'ภูมะเขือ'...เดือด ทหารปัดข่าว-ชาวบ้านผวา
...ทีมข่าวภูมิภาค
“
ภูมะเขือ” เป็นพื้นที่ซึ่งจะได้ยินทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่วางกำลังเผชิญหน้าในพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษภูมะเขือ หรือที่ฝ่ายกัมพูชาเรียกว่า พนมตร๊วบ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของปราสาทพระวิหาร ห่างจากปราสาทประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งทหารทั้งสองฝ่ายวางกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ พื้นที่นี้ถือว่ามีความสำคัญทางทหารที่ฝ่ายไทยยึดครองได้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นยอดเขาสูง มองเห็นวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ และถนนขึ้นสู่เขาพระวิหาร ที่มาจากบ้านโกมุยฝั่งกัมพูชาได้ จึงเป็นที่หมายให้ฝ่ายกัมพูชาพยายามรุกไล่ทหารไทยที่ตั้งฐานบนยอดเขา หวังจะยึดพื้นที่แห่งนี้ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดเหตุปะทะกันมาแล้วหลายครั้ง
และนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เสียงปืนบนภูมะเขือก็ดังขึ้นตลอด โดยเฉพาะช่วงเช้ามืดวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาส่งกำลังเข้ามาโจมตีฐาน และจากนั้นเสียงปืน เสียงระเบิดจากการปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่ายบนภูมะเขือก็มีเป็นระยะๆ
ช่วงเช้าวันที่ 15 ก.พ. ไม่กี่ชั่วโมงหลังที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี มีมติให้ไทยและกัมพูชาเจรจาระดับทวิภาคี เพื่อแก้ปัญหาพิพาทที่เกิดขึ้น กองกำลังกัมพูชาก็บุกเข้าโจมตีที่มั่นฝ่ายไทยบนภูมะเขืออีกครั้งหนึ่ง
โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงจรวดอาร์พีจี และปืน ค. 84 ใส่ทหารไทย การปะทะครั้งนี้เกิดขึ้น 5 นาที ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และอีก 4 นายบาดเจ็บเล็กน้อย
ทหารซึ่งอยู่ในพื้นที่เผชิญหน้านายหนึ่งเปิดเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้จะได้ยินเสียงปืนดังแทบทุกคืน โดยเฉพาะช่วงดึกๆ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการยิงเข้ามาของทหารกัมพูชาที่ต้องการยั่วยุให้ฝ่ายไทยตอบโต้
“
คืนวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงจรวดบีเอ็ม 21 ใส่ทหารไทยหลายนัด แต่กระสุนตกอยู่หน้าแนวไม่ได้ตกใส่บ้านเรือนชาวบ้าน ฝ่ายไทยจึงไม่ได้ตอบโต้กลับ”นายวัชพงษ์ ประโยธิน ชาวบ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ออกไปกรีดยางพาราใกล้กับบริเวณภูมะเขือเผยว่า เสียงปืนบนภูมะเขือดังขึ้นทุกคืน และเมื่อช่วงเวลา 4 นาฬิกาวานนี้ ก็ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้ง ชาวบ้านยังต้องนอนผวาอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยมั่นใจสถานการณ์เลย
นางรัชนี พงษ์สิน อายุ 55 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.รุง อ.กันทรลักษ์ ก็ยืนยันว่า นับตั้งแต่ทางการอนุญาตให้ชาวบ้านที่หนีภัยการสู้รบกลับเข้ามายังภูมิลำเนา ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นทุกคืน แต่ถึงจะกลัวอย่างไรก็ยังพออุ่นใจเนื่องจากกระสุนปืนใหญ่ไม่ตกเข้ามาในเขตหมู่บ้านอีก
ด้าน พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุ เป็นการปะทะกันด้วยอาวุธประจำกายของทหาร เช่น ระหว่างการลาดตระเวน แต่ยืนยันว่าไม่มีการใช้อาวุธหนักเข้าโจมตี เสียงระเบิดที่ได้ยินขึ้น อาจเป็นไฟป่าที่ลุกไหม้โดนกับระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้
“
ไม่มีการใช้อาวุธหนักแต่อย่างใด ทหารในพื้นที่ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดว่า หากไม่มีการโจมตีด้วยอาวุธหนัก เราจะเลี่ยงพยายามไม่ตอบโต้เขา และชี้แจงประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจอย่าตื่นตระหนก”

