posttoday

ผบ.ตร.ส่งสำนวนสั่งฟ้องตู้ห่าว ชูวิทย์ชี้แค่จุดเริ่มต้นคดีสู้ถึงศาลฎีกา

13 มกราคม 2566

ผบ.ตร.ส่งสำนวนคดีตู้ห่าวให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดี มั่นใจพยานหลักฐาน เอาผิดเครือข่ายทุนจีนสีเทา ชูวิทย์ ชี้ไม่ใช้จุดจบเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของการต่อสู้ที่ศาล

 เมื่อวันที่ 13มกราคม 2566 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารแจ้งวัฒนะ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน สำนวนคดีนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ กับพวก นำสำนวนการสอบสวนพร้อมพยานหลักฐานคดี "ตู้ห่าว" ส่งมอบให้กับ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดี
   
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 ที่ บช.น. นำกำลังเข้าตรวจค้นผับจินหลิง พบและยึดยาเสพติด พร้อมอุปกรณ์การเสพหลายรายการเป็นของกลางพร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาที่มั่วสุมเสพยา และจำหน่ายยาเสพติด นำสง พงส.  สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมาย 
      
ต่อมาศาลได้ออกหมายจับนายตู้ห่าวกับพวก ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและสมคบ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งขยายผลสืบสวนจับกุมบุคคลผู้เกี่ยวข้อง
     
คดีนี้เป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้กับตน
เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบร่วมกันทำการสอบสวนกับ พงส. ในสังกัด 4 กองบัญชาการประกอบด้วย บช.น. บช.ก. บช.สอท. บช.ปส. และร่วมกับพนักงานอัยการทำการสอบสวนคดีนี้ 

บัดนี้การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีการสอบสวนพยานบุคคล 444 ปาก สืบพยานล่วงหน้า 20 ปาก ตรวจยึดทรัพย์สิน 5,345 ล้านบาท มีพยานเอกสาร พยานนิติวิทยาศาสตร์ และอื่นๆกว่า  67 แฟ้ม จำนวน 26,892 แผ่น  สอบสวนผู้ต้องหา ทั้งหมด 43 คน แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 38 คน นิติบุคคล 5 ราย 
     
ในส่วนของบุคคลธรรมดา 38 คน จับกุมดำเนินคดีแล้ว 20 คน ยังหลบหนี 18 คน ได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคลอีกจำนวน 5 บริษัทแจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้วเช่นกัน
    
คดีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับสั่งการเน้นย้ำให้ดำเนินคดีตรงไปตรงไป ตามพยานหลักฐานอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดของกลุ่มเครือข่ายทุนจีนสีเทา 
    
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนได้นำสำนวนการสอบสวน มาส่งมอบให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาต่อไป มั่นใจสำนวนแน่นหนาครบถ้วน เพียงพอในการสั่งฟ้องลงโทษผู้ต้องหาได้ 

“ขอขอบคุณคณะพนักงานอัยการ ที่ร่วมทำการสอบสวนคดีนี้ ขอบคุณ ปปส.ปปง.ที่ร่วมสืบสวนและสนับสนันข้อมูล ขอบคุณพี่น้องประชาชน สื่อมวลชนที่คอยติดตามและเป็นกำลังใจให้คณะทำงาน รวมทั้งคุณชูวิทย์ที่คอยสนับสนุนข้อมูล ทำให้คดีนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” ผบ.ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การส่งสำนวนวันนี้มีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมือง มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในเวลาต่อมา มีเนื้อหาดังนี้ 

สวัสดีประเทศไทย

เช้านี้ ผบ.ตร. นำสำนวนคดี “จินหลิง” มาส่งอัยการสูงสุด

อันจะนำไปสู่กระบวนการต่อสู้ในชั้นศาล

ระหว่างประชาชนฝ่ายโจทก์ กับจำเลย นายตู้ห่าว จีนแปลงสัญชาติ และเครือข่ายที่ทำร้ายสังคมไทย 

กระทำการเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

วันนี้ ยังไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้ แต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของการต่อสู้ที่ศาล

แน่นอนว่า ต้องสู้กันถึงศาลฎีกา

แต่จะถึงไหนก็แล้วแต่ ผมมั่นใจว่า

ท้ายที่สุดประชาชนต้องเป็นฝ่ายชนะ