“ธรรมนัส” สวมเสื้อต้อนรับ “ไชยา” หลังออกจาก เพื่อไทย ซบ กล้าธรรม
“ธรรมนัส” สวมเสื้อต้อนรับ “ไชยา” หลังออกจาก เพื่อไทย ซบ กล้าธรรม ลั่นไม่มีงูเห่าในกล้าธรรม
เวลา 14.30 น. วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เปิดตัวและสวมเสื้อพรรคให้กับ นายไชยา พรหมมา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร , นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ อดีตสส.ศรีสะเกษ เขต 4 , นาง นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร อดีตสส.ศรีสะเกษ เขต 9 , นายคุณากร มั่นนทีรัย อดีต สส.นนทบุรี เขต 6 , นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร เป็นอดีต สส.นครนายก , นายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร และนายศักดา คงเพชร ที่เดินทางมาร่วมเป็นสมาชิกพรรคและร่วมอุดมการกับพรรคกล้าธรรม
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ก็เปิดบ้านครอบครัวกล้าธรรมต้อนรับพี่ๆ หลายคน อย่าง นายไชยา ซึ่งถือว่าเป็นพี่ที่ตนให้ความเคารพในช่วงที่ทำงานด้วยกันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เห็นฝีไม้ลายมือของนายไชยา โดยเฉพาะในเรื่องของการปราบปรามสินค้าเถื่อน อย่างที่เป็นข่าวที่ทำให้ราคาสุกรสูงขึ้น คือการปราบหมูเถื่อน ซึ่งเป็นผลงานของนายไชยา
ดังนั้นก็ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ ตนเชื่อว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่มีใครปฏิเสธว่าท่านรองทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงประกอบกับช่วงเวลาที่ผ่านมาในช่วงที่เราเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นคนที่ตนให้ความเคารพ จึงเชิญนายไชยา มาร่วมอุดมการสานต่องานสำคัญๆ ที่ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร ที่สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ก็ทำไว้ดี
มีพี่น้องข้าราชการหลายคนที่ถามว่าเมื่อไหร่นายไชยา จะกลับมา แต่บังเอิญไปเป็นรองประธานสภาก่อน ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดีสมบูรณ์แบบ และได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ของภาคท้องถิ่นที่จังหวัดบ้านเกิดของนายไชยา คือหนองบัวลำภู
ส่วนทาง นพ.ภูมินทร์ และ นางนุชนาช ก็เป็นนักการเมืองที่อยู่ในสภา ก็ถือว่าเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญของสภา และใส่ใจในเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วประชาชนคนฐานราก ก็ยึดอาชีพการเกษตร ซึ่งเราก็ได้รับความไว้วางใจจากทั้งสองมาร่วมอุดมการและทำงานด้วยกัน
ต่อมา นายคุณากร หรือ ไวท์ อดีต สส.นนทบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ก็ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ตนอยากมาร่วมอุดมการ เป็นทนายที่ตนได้ลงพื้นที่ร่วมกันบ่อย ซึ่งใส่ใจเรื่องน้ำของพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นที่ไม่ชอบพูดแต่ชอบทำ ก็เห็นว่าน้องไวท์จะทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาเป็นผู้แทนของพี่น้องชาวจังหวัดนนทบุรีได้สมบูรณ์แบบ อยากทำงานก็ต้องทำงาน ที่ผ่านมาก็ประสานตนมาโดยตลอด
อีกหนึ่งท่าน นายวุฒิชัย เป็นอดีต สส.จังหวัดนครนายกมาหลายสมัย วันนี้ก็พาลูกชาย นายปิยวัฒน์ มาร่วมอุดมการกัน โดยจังหวัดนครนายกตนกับเพื่อนรัก นายหิมาลัย ผิวพรรณ ก็โตมาจากที่นั่น จบจากโรงเรียนนายร้อย ในสมัยที่ย้ายจากถนนราชดำเนินไปจังหวัดนครนายก
เพราะจังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่สร้างคนได้เป็นนายก มีพี่น้องหลายคนจบจาก จปร.ก็เป็นนายกหลายคน นครนายกก็ถือเป็นเมืองที่น่าอยู่ เป็นเมืองที่น่าพัฒนา ขนาดกำลังพอดี 2 เขต มีประชากรกว่า 400,000 คน เป็นเมืองที่มีผลไม้ดี ภาคการเกษตรตนก็ได้ลงพื้นที่ มะยงชิดอร่อยที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังอีก 1 คนในสมัยที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญ เรื่องน้ำ เราก็ร่วมอุดมการมา โดยมีนายศักดา เป็นรองประธานฯ และได้ร่วมอุดมการมาหลายเรื่อง ยังเสียนายศักดา ว่าหายไปไหนช่วงหนึ่ง เนื่องจากกลับไปทำการเกษตรที่บ้านเกิด จังหวัดร้อยเอ็ด จึงชวนมาร่วมอุดมการณ์ด้วยกัน
สรุปแล้ววันนี้ทั้ง 7 คน ก็จะมาร่วมอุดมการกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งตนมีความมั่นใจว่าทั้ง 7 คน เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพตามที่ตนได้แนะนำไป ตนขอต้อนรับทั้ง 7 คนเข้าสู่ครอบครัวกล้าธรรม
เมื่อถามว่าคาดว่าจะได้เก้าอี้ สส.มากน้อยแค่ไหน ร้อยเอก ธรรมนัส เผยว่า บุคคลที่มาอยู่ตรงนี้คือคนทำงาน คนติดดิน ที่อยู่กับชาวบ้าน ซึ่งตนก็ต้องการคนที่มีบุคลิกที่อยู่กับชาวบ้านติดดินและรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องในพื้นที่แล้วนำมาเป็นโจทย์ในการแก้ไขปัญหา ตนมีความมั่นใจว่าทุกคนจะกลับมาสู่สภาฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เมื่อถามว่าในพื้นที่อีสานที่เป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยจะไปทำกันหรือไม่ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า การเลือกตั้งหากเราไปคิดแบบนี้ ประชาชนก็ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเรา เลือกตั้งคือสนามรบ เมื่อรบเสร็จแล้ว เลือกตั้งเสร็จแล้ว รู้ผลแล้ว กกต. รับรองก็ทำงานร่วมกันต่อ
เมื่อถามต่อว่าจะมีบ้านใหญ่เข้ามาร่วมอุดมการกับพรรคกล้าธรรมอีกหรือไม่ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า ก็ยังจะมีอีก แต่ภายใต้กฎหมายตนกำลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายๆ คนที่โทรมาหาตน แต่เนื่องจากตนเพิ่งกลับจากต่างประเทศ เมื่อกลับมาก็ลงพื้นที่จึงไม่ค่อยได้คุยกับหลายคนที่มีอุดมการทางการเมือง
ด้านนายไชยา ระบุว่า จริงๆ แล้วตนต้องยอมรับว่าเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมทำงานกับกล้าธรรม เพราะเห็นถึงความตั้งใจที่พรรคกล้าธรรมมีนโยบายที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของภาคการเกษตร ซึ่งตนมาจากพื้นฐานที่นั่น เป็นผู้แทนราษฎรมา 9 สมัย ก็อยู่เกษตรกรชาวไร่ชาวนาและจังหวัดหนองบัวลำภูก็เป็นจังหวัดที่มีตัวเลขรายได้ทางเศรษฐกิจลำดับท้ายๆ ของประเทศ
เพราะฉะนั้นตนจึงคิดว่าปัญหาของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข ที่ผ่านมามักละเลยปัญหาของภาคอีสาน จะเห็นทางร้อยเอก ธรรมนัส และพรรคกล้าธรรมในฐานะที่รับผิดชอบกระทรวงเกษตรฯ ถือเป็นนโยบายสำหรับรากหญ้าได้อย่างแท้จริง ที่จะยกระดับชีวิตของพวกเขา ตนคิดว่าตรงนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาและเป็นความหวังของพี่น้องภาคอีสานได้ จึงตัดสินใจมาร่วมกันทำงานกับพรรคกล้าธรรม
เมื่อถามว่าจะทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อย่างไร นายไชยา ระบุว่า ตนคิดว่าคงต้องอธิบายด้วยเหตุและผล และประชาชนก็อยู่กับตนมานานคงเข้าใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ได้ตัดสินใจเพื่อตัวเอง แต่เป็นการตัดสินใจเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่เฉพาะจังหวัดหนองบัวลำภูเท่านั้น แต่เป็นจังหวัดที่ดูแลรับผิดชอบภาคอีสานทั้งหมด
เมื่อถามต่อว่าจะสู้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า สู้ได้อยู่แล้ว สู้กันมาหลายยกแล้ว เพราะฉะนั้นไม่เป็นปัญหาอุปสรรค และการเลือกตั้งก็ต้องต่อสู้ การเป็นนักรบเป็นนักสู้ก็ต้องต่อสู้กัน ในทางการเมืองก็อยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายคนมองว่าเป็นงูเห่าจะชี้แจงอย่างไร นายไชยา ระบุว่า ไม่หรอก หากจะกล่าวหาคำนั้นตนคิดว่า ทำไมตนต้องมาเลือกอยู่พรรคกล้าธรรม ตนไปอยู่พรรคที่อยู่ในกระแสไม่ดีกว่าหรือ แต่ที่ตนต้องเลือกพรรคกล้าธรรม เพราะพรรคกล้าธรรมเป็นพรรคที่สามารถเข้าได้กับทุกฝ่าย
จากวันนี้ไปตนคิดว่ามันเป็นเรื่องของการจับมือในการทำงาน ไม่ว่าจะพรรคการเมืองไหน เพราะฉะนั้นความขัดแย้งในทางการเมืองตนคิดว่าวันนี้เราไม่ต้องการความขัดแย้ง และตนเห็นว่าพรรคนั้นสามารถที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ อย่าพูดถึงว่าตนเป็นงูเห่าเลย แต่ตนคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเพื่อประชาชนภาคอีสาน
เวลาตนกลับไปพื้นที่ชาวบ้านในหนองบัวลำภูก็ถามว่าที่รับปากเอาไว้ตอนเป็นรัฐบาล 2 ปี มีอะไรที่ค้างคาใจประชาชนอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ดิจิทัลวอลเล็ทที่ประชาชนยังทวงถาม เพราะฉะนั้นปัญหาหลายอย่างภาคการเกษตร เช่น เงินช่วยเหลือเกษตรกร
เราเป็นรัฐบาลมา 2 ปี ก็ยังตอบคำถามเขาไม่ได้ พื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูเป็นพื้นที่ที่ปลูกอ้อยมากที่สุด เพราะภาคอีสานมีอุตสาหกรรมอ้อย วันนี้ไปเชิญชวนเกษตรกรลดการเผาเพื่อลดพีเอ็ม 2.5 และไปรับปากกับเขาว่าจะชดเชย แต่วันนี้ก็ยังรอคำตอบอยู่ สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่สองปีมานี้เขาถามว่าไปรับปากกับเขาแล้วลืมเขาแล้วหรอ นั่นหมายถึงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องหาคนเข้าไปแก้ไขปัญหา คิดว่ากระทรวงเกษตรและความต้องการของพรรคกล้าธรรมที่รับผิดชอบกระทรวงนี้จะตอบโจทย์ของพี่น้องเกษตรกรได้
ขณะที่ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ดูหน้าพวกตนที่มาจากพรรคไทยรักษ์ไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย แสดงว่าพวกเราก็เป็นงูด้วยกัน เรื่องนี้ตนมองว่าไม่ใช่ และจริงๆ แล้วในการทำงานในครอบครัวตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย พวกตนที่นั่งอยู่ตรงนี้หลายคนก็ถือว่ามีบทบาทที่สร้างครอบครัวให้เติบโต ฉะนั้นคำว่างูเห่าในครอบครัวกล้าธรรมมันไม่ใช่
เมื่อถามว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคลงตัวหรือยัง ร้อยเอก ธรรมนัส เผยว่า เดี๋ยวค่อยคุยกัน ตนต้องรอพี่น้องตนมาให้ครบก่อน ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเป็นคนที่ไม่ชอบพูดเยอะ แต่ตนก็ไม่เคยมีวันหยุด
ด้าน นายไชยา กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่มีการต่อสู้ทางการเมืองค่อนข้างเข้มข้น และที่ผ่านมาพรรคการเมืองแต่ละพรรคก็ไปสัญญากับคนอีสานไว้เยอะ แล้วก็ได้คะแนนเสียงจากคนอีสานเป็นกอบเป็นกำ แต่พอเข้ามาสู่การบริหารประเทศ เขามักจะลืมคำที่เคยสัญญากับพี่น้องภาคอีสาน
เพราะฉะนั้นตนคิดว่าสิ่งที่พรรคกล้าธรรมได้เปล่งสัจจะวาจาไว้คือเป็นคนที่ทำจริง ปฏิบัติจริง และหวังผลที่จะแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง มันจึงตอบโจทย์ปัญหาพี่น้องภาคอีสาน เพราะฉะนั้นตนมีความมั่นใจว่าพื้นที่ภาคอีสานนั้นคงจะต้อนรับกับคนที่ตั้งใจในการทำงานเพื่อพี่น้องเกษตรกร


