ทหารไทยรวบ3สายลับเขมร-เวียดนาม
ตำรวจสนธิทหารศรีสะเกษไล่จับกุม 3 สายลับเขมรและเวียดนามขณะลักลอบสำรวจพิกัดที่ตั้งทหารไทยที่บ้านภูมิซรอล
ตำรวจสนธิทหารศรีสะเกษไล่จับกุม 3 สายลับเขมรและเวียดนามขณะลักลอบสำรวจพิกัดที่ตั้งทหารไทยที่บ้านภูมิซรอล
พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ พร้อมด้วย พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษและคณะนายทหารสังกัดกองกำลังสุรนารี ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้ร่วมกันทำการสอบสวน 3 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ชาวเวียดนามและชาวไทยศาสนาอิสลาม ซึ่งถูกตร.สภ.กันทรลักษ์และทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ไล่จับกุมได้ที่บริเวณถนนสายกันทรลักษ์ -เขาพระวิหาร ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า 4ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ชว-1901กรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะแอบลักลอบเข้ามาหาพิกัดที่ตั้งของทหารไทยและสำรวจบังเกอร์ของชาวบ้านที่บ้านภูมิซรอลต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.54 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากว่า พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 พ.ท.พยัคฆพล คุ้มแสงผช.หน.ฝ่ายข่าว กองกำลังสุรนารี พ.ท.ธนูศิลป์ จังอินทร์ นายทหารการข่าวกองกำลังสุรนารี และได้สืบทราบว่าได้มีกลุ่มบุคคลซึ่งมีคนไทยร่วมอยู่ด้วย ได้เข้ามาในประเทศไทยเพื่อกระทำความผิดและทำการสอดแนมเพื่อโจรกรรมข้อมูลฐานที่ตั้งทหารฝ่ายไทยตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา ตามวันเวลาที่เกิดเหตุข้างต้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถูกจับกุมได้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนชื่อ นายสุชาติ มูฮำหมัด สัญชาติไทยเชื้อชาติไทย ศานาอิสลาม นายอึ้ง กิมไทย สัญชาติกัมพูชา เชื้อชาติกัมพูชา ศาสนาพุทธ และนายเหวียง เติ้งยัง สัญชาติเวียดนาม เชื้อสายเวียดนาม ศาสนาพุทธได้พากันเข้ามาที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์จ.ศรีสะเกษ โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้าสีดำ สี่ประตู หมายเลขทะเบียน ชว 1901 กทม. โดยมีนายสุชาติเป็นคนขับ
ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวอีกว่า ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ทำการสอดแนมฐานที่ตั้งทางทหารของทหารพรานที่ตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชาที่บ้านภูมิซรอลตลอดจนสำรวจหลุมบังเกอร์ของชาวบ้านที่ทางราชการทหารได้จัดทำไว้ให้ชาวบ้านได้ใช้เพื่อหลบกระสุนปืนใหญ่ในยามสงครามซึ่งจากการตรวจค้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพบ แผนที่ทางทหารของประเทศกัมพูชามาตราส่วน 1ต่อ 50,000 (หมายความว่า 1ช่องในแผนที่เท่ากับภูมิประเทศจริง 1 กม.) และแผนที่ประเทศไทยมาตราส่วน 1ต่อ 1,200,000 โดยในแผนที่ประเทศไทยพบหลักฐานการจดข้อความพิกัด หมายเลข10 หลัก ที่รู้จักกันในกลุ่มของผู้ต้องหาอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนและเครื่องมือสื่อสารเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่องและจากการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน
นอกจากผลจากการตรวจสอบพบสารเสพติดประเภทแอมเฟตามีนเจือปนในปัสสาวะของนายสุชาติและนายอึ้ง ซึ่งยอมรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนจริงจึงได้ตั้งข้อหา นายสุชาติ มูฮำหมัด ผู้ต้องหาที่ 1 ว่าร่วมกันกระทำการใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 คือ นายอึ้ง กิมไทย ได้ตั้งข้อหาว่าร่วมกันกระทำการใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และผู้ต้องหาที่ 3นายเหวียง เติ้งยัง ได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันกระทำการใด ๆเพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งมอบให้ พ.ต.ท.ประยุทธ ทับทิมไสย์ รองผกก.(สส.)สภ.กันทรลักษ์ และ พ.ต.ต.สังวร วันทะวี พงส.(สบ.2) ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


