น้ำท่วมจบเมื่อไหร่?...ไร้คำตอบ
แม้น้ำเหนือจะลดลงหลายพื้นที่ อาทิ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์
แม้น้ำเหนือจะลดลงหลายพื้นที่ อาทิ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์
ต่ำกว่าตลิ่ง 0.89 เมตร แต่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ อ.บางไทร ยังสูงกว่าตลิ่ง 0.51 เมตร แต่มีแนวโน้มลดลง
ขณะที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) หลายพื้นที่ซึ่งเคยถูกน้ำท่วมก็พบว่าน้ำเริ่มลดลง อาทิ เขตดอนเมือง ระดับน้ำลดลง 10 เซนติเมตร คลองหกวาสายล่าง ระดับน้ำเริ่มลดลง ประตูระบายน้ำคลองสอง ลดลง 2 เซนติเมตร คลองลาดพร้าว ระดับน้ำทรงตัว แต่คลองแสนแสบช่วงมีนบุรี–บางกะปิ ระดับน้ำสูงขึ้น ขณะที่ฝั่งตะวันตก คลองทวีวัฒนาลดลง 1 เซนติเมตร แต่คลองภาษีเจริญ คลองชักพระ คลองมอญ คลองบางกอกใหญ่ เริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้น
ด้านระดับน้ำในคลองแสนแสบก็กำลังเข้าขั้นวิกฤต เพราะระดับน้ำสูงต่อเนื่อง ล่าสุด เอ่อท่วมชุมชนริมคลองแสนแสบ กทม.ได้ประกาศอพยพประชาชนเพิ่มเติม ได้แก่ หมู่บ้านมณียา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม นอกจากได้มีประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 แขวง ได้แก่ แขวงนวลจันทร์ และแขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ประกอบด้วย ซอยนวลจันทร์ 52, 54, 56, 58, 60 ซอยนวมินทร์ 50, 64, 74, 90 และซอยรามอินทรา 38 อีกทั้งเริ่มมีน้ำท่วมขังในพื้นที่มีนบุรี คลองสามวา คันนายาว บึงกุ่ม สะพานสูง ภาษีเจริญ และจอมทองแล้ว ขณะที่น้ำเหนือไหลบ่าถนนรัชดาภิเษกจากคลองบางซื่อถึงคลองน้ำแก้ว ระดับน้ำสูง 25–40 เซนติเมตร
บริษัท ทีมกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านพัฒนาแหล่งน้ำ เปิดเผยว่า พื้นที่เขตสะพานสูง บึงกุ่ม บางกะปิ สวนหลวง ประเวศ เฉพาะด้านตะวันออกของถนนศรีนครินทร์ และเหนือคลองประเวศ เขตบางแค หนองแขม บางบอน และบางขุนเทียน ถนนเอกชัย ถนนพระราม 2 อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เฉพาะด้านตะวันตกของถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบน้ำท่วมต่อจากนี้
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ยอมรับว่า การที่ ธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า จะมีมวลน้ำใหม่เข้ามาอีก ซึ่งเป็นมวลน้ำที่ค้างอยู่ตามจังหวัดต่างๆ นั้น เนื่องจากมวลน้ำจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ มวลน้ำที่ค้างอยู่ที่เดิม ส่วนที่ 2 ก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำ ซึ่งพื้นที่ กทม.เป็นพื้นที่ต่ำ มวลน้ำก็จะไหลลงมาทางคลอง 1 คลอง 2 เป็นหลัก
“ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามวลน้ำที่ไหลมาจะมีปริมาณเท่าไหร่ น้ำอาจจะเอ่อเข้า กทม.บ้าง แต่มวลน้ำที่เราประเมินไม่ได้คือน้ำที่อยู่ใต้ดิน เพราะตอนนี้น้ำที่อยู่ด้านล่างมันไหลไปทุกช่องทาง”
ด้านสถานการณ์น้ำไหลบ่าลงพื้นที่ตะวันตก และกำลังจะถึงแนวถนนพระราม 2 พล.ต.อ.ประชา เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งกู้ถนนหมายเลข 9 และ 340 ที่จะผ่านไปทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และจ.นครปฐม ให้ได้โดยเร็ว เพราะมวลน้ำจากเพชรเกษมจะไหลลงไปที่พระราม 2 หากสามารถกู้เส้นทางนี้ได้ ก็อาจพิจารณาถึงการเจาะถนนพระราม 2 เพื่อให้น้ำไหลลงทะเลโดยเร็วที่สุด
ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า การวางแนวกระสอบยักษ์ยังไม่แล้วเสร็จ โดยแนวถนนจันทรุเบกษาเหลืออีก 20 เมตร แนวคลอง 2 อีก 10 เมตร และแนวรถไฟคาดว่าทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 9 พ.ย.นี้
แม้ พล.ต.อ.ประชา จะมั่นใจว่ากระสอบยักษ์หรือบิ๊กแบ็กจะช่วยชะลอน้ำที่จะไหลเข้า กทม.ได้ แต่ เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต กลับเห็นว่าบิ๊กแบ็กเพียงแค่ชะลอน้ำเข้าเขต กทม.เท่านั้น สังเกตจากระดับน้ำภายใน กทม.อาจจะลดลงบ้าง แต่น้ำนอกแนวบิ๊กแบ็กจะยกตัวสูงขึ้น และอีกไม่เกิน 7 วันนี้ น้ำก็จะล้นแนวบิ๊กแบ็กและไหลเข้าพื้นที่ กทม. ซึ่งหากรวมกับน้ำที่ไหลเข้ามาใน กทม.ขณะนี้ ก็คาดว่าพื้นที่น้ำท่วมจะขยายไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและเขตราชเทวี
“การวางบิ๊กแบ็กเหมือนต่อลมหายใจให้ กทม.ในการใช้เร่งสูบระบายน้ำ แต่จากนี้ไปจะไม่มีเวลาหายใจแล้ว ขณะนี้คลองบางซื่อสูบออกได้ 80 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที แต่หากน้ำล้นบิ๊กแบ็กเข้ามาได้ ก็จะเข้ามามากกว่า 100 ลบ.ม.ต่อวินาที”
ข้อกังวลของเสรีสอดคล้องกับข้อมูลที่ธีระยอมรับว่า ปริมาณน้ำเหนือพื้นที่ กทม.ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกยังมีอยู่จำนวนมาก รวมแล้วกว่า 9,600 ล้าน ลบ.ม. โดยอยู่ในฝั่งตะวันออก 6,900 ล้าน ลบ.ม. ฝั่งตะวันตก 2,700 ล้าน ลบ.ม.
รมว.เกษตรฯ ยอมรับว่า การระบายน้ำในฝั่งตะวันออกประเมินยากว่าจะจบลงเมื่อไหร่ เพราะยังมีน้ำจากคลองข้าวเม่า จ.พระนครศรีอยุธยา เข้ามาเติมอย่างต่อเนื่อง การซ่อมแซมคันที่พังก็เพื่อชะลอน้ำ ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดน้ำได้ ปริมาณน้ำหลากที่เข้ามาต่อเนื่องทำให้ไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะจบลงเมื่อไหร่ ขณะที่ด้านตะวันตกยังมีน้ำจากทุ่งผักไห่ลงมาเติมทุ่งเจ้าเจ็ดอย่างต่อเนื่อง และยังมีน้ำล้นคันอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถจะตอบได้ว่าจะต้องใช้เวลาในการระบายน้ำออกได้ภายในกี่วัน และน้ำจะกลับเข้าสู่ตลิ่งได้ภายในกี่วัน เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่มีความซับซ้อนของอาคารบ้านเรือนเพิ่มขึ้น ทำให้แต่ละวันการระบายน้ำยังขาดทุน เพราะมีปริมาณน้ำไหลเข้ามากกว่าระบายน้ำออก
สำหรับแผนบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานในฝั่งตะวันตกนั้น ได้ลดปริมาณน้ำที่ผ่านประตูระบายน้ำ (ปตร.) พลเทพ จ.ชัยนาท ที่น้ำจะเข้ามาเติมแม่น้ำท่าจีน และ ปตร.บรมธาตุ ที่เข้ามาเติมแม่น้ำน้อย และเร่งดำเนินการซ่อมคันกั้นน้ำที่พังลงประมาณ 11 จุด ให้แล้วเสร็จในวันที่ 12 พ.ย. รวมทั้งการตั้งคันที่ถนนสาย 309 จ.สิงห์บุรี ระยะทาง 2 กิโลเมตร เพื่อลดปริมาณน้ำที่เข้ามาเติมแม่น้ำน้อย จะมีผลให้ปริมาณน้ำที่เข้ามาเติมฝั่งตะวันตกลดลง แต่การไหลของน้ำลงทะเลขณะนี้เป็นลักษณะการไหลบ่าตามแรงโน้มถ่วงโลก ประกอบกับการเร่งระบายน้ำออกทางแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย หากว่าปริมาณน้ำลดลงจนเห็นคันคลอง หรือคันถนนแล้ว กรมชลประทานจะเร่งระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง
สำหรับการระบายน้ำฝั่งตะวันออก ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่คลองหกวาสายล่างเพิ่มแล้วเสร็จทั้ง 27 ตัว เพื่อสูบน้ำออกไปทางคลองศรีสมบูรณ์ จ.นครนายก ไปออกคลองพระองค์ไชยานุชิต และที่คลอง 13 สู่คลองแสนแสบช่วงเชื่อต่อคลองบางขนาก
ทั้งนี้ กรมชลฯ ได้เร่งระบายอย่างเต็มที่ โดยศักยภาพในการระบายของกรมชลประทานทั้งจากเครื่องสูบน้ำและประตูระบายน้ำนั้นฝั่งตะวันออกจะอยู่ที่ 45 ล้าน ลบ.บ.ต่อวัน ในขณะที่ตะวันตกประมาณ 32 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน แต่เมื่อรวมกับการระบายน้ำทั้งหมดจากทุกระบบทั้งของกรมชลฯ กทม. และการระบายน้ำโดยธรรมชาติ จะมีความสามารถในการระบายน้ำประมาณ 200 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน แต่ก็ขึ้นกับภาวะน้ำทะเลหนุน
ด้าน สัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวภายหลังลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำร่วมกับ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ประธานคณะกรรมการประสานงานฝ่ายปฏิบัติระบายน้ำกรมชลประทานและ กทม.ว่า ขณะนี้ยังประเมินสถานการณ์ยากว่าจะสามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้หมดเมื่อไหร่ และ กทม.จะสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่ เนื่องจากมีปริมาณน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์มาเติมตลอดเวลา ทำให้ปริมาณน้ำที่จะท่วมพื้นที่ถนนพระราม 2 คาดว่าจะสูงจากระดับถนนน่าจะไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม กทม.จะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มที่แก้มลิงมหาชัย เพื่อเร่งระบายน้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งศักยภาพในการระบายน้ำของ กทม.ฝั่งตะวันตกประมาณ 2530 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และฝั่งตะวันออกประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน


