posttoday

พท.ไขปริศนา...270เสียงมาจากไหน

07 กรกฎาคม 2554

ทุกโพลฟันธงพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งในฐานะเป็นพรรคอันดับ 1 ที่มีอดีต สส.มากสุดถึง 186 เสียง

ทุกโพลฟันธงพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งในฐานะเป็นพรรคอันดับ 1 ที่มีอดีต สส.มากสุดถึง 186 เสียง

โดย...ทีมข่าวการเมือง

ทุกโพลฟันธงพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งในฐานะเป็นพรรคอันดับ 1 ที่มีอดีต สส.มากสุดถึง 186 เสียง

กระแสของคนเสื้อแดง ผลงานนโยบายประชานิยมสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และผลพวงจากการรัฐประหาร ทำให้บิ๊กเพื่อไทยประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคจะได้ที่นั่งเกินกึ่งหนึ่งแน่นอน โดยเฉพาะ ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่รับผิดชอบยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค ออกมาเกทับประชาธิปัตย์อย่างแรงว่า เพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งด้วยจำนวน 270 ที่นั่ง (จาก 500)

ของจริงไม่ได้โม้...

ปลอดประสพ อธิบายว่า ตัวเลขนี้เป็นการประเมินชัยชนะแบบ “ระดับกลาง” ซึ่งยังมีตัวเลขแบบ “มหัศจรรย์” ที่สูงกว่านี้ ในเงื่อนไขที่คนเบื่อรัฐบาลมาก แล้วก็รักพรรคเพื่อไทยอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ซึ่งเคยเห็นตัวเลขนี้แล้วสมัยที่ไทยรักไทยเคยชนะถล่มทลาย

เขาแจกแจงว่า 270 เสียง ที่พรรคจะได้แยกเป็นจาก ระบบเขต 200 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 70 คน

สำหรับปาร์ตี้ลิสต์ 70 คน (จาก 125 คน) คิดจากอัตราส่วนที่พรรคจะได้คะแนน 55% โดยใช้ฐานคะแนน 22.5 แสนคะแนนต่อ 1 คน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อปี 2550 พรรคพลังประชาชนได้ 34-35% จากระบบสัดส่วน 80 คน เมื่อเทียบ 35% จาก 125 ครั้งนี้ก็จะได้ 50 คน แต่คาดว่าจะได้เพิ่มอีก 20% เพราะนโยบายพรรคเพื่อไทยดีกว่าทุกพรรค ขณะที่คนก็เบื่อพรรคประชาธิปัตย์ สะท้อนผ่านเอแบคโพลล์ที่สำรวจคะแนนนิยมของสองพรรค พบว่า พรรคเพื่อไทยเป็นต่อประชาธิปัตย์ 60 ต่อ 30

ปลอดประสพ มั่นใจว่าครั้งนี้คนอีสานจะเลือกเพื่อไทยถล่มทลาย อย่างการเลือกตั้งซ่อม ที่ จ.ขอนแก่น ศรีสะเกษ สกลนคร ในช่วงที่ผ่านมาในรัฐบาลนี้ เพื่อไทยก็ชนะคู่แข่งจากประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยมโหฬารถึง 80% ทำให้เชื่อว่าผู้สมัคร สส.อีสานพรรคเพื่อไทย จะได้คนละ 1.5 แสนคะแนน ซึ่งจะเอื้อให้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคได้เป็นกอบเป็นกำจนสูงถึง 70 คน

สำหรับจำนวนเขตที่พรรคเชื่อว่าจะชนะท่วมท้นถึง 200 เสียง (จาก 375) แยกเป็นกรุงเทพฯ (33) น่าจะได้ครึ่งหนึ่งคือ 16 คน จากปัจจุบันที่มี 6 คน เพราะครั้งนี้ปรับมาใช้เขตเล็ก ขณะที่ฐานของเพื่อไทยที่มาจากพลังประชาชน และไทยรักไทยเดิมมาจากนักการเมืองท้องถิ่นคือ สก. สข. ไม่ได้มาจากลูกหลานคนรวย ในเมื่อเป็นเขตเล็ก ถ้าได้ 7 หมื่นคะแนนก็จะชนะ โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ พรรคจะกวาดเกลี้ยงอาจเหลือเฉพาะใจกลางกรุงให้กับประชาธิปัตย์

ภาคตะวันออกจะได้ 5 คน ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้แม้แต่ที่นั่งเดียว แต่ครั้งนี้แม้พรรคพลังชล ของสนธยา คุณปลื้ม มีโอกาสได้มากใน จ.ชลบุรี ที่มี 8-9 ที่นั่ง แต่พรรคยังหวังได้แค่ 3 เสียง และ จ.ระยอง อีก 1 เสียง ส่วน จ.ตราด อาจจะชนะในประวัติศาสตร์รอบ 20 ปี เพราะนายก อบจ.ตราด หาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย

ภาคกลางจะได้ 12 คน เน้นยกจังหวัดในพื้นที่ สส.เดิม คือ จ.นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ รวมถึง จ.ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพรรคไม่ค่อยได้ แต่ครั้งนี้จะได้จังหวัดละ 12 คนจากกระแสโดยรวม ส่วนพื้นที่ก้ำกึ่ง เช่น จ.นครสวรรค์ แต่ที่ชนะยากหรือไม่อยากหวัง คือ จ.สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อุทัยธานี สระบุรี

ภาคเหนือคาดว่าจะได้เท่าเดิม 55 คน จาก 80-90 คน เพราะเป็นกระแสตรงของพรรคที่จะได้ยกจังหวัด เช่น จ.เชียงราย ลำพูน เชียงใหม่ แต่ที่อาจจะยากคือเขตของ นพ.ไกร ดาบธรรม อดีต สส.เชียงใหม่ ที่ย้ายไปลงชาติไทยพัฒนา ส่วนจังหวัดที่คู่แข่งอาจเบียดมาแข่งบ้าง เช่น จ.พะเยา ลำปาง กำแพงเพชร กลุ่มจังหวัดที่พรรคค่อนข้างเหนื่อย คือ จ.แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย ตาก โดยเฉพาะ จ.พิจิตร 3 ที่นั่ง น่าจะสอดแทรกพรรคชาติไทยพัฒนาลำบาก

“สรุปคือภาคเหนือตอนบนเราทิ้งขาด ส่วนเหนือตอนล่างเรามีอาการ”

แต่พื้นที่สำคัญที่พรรคหวังจะยึดซึ่งจะชี้ขาดการเป็นรัฐบาล คือ ภาคอีสาน ปัจจุบันมี สส. ได้ 126 ที่นั่ง วันนี้เพื่อไทยเหลือ 90 คน แต่พรรคหวังว่า จะได้ 100 เสียงขึ้น โดย อีสานเหนือ อีสานกลาง พรรคชนะหมด ที่ต้องแข่งกันดุ คือ อีสานใต้ ประกอบด้วย จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา อุบลราชธานี ที่จะแบ่งกัน 3 พรรค

ขณะที่ พายัพ ชินวัตร ประธาน สส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า แม้พื้นที่อีสานใต้จะแข่งกันหลายพรรค แต่ก็มั่นใจลึกๆ ว่า จะยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ รวม 100 เสียงขึ้นไป สำหรับพื้นที่แข่งดุ เช่น จ.อุบลราชธานี ซึ่งมี 11 ที่นั่ง พรรคจะเสียให้คู่แข่งเพียง 3 ที่ จ.บุรีรัมย์ (9) สุรินทร์ (8) เชื่อว่าจะเบียดเอาชนะพรรคภูมิใจไทยมาได้เกินครึ่ง ส่วน จ.นครราชสีมา 15 ที่นั่ง ล่าสุดมี สส.ของพรรคย้ายออกไป 2 คน คือ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ และนายบุญเลิศ ครุฑขุนทด แต่ถึงมีคนออกก็จะมีคนเข้าที่รอคิวเหมือนเสาไฟฟ้าดังนั้นชนะแน่นอน

วกกลับมาที่ปลอดประสพ เขาสรุปว่า เพื่อไทยฝันเห็นคะแนน 300 เสียง รองลงมา 270 แต่ กลางๆ จะอยู่ที่ 235-250 ซึ่งระดับกลางนี้แปลว่า พรรคยังได้ตั้งรัฐบาล เพราะถ้าเพื่อไทยได้ 235 ประชาธิปัตย์มากที่สุดก็จะได้แค่ 150-160 ถ้าทิ้งกันถึง 80 เสียง ประชาธิปัตย์ไม่กล้าแข่งตั้งรัฐบาล ถึงตั้งได้ก็ไม่มีเสถียรภาพ

“ดังนั้น ถ้าพรรคต้องการเป็นรัฐบาลผสมขอให้เราได้แค่ 235-240 เสียงก็พอ แค่นี้ก็สบายใจได้ตั้งรัฐบาลแน่ แต่ถ้าได้ 200 เสียงไม่สบายใจแน่” ปลอดประสพ กล่าว

 

ข่าวล่าสุด

ประกาศ! ปิดกั้นอ่าวไทย 'สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย' เข้ากัมพูชา