posttoday

“อนุทิน” ลั่นปักธงกทม. ได้แน่ เชื่อหากได้ส.ส. จะแก้ปัญหาหลายอย่างได้

23 มกราคม 2566

ชี้ นโยบาย 4 ปีที่ผ่านมา ทำได้จริง ย้ำการหาเสียงจะไม่ด้อยค่านโยบายพรรคอื่น แจงไม่กังวลกระแส “ลุงตู่” ฟุ้ง “กระแสลุงหนูก็มี”

วันนี้ (23 ม.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ย่านห้วยขวางวานนี้ ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครครั้งแรกของพรรคภูมิใจไทย ว่า รู้สึกตื่นเต้นแต่ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ จากการลงพื้นที่และปราศรัยนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ก็ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี จากปฏิกิริยาปรบมือ สิ่งที่พูดไปถูกใจประชาชน และหลังจากนี้จะมีการทยอยลงพื้นที่จุดต่างๆในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากตั้งใจจะส่งผู้สมัครในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

เมื่อถามว่าคาดหวังเขตใดเป็นพิเศษหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่าก็คาดหวังทุกเขต แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเรื่องนโยบายพรรคและการทำงานของผู้สมัครภายในพื้นที่ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าสามารถปักธงในพื้นที่กรุงเทพฯได้อย่างแน่นอน เพราะกทม.เป็นเมืองที่สำคัญ พร้อมกับยังระบุอีกว่า พื้นที่อื่นๆ พรรคภูมิใจไทยก็ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับพื้นที่จังหวัดอื่นแล้วเหลือเพียงแต่กรุงเทพมหานครเท่านั้น เพราะ กรุงเทพมหานครเป็นเขตบริหารพิเศษ หากมีผู้แทนของเราเอง จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่างได้ ในรูปแบบการร่วมมือการทำงานให้มากที่สุด เพื่อเสริมการทำงานของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
 

 

ส่วนนโยบายใดจะเป็นจุดขายของพื้นที่กรุงเทพฯ นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ผลงานในช่วงที่เป็นรัฐบาล 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยสามารถนำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาให้ออกมาเป็นรูปธรรมแทบทุกนโยบาย พร้อมกับยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีความขัดแย้งกับใครและไม่ชอบเรื่องความขัดแย้ง เพราะไม่เชื่อว่าความขัดแย้งจะนำประเทศไปสู่ความก้าวหน้าได้

 

แต่เชื่อว่าการทำงานที่เป็นประโยชน์ และทำนโยบายให้บ้านเมืองนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด จะเห็นได้ว่าแนวทางการหาเสียง จะไม่ได้มีการพูดถึงพรรคอื่นหรือด้อยค่านโยบายของพรรคใด ซึ่งนโยบายของพรรคอื่นหากเป็นประโยชน์ก็ควรสนับสนุน ซึ่งการขัดแย้งกันด้อยค่า พูดจาเสียดสีกัน อย่าท้อกัน คนที่จะมาบริหารบ้านเมือง หรือเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ควรที่จะทำ เพราะหากบ้านเมืองทะเลาะกันแล้วจะหาความร่วมมือได้จากที่ใด

 

ส่วนที่มีการนำเสนอนโยบายค่ารถไฟฟ้า มันจะไม่สามารถคุยกับประชาชนได้สามารถซื้อใจประชาชน กรุงเทพมหานครได้หรือไม่นายอนุทินมองว่า ตนมาจ่ายเนื่องจาก 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ฉะนั้นที่พรรคภูมิใจไทยพูดว่าค่าโดยสารจะไม่เกิน 40 บาท มีการศึกษาความคุ้มค่าและประโยชน์ของประชาชนมาแล้ว ไม่ใช่พูดให้ประชาชนและรู้สึกดีแล้วเลือกเรา เพราะคนที่บริหารบ้านเมืองมา 4 ปีแล้วจะทำอะไรชุ่ยๆไม่ได้
 

 

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมหรือไม่หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาฯ นายอนุทินกล่าวว่า อย่างไรก็ต้องพร้อม เพราะหากนายกฯประหาศไมายุบสภาฯก็จะเหลือเวลาเต็มที่อีก 2 เดือน ฉะนั้นการที่นายกรัฐมนตรีเป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว เราก็คาดเดาได้ว่าการยุบสภาฯก็จะเกิดขึ้น จะทำให้ระยะเวลาเหลือไม่ถึง 2 เดือน พร้อมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้ยุบสภาฯเมื่อไหร่ก็ต้องพร้อมมาก

 

ส่วนกระแสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงพื้นที่เยาวราช วานนี้อย่างไรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า  ไม่ใช่นายกฯที่ลงพื้นที่เพียงคนเดียว ใครๆ ก็ลง ทั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็ลง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลก็ลง รวมไปถึงตนก็ลงในพื้นที่ห้วยขวาง ซึ่งไม่ต่างกันหรอก

 

สับไปสับมาเมื่อถึงเวลาตนก็ต้องลงเยาวราช และการลงพิ้นที่ก็เป็นเรื่องปกติเป็นการเดินเข้าหาประชาชน และตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดี พร้อมกับมองว่าจากการที่ตนลงพื้นที่ห้วยขวางคนกรุงเทพฯ ไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือดีมากกว่าคนต่างจังหวัด เผลอๆ คนต่างจังหวัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าด้วยซ้ำ ฉะนั้นเราจะต้องเอารูปแบบการแก้ไขปัญหาให้คนต่างจังหวัด มาดูว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้คนกรุงเทพฯได้อย่างไร โดยเฉพาะคนในพื้นที่ชุมชนแออัด

 

เมื่อถามว่าภูมิใจไทยดูกระแสของพล.อ.ประยุทธ์แล้วน่ากลัวหรือหน้ากังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องให้กำลังใจท่าน และให้กำลังใจทุกพรรค ช่วงเทศกาลตรุษจีนก็ได้ส่งข้อความซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ หัวหน้าทุกพรรค ให้กำลังใจกันเพราะเชื่อว่าทุกคนก็มี ความปรารถนาที่จะรับใช้ประชาชน ซึ่งเราก็ต้องให้กำลังใจกัน ส่วนคนตัดสินใจก็คือประชาชน

 

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าหากมองมุมการเมืองพรรคภูมิใจไทยกังวลกระแสผลตอบรับพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายอนุทินถามกลับว่า เหรอ ก่อนที่จะระบุว่า กระแสลุงหนูก็มี ไปลงพื้นที่ต่างๆไปไหนมาไหนก็ได้รับการตอบรับ ที่ดีต่อประชาชน พร้อมย้ำว่ากระแสตอบรับดีมาก เพราะหลายคนก็มาให้กำลังใจ ในฐานะหัวหน้าพรรค และความเป็นนักการเมืองเราถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีค่า และการเข้ามาตัดสินใจทำการเมืองในพื้นที่กลุ่มเทพมหานคร

 

เนื่องจากเราเห็นว่าประชาชนก็เริ่มรู้จักพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น ส่วนจะประสบความสำเร็จแค่ไหนก็อยู่ที่ประชาชนกทม ได้ส.ส.ก็ทำงานไม่ได้สสก็ทำงานอยู่ดี หากได้ส.ส.กทม ก็ถือว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง แต่โดยพื้นฐานก็แข็งแกร่งอยู่แล้วในจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ

 

ส่วนหลังการเลือกตั้งจะสามารถจับมือกับพรรคอื่นได้หรือไม่แม้ว่าขณะนี้จะยังแข่งกันอยู่ นายอนุทิน ย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่ผลของการเลือกตั้ง ภูมิใจไทยก็ชัดเจนอยู่แล้ว พร้อมกับระบุว่าเลิกพูดได้แล้ว ว่าใครอยู่พรรคนี้เป็นประชาธิปไตยใครไม่อยู่พรรคนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ภูมิใจไทยพรรคดูด แต่ภูมิใจไทยเองก็ถูกดูดเหมือนกัน ซึ่งครบองค์ประกอบการเป็นพรรคการเมืองทั้งหมดแล้ว

 

ภูมิใจไทยก็เหมือนพรรคการเมืองอื่น ที่มีทั้งคนเข้ามาและคนออกไป  พร้อมกับมองว่าหากทำได้ดีไม่มีความขัดแย้งก็เป็นรัฐบาล หากทำได้ดีเสียงไม่พอ ไม่เป็นที่ต้องการของคนอื่น ก็ไปอยู่ฝ่ายค้าน ซึ่งมีแค่นี้

 

เมื่อถามว่า “ลุงหนูกับลุงตู่” ใครจะกระแสดีกว่ากันในขณะนี้ นายอนุทินถึง กับหัวเราะ ก่อนระบุว่า “เราให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ“