posttoday

เปิดแฟ้มครม.7ต.ค.68 เคาะ“คนละครึ่งพลัส” วงเงิน 4.4 หมื่นล้าน

07 ตุลาคม 2568

ประชุม ครม. 7 ต.ค. นายกฯ อนุทิน นั่งหัวโต๊ะ ถกโครงการ “คนละครึ่งพลัส” กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี วงเงินรวม 4.4 หมื่นล้านบาท พร้อมเร่งสำรวจเยียวยาน้ำท่วมทั่วประเทศ

KEY

POINTS

  • ครม. พิจารณาโครงการ “คนละครึ่งพลัส” วงเงิน 44,000 ล้านบาท
  • กระทรวงการคลังเสนอใช้ทั้งงบกระตุ้นเศรษฐกิจและงบกลาง
  • เร่งสำรวจเยียวยาน้ำท่วมทั่วประเทศ เตรียมเสนอครม.ชุดต่อไป

“คนละครึ่งพลัส” กระตุ้นเศรษฐกิจ–เร่งแผนเยียวยาน้ำท่วม

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน มีหลายวาระสำคัญ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแผนบูรณาการงานของรองนายกรัฐมนตรีแต่ละคน

วาระใหญ่ “คนละครึ่งพลัส” 4.4 หมื่นล้านบาท

คาดว่าที่ประชุม ครม. จะพิจารณาโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งกระทรวงการคลังเสนอเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปี ระหว่างเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม 2568 โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะเสนอกรอบงบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท

ใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2569 และงบกลาง 19,000 ล้านบาท

ครอบคลุมผู้มีสิทธิกว่า 20 ล้านคน ส่งผลต่อ GDP ประมาณ 0.3–0.4%

ผู้มีรายได้อยู่ในระบบภาษีจะได้รับ 2,400 บาท

ผู้มีสิทธินอกระบบภาษีจะได้รับ 2,000 บาท

พร้อมเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1,700 บาท ครอบคลุมประชาชนรวมกว่า 33 ล้านคน

มาตรการนี้ถือเป็นหนึ่งใน “โครงการ Quick Win” ของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และสร้างแรงส่งให้กำลังซื้อฐานรากก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่

วาระบูรณาการงานรัฐบาล

อีกวาระหนึ่งที่คาดว่าจะถูกหยิบยกเข้าสู่การประชุม คือ “แผนบูรณาการงาน” ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีแต่ละคนไปกำกับและประสานงานในมิติสำคัญ เช่น เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และดิจิทัล เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีเอกภาพและลดความซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงาน

เรื่องเร่งด่วนยังไม่เข้าสู่วาระ — “เยียวยาน้ำท่วม”

แม้ยังไม่เข้าสู่วาระ ครม. สัปดาห์นี้ แต่หนึ่งในประเด็นที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เร่งรัด คือ การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั่วประเทศ

  • ครอบคลุมพื้นที่เสียหายตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึง 30 กันยายน 2568
  • ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 300,000–500,000 หลังคาเรือน
  • คาดใช้งบกลางหลายพันล้านบาทเพื่อชดเชยความเสียหาย
  • ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ ก่อนเสนอ ครม. ในสัปดาห์ถัดไป


 

วาระอื่นที่น่าสนใจประกอบด้วย

กระทรวงพลังงาน เสนอ ร่างบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมว่าด้วยโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (Enhanced Memorandum of Understanding on ASEAN Power Grid) รวมทั้งเสนอ ร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความมั่นคงทางปิโตรเลียมของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Petroleum Security)

สำนักเลขาธิการคณ รัฐมนตรี(สลค.) เสนอ แนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐในการเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเสนอ แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ

-เสนอ แนวทางดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ 1896/2568 ระหว่าง นายธนพร ศรียากูล ผู้ฟ้องคดีกับ คณะรัฐมนตรี และพวก รวม 3 คน ผู้ถูกฟ้องคดีเกี่ยวกับการอนุมัติรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68 ประจำปีการศึกษา 2568–2569
ของ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ

-รายงาน สรุปข้อมูลและข้อเสนอแนะขององค์กรอิสระ ได้แก่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

-เสนอ ร่างพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภา สมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่หนึ่ง 

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอรายงานรายชื่อ คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี
 

กระทรวงคมนาคม เสนอ แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการบินพลเรือน

สำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งผล คำพิพากษาศาลปกครองนครศรีธรรมราช ในคดีหมายเลขดำที่ 1322/2566 และหมายเลขแดงที่ 192/2568 ระหว่าง บริษัท ยูนิวนิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีกับ อธิบดีกรมป่าไม้ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการละเลยต่อหน้าที่ของหน่วยงานทางปกครอง

การประชุม ครม. วันที่ 7 ตุลาคม2568 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนมาตรการเศรษฐกิจและสังคมชุดใหญ่ของรัฐบาลอนุทิน ภายใต้กรอบเวลา “4 เดือนก่อนยุบสภา” ที่จะสิ้นสุด 31 มกราคม 2569 ซึ่งทุกโครงการล้วนมีนัยสำคัญทั้งเชิงเศรษฐกิจและการเมือง

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดแรก เมื่อ 30 กันยายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี นายกฯอนุทินมีมติสำคัญหลายประการ ก่อนปิดงบประมาณปี 2568 รวมวงเงินทั้งสิ้น 22,780 ล้านบาท ประกอบด้วย

เพิ่มเงินสวัสดิการแห่งรัฐ 850 บาทต่อเดือน

ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังและคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการฯ ให้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนไม่เกิน 13.4 ล้านคน ได้รับเงินเพิ่มอีก 850 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน (พฤศจิกายน–ธันวาคม 2568) รวมทั้งสิ้น 1,700 บาทต่อคน

มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ร้อยละ 0.07–0.08 ต่อปี ทั้งนี้จะใช้งบกลางปี 2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

ขยายเวลาประกาศพื้นที่มั่นคง 4 จังหวัดชายแดนใต้

ครม.มีมติตามข้อเสนอของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้ ขยายประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครอบคลุม 20 อำเภอ ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่

  • นราธิวาส: ยี่งอ สุไหงโก-ลก แว้ง สุคิริน
  • ปัตตานี: ยะหริ่ง ไม้แก่น กะพ้อ มายอ แม่ลาน ปะนาเระ ทุ่งยางแดง
  • ยะลา: เบตง กาบัง กรงปินัง ยะหา รามัน
  • สงขลา: นาทวี จะนะ เทพา สะบ้าย้อย

การขยายเวลามีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ได้ต่อเนื่อง

แต่งตั้ง “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” โฆษกรัฐบาล

ที่ครม.ประชุมเห็นชอบแต่งตั้ง นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ให้ดำรงตำแหน่ง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อทำหน้าที่สื่อสารนโยบายและผลการดำเนินงานของรัฐบาลชุดใหม่ต่อสาธารณชน

ข่าวล่าสุด

รมว.อรรถกร แจงดราม่าป้ายซีเกมส์ ย้ำไม่ใช่งบ กกท. พร้อมพิธีเปิด