posttoday

"จ้าว เหว่ย"ชวนทั่วโลกลงทุนสามเหลี่ยมทองคำ

28 มกราคม 2566

"จ้าว เหว่ย"ถือฤกษ์เทศกาลดอกงิ้วบาน ชวนนักลงทุนทั่วโลกอัดฉีดเม็ดเงินลงเขตเศรษฐกิจพิเศษ สปป.ลาว ด้านหอการค้าเชียงราย จี้เอกชน-รัฐตามเพื่อนบ้านให้ทัน สมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-จีน"ชี้ไทยเสียโอกาสเร่งสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงอ.เชียงแสน รับท่องเที่ยวไร้พรหมแดน

เมื่อวันที่28ม.ค.66 เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้ถือเอาฤกษ์เทศกาลดอกงิ้วบาน ครั้งที่20 เปิดตัวธุรกิจโรงแรมระดับ5ดาว จำนวน610ห้อง ริงรับได้900คน ภายใต้ชื่อว่า Kopok Star Hotel  และสนามกอล์ฟ18หลุม มาตรฐานสากล บนพื้นที่2,300ไร่ ภายใต้ชื่อ Golden  Dragon Mountains Golf Resort  โดยมีท่านบุญทอง บุนทอง จิตรมณี รองประธานประเทศลาว พล.ท.วิไล หล้าคำฟอง รองนายรัฐมนตรี สปป.ลาว นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด   อดีต รองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ดร. คำพัน เผยยะวง อดีตเจ้าแขวบ่อแก้ว สปป.ลาว ดร.บัวคง นามมะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวและ ผู้บริหารระดับสูง ทั้งไทย ลาว เมียนมา และ เวียดนาม ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 

จ้าว เหว่ย  ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ กล่าวว่า การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสปป.ลาว   โดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแผนงาน เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ โดยอยากจะเชิญชวนให้นักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว โดยมั่นใจว่าครึ่งปีหลังทั้งสนามบิน รันเวย์4,000เมตรที่ใช้งบลงทุน175ล้านดอลลาร์สหรัฐ, โรงแรมระดับ5ดาว ใช้ลงทุน200ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองรับได้900คน, สนามกอลฟ์18หลุม ใช้งบลงทุน 20ล้านดอลลาร์สหรัฐ   และตลาดวัฒนธรรมนานาชาติ ที่ลงทุนกว่า 100ล้านดอลลาร์ สหรัฐ จะเสร็จสมบูรณ์  พร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก  

นายหวังเออเปา  ซีอีโอกลุ่มดอกงิ้วคำ กล่าวว่า ขณะนี้มีพันธมิตรการลงทุนจากจีน, สิงคโปร์,ไทย และเวียดนาม กว่า 200บริษัท ที่เข้ามาลงทุน โดยขณะนี้เร่งที่จะพัฒนาระบบคมนาคมทางบก ด้วยการหารือและศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับ3ประเทศในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อไปยังอำเภอเชียงแสน  และการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก เพื่อยกระดับการขนส่งสินค้าทางแม่น้ำโขง 

ด้านท่านสมสะหวาด เล้งสวัสดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากพื้นที่ป่ากลายเป็นเมืองใหม่ที่เจริญรอบด้าน และเป็นไปตามยุทธศาตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาลสปป.ลาวที่กำหนดให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ1แขวง1เขต โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ถูกยกระดับให้เป็นโมเดลให้กับแขวงต่างๆของสปป.ลาวที่กำลังจะตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยปัจจุบันนี้ทั้งประเทศมีทั้งหมด22แห่ง  พร้อมกันนี้ อยากเชิญชวนให้นักลงทุนเข้ามาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ โดยจะมีเงื่อนไขพิเศษทางด้านภาษี เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนใหม่ พร้อมกันนี้ ทางรัฐบาลสปป.ลาว ยัง ให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบคมนาคมทางบก โดยเตรียมแผนจะสร้างถนนมอเตอร์เวย์ บนเส้นทางอาร์3เอ จากชายแดนบ่อเตน เขตติดต่อชายแดนจีน มายังอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ระยะทางจาก280กม.จะเหลือเพียง180กม.ใช้เวลาเดินทางเพียง90นาทีซึ่งจะถือได้ว่าเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสำคัญที่เชื่อมต่อทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นงาม  และจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสปป.ลาว-จีน รวมไปถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ

ด้านดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หอฯได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำมาโดยตลอด และยอมรับว่าทางกลุ่มดอกงิ้วคำ ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการสร้างทั้งคอนโดมิเนียมมากกว่า 22แห่ง,สนามบิน,โรงแรม,สนามกอล์ฟ  ,สถาบันศึกษา,สถานบันเทิง และห้างสรรพสินค้า ถือเป็นเมืองใหม่ ที่ภาครัฐ และภาคเอกชนของประเทศไทยไม่ควรมองข้าม แต่ควรตื่นตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงให้ทัน โดยเฉพาะอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึงอยู่ตรงข้ามกับเขตเศรษฐกิจพิเศษจะต้องทำอย่างไรที่จะรับมือการทะลักเข้ามาของนักธุรกิจ และนักลงทุนชาวจีน ต้องเตรียมความพร้อมในการใข้ภาษา ,โรงแรม,สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารอย่างไรที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด ล่าสุด ทราบว่าฝั่งไทยได้ลงพื้นที่มาดูความเป็นไปได้ในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง ที่อำเภอเชียงแสนแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งจะทำให้อำเภอเชียงแสน ในฐานะเมืองหน้าด่านมีมูลค่าการค้าชายแดนขยายตัวสูงขึ้น

ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ อุปนายกสมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า ประไทยเสียโอกาสหลายครั้งในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน  จะเห็นได้ว่า มูลค่าการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำมากกว่าแสนล้านบาทแล้ว  ทางฝั่งลาวมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้ว  ดังนั้น ประเทศไทยไม่ควรเสียโอกาสใดๆแล้ว  ตอนนี้มองว่า ควรจะมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงแสน เชื่อมต่อกับเขตเศรษฐกิจเศษ ซึ่งหากว่าเกิดเป็นรูปธรรม  จะเกิดการค้าระหว่างไทย-ลาว-จีนอีกจำนวนมหาศาล