แจงคดียิงนักข่าวญี่ปุ่นใกล้เสร็จสิ้น

พล.ต.ต.อำนวย  แจงคดียิงนักข่าวญี่ปุ่นใกล้เสร็จสิ้น  เตรียมส่งรายละเอียดสถานทูตปลายสัปดาห์นี้   บอกดีเอสไอมั่วนิ่มข้อมูลปืนที่ใช้ยิง  
         
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการสอบสวนและเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย  กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สรุปผลการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ว่า  เกิดจากอาวุธปืนอาก้าเซกาเซ่ หรือไม่ก็อาวุธปืน 05 นาโต้ ว่า กรณีนี้ดีเอสไอแต่งตั้ง  พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักนิติวิทยาศาสตร์ (ผบช.สนว.) เป็นที่ปรึกษาดีเอสไอผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เนื่องจาก พล.ต.ท.อัมพร  มีความรู้เรื่องวัตถุระเบิด และอาวุธปืน  แม้จะเกษียณแล้ว แต่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญยังมีอยู่เพราะมีการจดทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญให้กับศาล  ซึ่งความเห็นของ พล.ต.ท.อัมพร นั้นหากได้รับการพิสูจน์ก็ยังมีน้ำหนักในการรับฟัง หากมีการไปตรวจจริงก็สามารถทำความเห็นได้เหมือนกับเจ้าหน้าที่ปกติได้ 

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า  ดีเอสไอส่งเรื่องมาให้ บช.น.สอบสวนโดยระบุ  เชื่อว่าอาจเป็นการกระทำที่เกิดจากทหาร จากทั้งหมด 91 ศพ ส่งมาให้ทำสำนวนแค่13 ศพ เมื่อส่งมาทำแล้วพบว่า  เป็นการเชื่อแบบลอยๆโดยบอกว่าตอนเกิดเหตุกล้องหันหน้าไปทางทหาร จึงเชื่อว่ากล้องหันหน้าไปทางนั้นก็น่าจะถูกทหารยิง  ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายในกล้อง แต่ปรากฏว่ากล้องถูกปิดหน้ากล้องไปก่อนแล้ว ขณะถูกยิงกล้องไม่ทำงาน ถูกยิงตรงไหนก็ไม่รู้จะหันไปทางไหนก็ได้ อาจจะครึ่งชั่วโมงจากนั้นแล้วถูกยิงก็เป็นได้

"เพราะฉะนั้นข้อสันนิษฐานไม่ใช่ ก็มีการไปสอบเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้คืนวันนั้นก็มีชายชุดดำใช้ปืนอาก้ายิง ยิงแล้วไปแอบต้นเสา เมื่อทางดีเอสไอไปสอบ พล.ต.ท.อัมพร พบว่าน่าจะเป็นอาก้า ก็จะขอเรื่องคืนจากตน คล้ายตัวเองไม่ติดใจ คิดว่าไม่ใช่ทหารจึงจะเอาคืน ซึ่งก็ยังไม่คืนแต่ต้องสอบให้หมดก่อนจึงค่อยคืน คือ ตัวเองสงสัยเอง และหมดข้อสงสัยเองโดยตำรวจยังไม่ทันทำอะไร ใช้ภาษาชาวบ้านคือ มั่ว  " พล.ต.ต.อำนวย  กล่าว