สถานทูตจีนเคลียร์ประเด็นทุนจีนสีเทา

เว็บไซต์สถานทูตจีน เปิดเผยว่า ได้เรียกร้องให้ทั้งรัฐวิสาหกิจและชาวจีนที่อยู่นอกราชอาณาจักร ปฏิบัติตามกฎหมายและเคารพซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีในประเทศที่อาศัยมาโดยตลอด รวมถึงการดำเนินธุรกิจต้องชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งชาวจีนได้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ทั้งยังมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษกิจของไทยและมีส่วนร่วมในงานการกุศล

จากกรณีทุนจีนสีเทา ทางการจีนจะสนับสนุนทางการไทยให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับการกระทำผิดของชาวจีนบางรายที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย 

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างจีน-ไทยได้มีความร่วมมืออันใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิ การพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือ การกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายนั้นเป็นเพียงการกระทำของคนบางกลุ่ม ไม่ใช่การกระทำของชาวจีนและวิสาหกิจจีนทั้งหมด 

การนำประเด็นเหล่านี้มาคัดค้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าถือเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ มีฝ่ายที่สามพยายามใช้ปัญหานี้เพื่อใส่ร้ายประเทศจีน และทำลายความร่วมมือระหว่างจีน-ไทย ซึ่งทางการจีนจะคัดค้านอย่างเด็ดขาด และจะร่วมกับประชาชนชาวไทยเพื่อรักษาแนวโน้มการพัฒนาที่ดีของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมา จีนและไทยมีความสัมพันธ์อันดีและช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ได้เอาชนะความยากลำบากมาด้วยกัน ส่งผลให้ “จีนไทยพี่น้องกัน” ของประชาชนทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น 

ปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เยือนประเทศไทย และเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ รวมถึงหารือกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งทั้งสองประเทศประกาศจะสร้างประชาคมระหว่างจีน-ไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รวมถึงชี้แนวทางพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในยุคใหม่อย่างชัดเจน 

จีนถือเป็นประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดและตลาดสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของไทย ในปี 2565 ยอดมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับไทยสูงถึง 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน สินค้าเกษตรของไทยที่ส่งออกไปจีนมีมูลค่า 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในปี 2565 จีนได้กลายเป็นประเทศที่ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย โดยมีมูลค่าเงินลงทุน 77381 ล้านบาท ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-ไทยตั้งอยู่บนหลักการเอื้อผลประโยชน์แก่กันและความร่วมมือแบบ win-win และได้ส่งผลประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ให้แก่การพัฒนาและประชาชนของทั้งสองประเทศ