posttoday

สุวิทย์ยืดอก"พร้อมเป็นนายกฯ คนกลาง"

06 มิถุนายน 2554

"สุวิทย์ คุณกิตติ" หัวหน้าพรรคกิจสังคม ให้สัมภาษณ์พิเศษ โพสต์ทูเดย์ โดยระบุว่าหากพรรคใหญ่หาจุดลงตัวตำแหน่งนายกฯไม่ได้ เขาก็พร้อมเป็นนายกฯคนกลาง

"สุวิทย์ คุณกิตติ" หัวหน้าพรรคกิจสังคม ให้สัมภาษณ์พิเศษ โพสต์ทูเดย์ โดยระบุว่าหากพรรคใหญ่หาจุดลงตัวตำแหน่งนายกฯไม่ได้ เขาก็พร้อมเป็นนายกฯคนกลาง

โดย...ทีมข่าวการเมือง

กล่าวอย่างไม่เขินอายถึงความพร้อมเป็น นายกรัฐมนตรีคนกลาง หากการเมืองถึงจุดตีบตัน เมื่อ 2 พรรคการเมืองใหญ่ระหว่างประชาธิปัตย์และเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลและนำความปรองดองสมานฉันท์มาสู่การเมืองไทยได้

สุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม พรรคการเมืองขนาดเล็กที่กล้าประกาศท่ามกลางกระแสหนุนนายกรัฐมนตรีจากขั้วที่ 3

@จุดยืนของพรรคในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลเป็นอย่างไร

คงต้องดูกันสักพัก และเร็วเกินไปที่จะบอกว่าพรรคจะไปข้างไหน แต่แนวทางที่ชัดเจนของพรรค คือ อยากจะสร้างความสามัคคีและต้องการให้การเมืองเดินหน้าไปได้ ที่จะให้มีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศหลังเลือกตั้งแล้วเสร็จ ที่สำคัญ นโยบายและแนวทางของพรรคที่จะไปร่วมรัฐบาลต้องสอดคล้องและเป็นที่ยอมรับได้

@ถ้าการเมืองถึงทางตัน พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนกลางหรือไม่

วันนี้ทำอะไรก็ได้ ส่วนตัวดำรงตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบมามากมาย จึงไม่ยึดติดกับตำแหน่ง เคยมีแต่ถอนตัวจากร่วมรัฐบาล แต่ถ้ามีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนกลางก็พร้อม เพราะอยากนำนโยบายและประสบการณ์ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เศรษฐกิจ ต่างประเทศ หรือปัญหารากหญ้า เพราะตัวเองก็เป็นมาทุกตำแหน่ง ยกเว้นนายกรัฐมนตรีตำแหน่งเดียวเท่านั้นที่ยังไม่เคยเป็น กับตำแหน่งประธานรัฐสภา

@มั่นใจและคาดหวังที่นั่งในสภาเท่าไหร่

ยอมรับว่าหนักใจ พื้นที่สื่อส่วนใหญ่ให้กับพรรคใหญ่ พรรคเล็กมีพื้นที่ในหน้าสื่อน้อย ดังนั้นการเข้าถึงประชาชนจึงเสียเปรียบ แต่ก็ต้องทำงานกันอย่างหนักแม้จะเสียเปรียบ โดยเฉพาะต้องเดินทางไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลกระหว่างวันที่ 19-29 มิ.ย.นี้ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จึงทำให้ลูกพรรคขาดผู้หลักผู้ใหญ่ไปช่วยหาเสียง และทำให้มีเวลาหาเสียงน้อยกว่าพรรคอื่น นี่คือจุดอ่อน

สุวิทย์ยืดอก"พร้อมเป็นนายกฯ คนกลาง"

แต่ก็ภาคภูมิใจที่ได้ทำงานนี้ แม้จะทำให้พรรคมีเวลาน้อยในการรณรงค์หาเสียง แต่สุดท้ายเชื่อว่าอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนว่าจะเลือกพรรคไหน เพระเชื่อมั่นว่าตัวผมมีความพร้อม ซึ่งถ้าประชาชนต้องการคนมีประสบการณ์ทำงานจริง ก็ต้องเลือกพรรคกิจสังคม

@พรรคไม่มี สส.เก่าจะเสียเปรียบหรือไม่

ไม่เสียเปรียบ เพราะมั่นใจว่าคนเบื่อการเมืองแบบเก่าๆ และพรรคพยายามคัดเลือกดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในพรรค เป็นบุคคลที่มีความสามารถสูง และเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ไม่เคยอยู่ในวงการการเมืองมาก่อน นี่คือจุดแข็งของพรรคกิจสังคม

@นโยบายประชานิยมของพรรคเป็นอย่างไร

นโยบายประชานิยมของพรรคเกิดขึ้นมาก่อนแล้วตั้งแต่สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มีโครงการ “นโยบายเงินผัน” ที่ให้ประชาชนได้ใช้รถเมล์หรือรถไฟฟรี และเป็นต้นฉบับของนโยบายประชานิยมในปัจจุบัน หรือแม้แต่โครงการกองทุนหมู่บ้านสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นนโยบายที่หยิบยืมจากพรรคกิจสังคมซึ่งตัวเองได้เข้าไปดูแล ซึ่งเวลานี้ผ่านมา 10 ปี ก็ได้พัฒนาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว พร้อมกับได้ต่อยอดเป็นโครงการเอสเอ็มแอลหมู่บ้าน

แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านและค่าตอบแทนของกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ดังนั้นหากได้เป็นรัฐบาลจะเพิ่มใน 2 ส่วนนี้ อย่างน้อยกรรมการกองทุนน่าจะได้ค่าตอบแทน 1,000 บาทต่อคน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน พร้อมกับจะยกระดับให้เป็นธนาคารหมู่บ้าน

@หากร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะเลือกอยู่กระทรวงเดิม

คิดว่าจะอยู่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะอยากสานต่อโครงการน้ำชลประทาน ระบบท่อนำน้ำจากเขื่อนน้ำงึมผ่านเข้ามาใช้ เพื่อส่งไปถึงไร่นาของเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โครงการนี้หลังดำเนินการ 11 จังหวัดแล้ว ก็จะเพิ่มอีก 9 จังหวัด ให้ครบ 20 จังหวัดภาคอีสาน ถ้าโครงการดังกล่าวเสร็จจะแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ดินเค็ม และที่สำคัญเกษตรกรมีน้ำต้นทุนต่ำในการเพาะปลูก ปลูกพืชได้ตลอดปี

และที่อยากอยู่กระทรวงนี้ต่อ เพราะต้องการสานต่อการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชาที่กระทบต่อดินแดนและอธิปไตยไทยต่อไป ที่สำคัญ หากมีการเปลี่ยนตัวผู้เจรจาก็จะกระทบต่อความต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นจะเสียเปรียบ หรือเป็นรองฝ่ายกัมพูชาที่มีระดับรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ทำเรื่องชายแดนมากว่า 30 ปีทั้งนั้น

@คาดหวังต่อจำนวน สส.กี่คน

คิดว่า 5 คนเป็นอย่างน้อย 

ข่าวล่าสุด

4 หน่วยงานลุย "สะพานสมุย" พ่วงน้ำ-ไฟ-เน็ต แก้ปัญหาระยะยาว