posttoday

กกต.ไม่เสี่ยง“ตีความใหม่”ประชามติทางไปรษณีย์พร้อมเลือกตั้ง69

03 พฤศจิกายน 2568

กกต.ขอรอตีความก่อนเปิดทางประชามติผ่านไปรษณีย์ หลัง “ไอติม–พริษฐ์” เสนอแนวทางอำนวยความสะดวกประชาชนออกเสียงพร้อมเลือกตั้ง มี.ค.2569

KEY

POINTS

  • กกต. ยืนยันไม่เสี่ยงตีความกฎหมายเพื่อจัดทำประชามติทางไปรษณีย์พร้อมกับการเลือกตั้งล่วงหน้าในปี 2569 เนื่องจากกังวลว่าอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
  • ข้อเสนอดังกล่าวมาจากนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เพื่อแก้ปัญหาที่กฎหมายประชามติไม่มีบทบัญญัติรองรับการออกเสียงล่วงหน้านอกเขต ซึ่งต่างจากกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.
  • กกต. ชี้ว่าการออกเสียงประชามติทางไปรษณีย์สามารถทำได้ในวันออกเสียงจริงเท่านั้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับสำหรับการลงคะแนนล่วงหน้า

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยัน “ไม่เสี่ยงเกินกฎหมาย” ต่อข้อเสนอจัดประชามติทางไปรษณีย์ ระบุจะรอตีความข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ หลัง “พริษฐ์ วัชรสินธุ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เสนอให้เปิดช่องให้ประชาชนออกเสียงประชามติพร้อมการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2569

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต.จะไม่ดำเนินการใด ๆ ที่อาจเกินขอบเขตของกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีที่การเลือกตั้งและการทำประชามติถูกจัดขึ้นพร้อมกัน “บางเรื่องทำได้ในทางธุรการเพื่ออำนวยความสะดวก แต่ถ้ากฎหมายไม่ได้เปิดช่องไว้ เราจะไม่เสี่ยงแม้แต่นิดเดียว เพราะอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้”

นายแสวงชี้ว่า การทำประชามติทางไปรษณีย์ทำได้ในหลักการ หากเป็นการลงคะแนน “ในวันออกเสียงจริง” ไม่ใช่ “ล่วงหน้า” ส่วนกรณีต่างประเทศที่ใช้การลงคะแนนล่วงหน้าทางไปรษณีย์ ยังไม่มีบทบัญญัติรองรับในกฎหมายไทย

ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนี้ว่า จุดต่างสำคัญของ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. กับ พ.ร.บ.ประชามติ คือฉบับแรกเปิดทาง “เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต” ได้ชัดเจน แต่ฉบับหลังไม่มีบทบัญญัติให้ “ออกเสียงประชามติล่วงหน้านอกเขต” ทำให้ประชาชนบางส่วนอาจเสียสิทธิ เช่น คนที่เลือกตั้ง ส.ส. ล่วงหน้าในกรุงเทพฯ แต่อยู่ทะเบียนบ้านต่างจังหวัด ต้องเดินทางไปใช้สิทธิประชามติอีกครั้งในวันจริง

นายพริษฐ์เสนอให้ กกต.ใช้ “ช่องทางไปรษณีย์” เป็นทางออก โดยให้ประชาชนที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต รับซองออกเสียงประชามติที่หน่วยเลือกตั้งเดียวกันในวันเดียวกัน ยื่นคืนเจ้าหน้าที่เพื่อส่งกลับหน่วยนับคะแนนทางไปรษณีย์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ต้องแก้กฎหมายและอยู่ภายใต้กรอบมาตรา 47-48 ของ พ.ร.บ.ประชามติ

“สิ่งสำคัญคือการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ความสะดวกของหน่วยงานรัฐ” นายพริษฐ์กล่าว พร้อมระบุว่า พร้อมหารือกับ กกต. เพื่อร่วมออกแบบระบบที่ไม่กระทบต่อความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมาย

แม้ข้อเสนอนี้ยังไม่ถูก กกต.รับรอง แต่สะท้อนโจทย์ใหญ่ของการเลือกตั้งปี 2569 ว่าการทำประชามติพร้อมกันทั่วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร โดยไม่ลดทอนสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และไม่ขัดกับบทบัญญัติของกฎหมายที่ยังไม่สอดคล้องกันในปัจจุบัน.

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”