เลือกตั้งส่อสะดุดกกต.ไร้อำนาจออกประกาศรองรับกม.ลูก
เลือกตั้งส่อสะดุดหลัง กกต. พบรัฐธรรมนูญลืมเขียนให้อำนาจประกาศรองรับกฎหมายลูก กกต.-พรรคการเมือง ส่งผลให้การยุบสภาอาจต้องยืดออกไป เนื่องจากต้องส่งกฎหมายลูกเข้าสภาพิจารณาก่อน
เลือกตั้งส่อสะดุดหลัง กกต. พบรัฐธรรมนูญลืมเขียนให้อำนาจประกาศรองรับกฎหมายลูก กกต.-พรรคการเมือง ส่งผลให้การยุบสภาอาจต้องยืดออกไป เนื่องจากต้องส่งกฎหมายลูกเข้าสภาพิจารณาก่อน
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยอมรับผ่านโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เปิดช่องให้กกต.ออกประกาศแทนการออกกฎหมายลูกรองรับการเลือกตั้งได้ทันที ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาและไม่สามารถออกกฎหมายลูกได้ทัน กำลังมีปัญหา
แม้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 วรรคท้าย ระบุว่า ในกรณีที่ไม่สามารถออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญรองรับการเลือกตั้งได้ภายในหนึ่งปี ให้เป็นอำนาจกกต.สามารถออกประกาศได้นั้น ปรากฎว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 7 วรรคสอง เขียนไว้ให้กกต.ออกประกาศแทนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และสว.เท่านั้น
สดศรี
ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไป นอกจากต้องออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และสว.แล้ว ยังต้องมีการออกกฎหมายเกี่ยวข้องอีกสองฉบับด้วย คือ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 7 วรรคสอง จะมีปัญหาในทางปฏิบัติอย่างยิ่ง เพราะกฎหมายสามฉบับต้องเดินไปด้วยกัน จึงไม่ทราบว่า ผู้ร่างรธน.ลืมเขียนลงไปหรือไม่ มีความผิดพลาดทางเทคนิคอย่างไร
นางสดศรี กล่าวว่า เดิมที กกต. ได้ยกร่างพ.ร.บ.สามฉบับแก้ไขเสร็จแล้ว จะส่งไปที่ครม.นำส่งรัฐสภาพิจารณาแก้ไข แต่สมมติว่านายกฯตัดสินใจยุบสภาภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า จะทำกฎหมายลูกไม่ทัน ทีนี้วรรคสองให้ออกประกาศเฉพาะกม.เลือกตั้งส.ส.สว.เท่านั้น ทั้งที่กฎหมายลูกสามฉบับต้องเดินไปด้วยกัน
"เจ้าหน้าที่กกต.กังวลมาก จึงจะทำหนังสือถึงฝ่ายการเมืองถึงปัญหาดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามหากสภายังไม่ยุบ น่าจะจัดการประชุมร่วมกันสองสภาแก้กฎหายมลูกสามฉบับได้ทัน เพราะก่อนหน้านี้กกต.เคยประชุมพรรคการเมืองได้สอบถามหากให้สภาออกกฎหมายลูกมีความพร้อมหรือไม่ ซึ่งทุกพรรคบอกสามารถทำได้ภายในหนึ่งเดือน"นางสดศรี กล่าว
ขณะนี้มีเสียงวิจารณ์ว่า หาก กกต.ออกประกาศจะเป็นการเอื้อให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งได้เปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริง การออกประกาศหรือการออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็เป็นหน้าที่กกต.ดำเนินการส่งให้ครม.เพื่อเสนอสภาพิจารณามาก่อนอยู่แล้ว
นางสดศรี กล่าวถึงทางออกว่า ถ้าในกรณีนายกฯประกาศยุบสภาโดยเร็วออกกฎหมายลูกไม่ทัน กกต.ก็มีการหารือกันว่า อาจจัดทำบทเฉพาะกาลได้หรือไม่ แต่เกรงว่าจะมีปัญหาในการตีความ เพราะการเลือกตั้งเสร็จแล้วมีคนแพ้เลือกตั้งยื่นต่อศาลรธน.ว่าประกาศกกต.ไม่ชอบ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ กกต.จึงต้องเตรียมการขอแก้ประกาศในกฎหมายลูกสองฉบับอาจส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนว่ากกต.ทำได้หรือไม่ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งในการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้
อนึ่ง มาตรา7 ให้รัฐสภาดำเนินการพิจารณาและให้ความเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เพือ่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญนี้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้
ขณะที่ วรรคสอง ระบุว่า ในกรณีที่ยังไม่สามารถดำเนินการตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จ และต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญนี้เพื่อใช้บังคับการเลือกตั้งนั้น และให้ข้อกำหนดตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้งใช้บังคับแทนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาในส่วนที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญนี้
นางสดศรี กล่าวว่า จะมีการหารือกับนายกรัฐมนตรีถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 11 มี.ค. และจะรายงานถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งเบื้องต้นการแบ่งเขตเลือกตั้ง พบว่า มีปัญหาใน 23 จังหวัดเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นและลดลงของประชากร จึงต้องพิจารณารอบคอบว่า 23 จังหวัดจะมีการแบ่งเขตในแต่ละจังหวัดออกมาเป็นจำนวนกี่เขต ส่วนอีก 53 จังหวัดมีการแบ่งเขตเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ในกรณีของจังหวัดบึงกาฬ แม้จะมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาให้เป็นจังหวัดแล้ว แต่เนื่องจากต้องการกำหนดการแบ่งส่วนราชการซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร และกกต.เห็นว่าคงไม่ทันต่อการกำหนดมาเป็นจังหวัดมในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงเห็นว่าให้ถือเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดหนองคายไปก่อน