posttoday

'คีนน์' จุลินทรีย์สร้างรายได้

06 มกราคม 2560

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

คีนน์ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมไบโอเทคโนโลยี ผู้คิดค้นงานวิจัยด้านชีวบำบัดภัณฑ์เชิงนิเวศปรับใช้ในหลายอุตสาหกรรม ร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ธุรกิจที่มีจุดเริ่มต้นในประเทศไทย แต่เติบโตไปไกลในต่างแดน

วสันต์ อริยพุทธรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คีนน์ กล่าวว่า คีนน์เป็นผู้บุกเบิกและคิดค้นด้านจุลินทรีย์ย่อยน้ำมันปิโตรเลียมเจ้าแรกในเอเชียเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ที่ได้เริ่มต้นพัฒนางานวิจัยต่อยอดเป็นธุรกิจ ก่อตั้งเป็นบริษัท คีนน์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใช้กับหลายกลุ่มอุตสาหกรรม

หัวใจสำคัญของคีนน์ คือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม อันประกอบไปด้วย 1.การสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับความต้องการของสังคม 2.การมีความคิดริเริ่ม และ 3.การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เกิดประโยชน์

ไม่นานมานี้ ได้คิดค้นนวัตกรรม “คีนน์ โอเอ็มอาร์” เครื่องผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ในระบบบำบัดน้ำเสีย สอดคล้องกับจุดประสงค์หลักที่ต้องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม ขจัดและบำบัดน้ำเสียตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ขณะที่ปัจจุบันมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการบำบัดน้ำเสีย ตัวอย่างสำคัญเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมแก้ไขปัญหาที่อ่าวพร้าวในการกำจัดน้ำมันที่รั่วลงสู่อ่าวไทย

ถือได้ว่าคีนน์เป็นธุรกิจของคนไทย เกิดขึ้นในประเทศ แต่โด่งดังในต่างประเทศได้ดี ปัจจุบันส่งออกไปยังเอเชียเป็นหลัก ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย ฟินแลนด์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เมียนมา เป็นต้น รวมทั้งส่งออกไปแถบยุโรป โดยช่องทางการจำหน่ายในปัจจุบันเน้นผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก ซึ่งในประเทศมี 10 ราย และในต่างประเทศอีก 20 ราย โดยในปีนี้วางเป้าหมายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 60 รายทั่วโลก

“ต้องการแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมของประเทศไทยว่ามีดีไม่แพ้ด้านอื่น ทั้งได้วางเป้าหมายบุกพื้นที่ประเทศเวียดนามในอนาคต รวมทั้งตั้งเป้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2563” วสันต์ กล่าว

ปัจจุบันถือเป็นยุคจุลินทรีย์ทำเงิน สั่งจุลินทรีย์สร้างรายได้และอาชีพได้ ซึ่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีของบริษัทเน้นการดูแลสิ่งแวดล้อม ขจัดคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งการบุกตลาดต่างประเทศเริ่มต้นด้วยการเดินทางร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ นอกเหนือจากคุณภาพของสินค้าที่มีมาตรฐานสากลรองรับ การเข้าร่วมการแข่งขัน หรือได้รับรางวัลในเวทีโลก เสมือนใบเบิกทางที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าด้วย

สำหรับในปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตขึ้น 20% สำหรับปีนี้คาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง 20-30% รวมทั้งได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล เช่น โครงการเอสเอ็มอีสปริงอัพ และบัญชีนวัตกรรม ซึ่งผลิตภัณฑ์ของคีนน์ได้ขึ้นบัญชีนวัตกรรม ซึ่งจะได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลในการจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่ต้องประมูล เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐาน มีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด

“3 สิ่งสำคัญที่ช่วยให้เอสเอ็มอีเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง คือ 1.เติบโตแบบมีมาตรฐาน 2.ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ และ 3.มีนวัตกรรมสอดคล้องกับยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลกำลังสนับสนุนในขณะนี้” วสันต์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวล่าสุด

‘จีโนมิกส์ ไทยแลนด์’ เดิมพันอนาคตวงการแพทย์ไทย โครงการชื่อยากที่คนไทยได้ใช้แน่!