ธรรมนัสร้องสื่อปัดสั่งเผาไล่ที่
ผู้กองธรรมนัส ร้องขอความเป็นธรรมสื่อ ยืนยัน ชายชุดดำที่เป็นพนักงานไม่ได้เผาไล่ที่ ชุมชนไทย 4 ภาค พร้อมยืนยัน ที่ดินเป็นของตนเอง ไม่ใช่ที่ของ บสท.
ผู้กองธรรมนัส ร้องขอความเป็นธรรมสื่อ ยืนยัน ชายชุดดำที่เป็นพนักงานไม่ได้เผาไล่ที่ ชุมชนไทย 4 ภาค พร้อมยืนยัน ที่ดินเป็นของตนเอง ไม่ใช่ที่ของ บสท.
เช้าวันนี้ (6ก.ค.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานบริษัท ธรรมนัส กรุ๊ป จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลธัญบุรี ในข้อหาจ้างวานให้ผู้อื่นวางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือนที่อยู่อาศัยผู้อื่น เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายกสมาคมผู้สื่อข่าว และช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนไม่เคยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเลย แต่ถูกสังคมประณามไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้จึงขอเข้ามาชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบความจริง โดยตนไปซื้อที่ดินดังกล่าวที่เกิดเหตุจากบสท.ซึ่งไม่ใช่การประมูล อีกทั้งที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ของหลวง และไม่ใช้ที่ดินรกร้างว่างเปล่า แต่มีเจ้าของร่วมกันหลายโฉนด โดยตนไปรวมซื้อมาจ่ายเงินไปแล้วกว่า 320 ล้านบาทเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 54 มีการทำสัญญาซื้อขายและหลักฐานอย่างสมบูรณ์
"ผมซื้อก่อนที่บสท.จะปิดตัวเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. และให้บริษัท จินดาประเมินทรัพย์ จำกัด เป็นผู้ดูแลต่อ กระทั่งวันที่ 1 ก.ค. บริษัทธรรมนัสการ์ด จำกัด ได้เข้ามาดูแลพื้นที่นี้ตามเงื่อนไขและมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานว่า บริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลพื้นที่รอบนอกก่อนจะมีการโอน นอกจากนี้ยังได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อให้มาทำรั้วสังกะสีปิดทางเข้าออกไว้ด้วยหลังได้มีการเจรจากับแกนนำกลุ่มสมัชชาฯ ครั้งแรกแล้วว่าบริษัทจะเข้าไปเยียวยาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในนั้นหากมีการย้ายออกจากพื้นที่ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าชาวบ้านจะย้ายออกไป แต่พอถึงช่วงเย็นวันที่ 1ก.ค.ได้มีการขว้างระเบิดออกมาจากในรั้ว ทำให้รปภ.ได้รับบาดเจ็บ ตนจึงให้พนักงานหนีออกมาแล้วไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง ในวันรุ่งขึ้น พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับกลุ่มคนที่ขว้างระเบิดจากภายในรั้วจำนวน 15คน และขอกำลังตำรวจเข้าไปดูแลในพื้นที่ให้ด้วย" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อไปอีกว่า ต่อมาตนก็ได้ไปเจรจากับกลุ่มแกนนำสมัชชาฯ และได้ปรึกษากับผู้ใหญ่ที่ตนนับถือถึงการแก้ปัญหาและเยียวยากลุ่มสมัชชาฯ เพราะตนได้วางเงินซื้อที่ดินและตั้งใจจะทำมาหากินในพื้นที่นี้ และขณะนั้นมีชาวบ้านซึ่งเป็นคนอีสานกว่า 100 คนทำงานอยู่ย่านนวนครมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ทราบว่าแต่ละคนเสียเงินค่าสร้างกระต๊อบรวมแล้วประมาณ 15,000 บาทต่อหลัง ตนก็รับปากว่าจะช่วยเหลือตรงนี้ให้พร้อมกับให้เงินเป็นค่ารถกลับบ้านด้วย ซึ่งชาวบ้านก็รับปากว่าจะเดินทางกลับแต่ก็มาเกิดเรื่องก่อน
"ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของผมกำลังช่วยขนย้ายของอยู่ ก็มีการปาระเบิดออกมา และยิงปืนจากในพื้นที่ออกมา เกิดความวุ่นวายไปหมด ต่อมามีการนำเสนอว่าชายฉกรรจ์เป็นลูกน้องของผม ผมยืนยันว่าพวกชุดดำผ้าพันคอเขียว ไม่ใช่คนของผม รปภ.ของบริษัทผมจะใส่ชุดคล้ายตำรวจ 191 และมีบัตรประจำตัวทุกคนห้อยคอไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นป็นใคร"ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
เจ้าของบริษัท ธรรมนัสการ์ด จำกัด กล่าวอีกว่า ที่ตนไปมอบตัวที่ศาลธัญบุรี เพราะหลังจากที่ออกหมายจับก็ต้องไปรายงานตัว พร้อมทั้งขอความเป็นธรรมว่าทำไมไม่ออกหมายเรียก หรือเรียกไปพูดคุยกันดีๆ ตนก็มีที่อยู่ชัดเจน มีหน้ามีตาในสังคม แต่ศาลไม่สามารถถอนหมายจับได้ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้หลบหน้าสื่อมวลชน แต่ต้องการไปพูดในที่เกิดเหตุมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าพร้อมจะเยียวยาช่วยชาวบ้านเต็มที่ และยืนยันว่าจะต้องเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น เนื่องจากซื้อไว้เพื่อทำธุรกิจ ซึ่งจะต้องจ่ายเงินอีกนับหมื่นล้านบาทในการลงทุน


