ยุบพรรค “ไทยรักธรรม” พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมือง
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ยุบพรรคไทรักธรรม พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่มีคำวินิจฉัย พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคพ้นตำแหน่งทันที
จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคไทรักธรรม ในฐานะผู้ถูกร้อง ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 30 กรณีให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจบุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ขอเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องตามมาตรา 92 วรรคสอง และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี
โดยศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า หัวหน้าพรรคไทรักธรรม (นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค) มอบหมายให้นายมนัส มีชาวนา จูงใจชาวบ้าน ต.ป่ามะข้าม อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร สมัครสมาชิกพรรค เชิญชวนให้กลุ่มทำดอกไม้จันทน์ สมัครสมาชิกพรรคโดยไม่ต้องเสียค่าเข้า และค่าบำรุงพรรค โดยเสนอว่าจะซื้อวัสดุอุปกรณ์ทำดอกไม้จันทน์ และรับซื้อคืนดอกละ 1 บาท กระทั่งพรรคไทรักธรรม มีสมาชิกพรรคครบ 500 คน และเปิดสาขาพรรคได้ที่ จ.พิจิตร วิธีการดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า หัวหน้าพรรคไทรักธรรม มอบหมายนายมนัสดำเนินการ จึงฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีผลผูกพันกับพรรค จึงมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยให้ยุบพรรคไทรักธรรม พร้อมตัดสิทธิ์การเมืองเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง ตามมาตรา 94 วรรคสอง
สำหรับพรรคไทรักธรรม เป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กมี ส.ส.ในสภา 1 เสียง คือ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค และเป็นหัวหน้าพรรคดังกล่าวด้วย ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทำให้นายพีระวิทย์ ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในทันที


