posttoday

“วันนอร์” เตรียมหารือรัฐบาลเร่งปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์

24 ตุลาคม 2568

“วันนอร์” เตรียมหารือรัฐบาลอนุทิน เร่งขับเคลื่อนมาตรการปราบสแกมเมอร์ หลังไทยผลักดันข้อมติสำเร็จในเวที IPU

KEY

POINTS

  • รัฐสภาไทยประสบความสำเร็จในการผลักดันข้อมติเรื่องการจัดการปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติให้เป็นวาระเร่งด่วนในที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU)
  • นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เตรียมหารือกับรัฐบาลเพื่อเร่งรัดมาตรการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์อย่างเป็นรูปธรรมในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าของข้อมติ
  • เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดีอีเอส ตำรวจไซเบอร์ และ ปปง. ดำเนินมาตรการเชิงรุกทั้งด้านการปราบปราม ป้องกัน และให้ความรู้แก่ประชาชน

การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) ครั้งที่ 151 ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ โดยประเทศไทยประสบความสำเร็จในการผลักดันข้อมติ “การจัดการปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ” ให้ได้รับการบรรจุเป็นระเบียบวาระเร่งด่วน (Emergency Item) ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำคัญของคณะผู้แทนรัฐสภาไทย และเป็นสัญญาณความร่วมมือของรัฐสภาทั่วโลกในการต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ข้อเสนอของไทยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกทุกประเทศโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน สะท้อนให้เห็นถึงการตระหนักร่วมกันว่าปัญหาสแกมเมอร์เป็นภัยระดับโลกที่ต้องเร่งแก้ไขร่วมกัน โดยเลขาธิการ IPU นายมาร์ติน จุนกอง ได้เน้นย้ำให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามข้อมตินี้อย่างจริงจัง

 

ประธานวันนอร์ระบุว่า คณะผู้แทนไทยจะจัดแถลงข่าวในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ เพื่อรายงานผลงานการประชุม IPU ต่อสาธารณชน และเตรียมหารือกับรัฐบาลที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เร่งรัดมาตรการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์อย่างเป็นรูปธรรม โดยไทยในฐานะเจ้าของข้อมติจำเป็นต้องแสดงบทบาทนำในการจัดการปัญหานี้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือในเวทีระหว่างประเทศ

 

นอกจากนี้ ประธานวันนอร์ยังเน้นย้ำว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส), กสทช., สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ต้องเร่งดำเนินมาตรการเชิงรุก ทั้งด้านการปราบปราม การป้องกัน และการให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการสแกมเมอร์อีกต่อไป

 

“ประเทศไทยแม้ไม่ใช่ศูนย์กลางของสแกมเมอร์ แต่ยังเป็นเส้นทางผ่านของเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ เราจึงต้องเริ่มจากการ ‘กวาดบ้านของเราให้สะอาด’ เพื่อให้ประเทศอื่นเห็นเป็นแบบอย่าง” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว พร้อมย้ำว่า หากไทยสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้สำเร็จ จะสร้างผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อประเทศไทยในระยะยาว.

 

ข่าวล่าสุด

เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ 2025 รอบรองฯ ไทยดวลอินโดฯ