ยนความเชื่อไม่ง่าย ต้องสร้างการรับรู้ตั้งแต่วันนี้ หากไม่เปลี่ยนถูกบังคับให้เปลี่ยนในอนาคต

“ผมยอมออกแรงมากกว่าที่จะเห็นต่างชาติมาบังคับคนไทย วันนี้มีหลายพรรคพูดถึงความยั่งยืน แต่เราทำงานมานานและส่งเสียงชัดๆ ดังนั้นการทำนโยบายาของเราแม้จะไม่หวือหวา แต่ว๊าว เพราะเตะตั้งแต่ระดับชาวนาไปสู่สากล ให้เกษตรกร แข่งขันเวทีโลกได้อย่างยั่งยืนและชัดเจน”